คูโบต้า – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Tue, 04 Oct 2022 17:12:43 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png คูโบต้า – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 NECTEC-ACE 2022 | Smart Farming นวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่ ยั่งยืน ครบวงจร จาก KUBOTA https://www.nectec.or.th/news/news-article/nectec-ace-2022-kobota.html Tue, 20 Sep 2022 12:32:49 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=30054

โดย | ปาลิตา โคนเคน สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

คุณรัชกฤต สงวนชีวิน Business Value Creation Division Manager บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร และเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมเปิดเวที NECTEC-ACE2022 งานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทค พร้อมนำเสนอนวัตกรรมการจัดการเกษตรกรรมอัจฉริยะ หรือ Agri-Innovation เพื่อการพัฒนานวัตกรรมฟาร์มสู่ความยั่งยืนด้วย Farmnovation คูโบต้าฟาร์ม
คุณรัชกฤต เล่าว่า Smart Farming, Smart Farmer และ Smart Agriculture เป็นคำที่ได้ยินกันมาอย่างยาวนาน โดยสยามคูโบต้าเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรและอยู่คู่กับภาคเกษตรกรรมประเทศไทยย่างเข้าปีที่ 45 เราริเริ่มสร้างเทคโนโลยีเกษตรขึ้นมาให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศ Smart Agriculture ให้ได้
จำนวนลูกค้าในยุคแรกที่คูโบต้าผลิตเครื่องจักรแบบเดินตาม มีจำนวนประมาณเกือบ 4 ล้านแอคเคาท์ทั่วประเทศ แต่ภายในเวลาแค่ 10 ปี เกษตรกรสามารถเข้าถึงเครื่องจักรสมัยใหม่ได้ ปัจจุบันคูโบต้ามีจำนวนลูกค้าประมาณ 5 แสนครัวเรือน แต่ข้อมูลจากทางภาคเกษตรแสดงให้เห็นว่าครัวเรือนเกษตรมีจำนวนประมาณ 8-9 ล้านครัวเรือน และจำนวนเกษตรกรที่ลงทะเบียนมีประมาณเกือบ 12 ล้านคนทั่วประเทศ แน่นอนว่าการใช้เครื่องจักรยังสามารถเติบโตได้อีกในอนาคต และมีเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามการใช้งานเครื่องจักรเป็นเพียงการลดต้นทุนเรื่องแรงงาน ส่วนผลผลิตอาจจะเพิ่มขึ้น หรือ ลดลงก็ได้ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง
สยามคูโบต้าจึงเริ่มพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาการเกษตรของประเทศไทย โดยมองพืชเศรษฐกิจ เช่น พืชไร่ อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยาง ปาล์ม และอื่น ๆ ซึ่งเราไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวคนเดียวได้ เนคเทค สวทช. จึงเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สยามคูโบต้าได้ขอความอนุเคราะห์ในการช่วยเหลือร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงพันธมิตรหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงเกษตรฯ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการค้นหาวิธีการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรไทย

FARM DESIGN กับแพลตฟอร์มการเกษตร เพื่อตอบโจทย์ชีวิต 4.0

วิวัฒนาการของการเกษตรในประเทศไทยยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ปัจจุบันสยามคูโบต้ากำลังศึกษาแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาเชื่อมต่อกับการทำเกษตรได้อย่างแม่นยำ โดยมีแปลงตัวอย่างที่ “คูโบต้าฟาร์ม” อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี แปลงข้าวตัวอย่างจะมีดีไซน์โค้ง ด้านบนเป็นแปลงอ้อย มันสำปะหลัง ยาง และปาล์ม อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด 220 ไร่ ซึ่งเปิดให้เข้าเยี่ยมชมมาเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี และมีจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมดประมาณ 20,000 กว่าคน โดยหลายหน่วยงานไม่ได้เข้ามาเยี่ยมชมเท่านั้น แต่มาพร้อมโจทย์ต่าง ๆ ที่จะทำให้ชีวิตการทำเกษตรดีขึ้น และสยามคูโบต้าก็นำเอาโจทย์เหล่านั้นกลับมาแลกเปลี่ยนภายในบริษัท รวมถึงพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มช่วยตอบโจทย์ชีวิตของเกษตรกร

อนาคตการเกษตร กับ โครงสร้างพื้นฐานของ Smart Farming เพื่อเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

Smart Farming เกิดจากโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สยามคูโบต้าจึงเห็นความสำคัญในการปฏิรูปพื้นที่การเกษตรทั่วประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่สำหรับการพัฒนาเกษตรทั่วประเทศให้ทันสมัย อีกทั้ง Smart Farming ยังยึดหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ในการพัฒนาคูโบต้าฟาร์ม
การปรับใช้ Smart Farming ให้ยั่งยืน จะยึดหลักการถือครองพื้นที่ของเกษตรกร ซึ่งปัจจุบันประมาณ 70% ของประเทศไทย มีพื้นที่ถือครองต่ำกว่า 20 ไร่ และเกษตรกรกลุ่มนี้ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ ดังนั้น การรวบรวมกลุ่มกันเป็นแปลงใหญ่ จะทำให้เข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่หน่วยงานภาครัฐจัดเตรียมไว้ อีกทั้งการต่อยอดให้ Smart Farming เกิดความสำเร็จได้นั้น ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนทัศนคติของเกษตรกรก่อน ขณะนี้รัฐบาลพยายามส่งเสริมตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับใหม่ล่าสุด ฉบับที่ 13 ที่จะพัฒนาประเทศไทยเป็น Smart Farming ตอนนี้ขึ้นอยู่กับพวกคุณทุกคนแล้ว ว่าพร้อมจะเปลี่ยนเป็น Smart Farming ไปด้วยกันหรือยัง ….
]]>
HandySense ชวนมาคุย EP6 | ชวนเที่ยวคูโบต้าฟาร์ม ร่วมพัฒนาพื้นที่เกษตรสมัยใหม่ใน EEC ไปพร้อมกับสยามคูโบต้า และ สวทช. https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/handysense-talk-ep6.html Tue, 06 Sep 2022 17:12:07 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=30122
HandySense ชวนมาคุย กลับมาแล้ว ! กับ EP6 “ชวนเที่ยวคูโบต้าฟาร์ม | ร่วมพัฒนาพื้นที่เกษตรสมัยใหม่ใน EEC ไปพร้อมกับสยามคูโบต้า และ สวทช.
 
EP นี้ ชวนทุกท่านร่วมเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ ที่ “คูโบต้าฟาร์ม” พร้อมเปิดมุมมองที่มีต่อการพัฒนาภาคการเกษตรไทยด้วยเทคโนโลยีของของสยามคูโบต้า และ สวทช. และเรื่องราวการผนึกกำลังครั้งสำคัญระหว่าง 2 หน่วยงานการพัฒนาพื้นที่สาธิตการเกษตรสมัยใหม่ ณ คูโบต้าฟาร์ม การใช้ระบบ HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ให้ถึงมือเกษตรกรและชุมชนโดยรอบ ภายใต้ความร่วมมือในการสนับสนุนการพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation, EECi)
]]>
คูโบต้า ผนึก เนคเทค สวทช. ขยายผลนวัตกรรมระบบจัดการน้ำ (HandySense) สู่ ‘คูโบต้าฟาร์ม’ พื้นที่สาธิตเทคโนโลยีด้านเกษตรสมัยใหม่ https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/handysense-kubotafarm.html Thu, 30 Jun 2022 04:10:12 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=27694

(29 มิ.ย. 2565) ที่คูโบต้า ฟาร์ม อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี : ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะผู้อำนวยการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) พร้อมด้วย ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) โครงการพัฒนาพื้นที่สาธิตเทคโนโลยีด้านเกษตรสมัยใหม่ : ระบบจัดการน้ำ (HandySense) กับบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด โดย นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด และนายรัชกฤต สงวนชีวิน ผู้จัดการฝ่าย Business Value Creation ในการศึกษาวิจัยและพัฒนาพื้นที่สาธิตการเกษตรสมัยใหม่ ผ่านการใช้ระบบ HandySense ระบบเกษตรอัจฉริยะควบคุมการเพาะปลูก บริเวณโซนเกษตรทฤษฎีใหม่ คูโบต้าฟาร์ม เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ให้ถึงมือเกษตรกรและชุมชนโดยรอบ ภายใต้ความร่วมมือในการสนับสนุนการพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation, EECi) ณ คูโบต้าฟาร์ม จ.ชลบุรี

ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา รองผู้อำนวยการ สวทช. ในฐานะผู้อำนวยการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) กล่าวว่า สวทช. ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการเป็นผู้จัดการโครงสร้างพื้นฐานวิจัยขยายผลรองรับอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่ EEC ภายใต้ชื่อ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ซึ่งมีความก้าวหน้าในการพัฒนาเมืองนวัตกรรมในพื้นที่ พร้อมเปิดให้บริการในปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม สวทช. เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาพื้นที่สาธิตเทคโนโลยีในพื้นที่ 3 จังหวัดในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เพื่อร่วมสร้างต้นแบบการเกษตรสมัยใหม่ โดยบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีหลักการพัฒนาเทคโนโลยีและคิดค้นนวัตกรรมการเกษตร เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรควบคู่กับการพัฒนาโซลูชั่นครบวงจร เพื่อสนับสนุนภาคเกษตรให้เป็น Smart Farm อีกทั้งยังได้พัฒนา “คูโบต้าฟาร์ม” ให้เกิดพื้นที่สร้างประสบการณ์การทำเกษตรสมัยใหม่ให้เกษตรกรและคนทั่วไปได้เข้าถึงทุกนวัตกรรมซึ่งถือเป็น Open Innovation Agricultural Farm ที่ใช้ได้จริง

อย่างไรก็ตามการร่วมมือทางวิชาการ ในโครงการพัฒนาพื้นที่สาธิตเทคโนโลยีด้านการเกษตรสมัยใหม่ ในพื้นที่คูโบต้าฟาร์มแห่งนี้ สวทช. มีการดำเนินงานโครงการ Smart Farm ร่วมคูโบต้าฟาร์มมาก่อนหน้าแล้ว คือ ระบบ Aqua IOT สำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และระบบ HandySense สำหรับการเพาะปลูก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของนักวิจัยเนคเทค สวทช. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือด้านระบบโรงเรือนอัจฉริยะ ของสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ สวทช. อีกด้วย

“ความร่วมมือระหว่าง สวทช. และบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด นี้เป็นการบูรณาการจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย เสริมสร้างศักยภาพในการขยายผลงานวิจัย พัฒนา สู่ภาคสนามการใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธิตขนาดใหญ่ สู่การใช้ประโยชน์ในเครือข่ายลูกค้า เครือข่ายเกษตรกร ผู้ประกอบการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร เพื่อการปรับแปลงเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับบริบทการใช้งานของภาคการเกษตรไทย นำไปสู่การขยายผลในด้านการตลาด ด้านอุตสาหกรรมเกษตร และด้านการพัฒนากำลังคน เพื่อให้พื้นที่สาธิตเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ ตอบโจทย์เป้าหมายร่วมกันในการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร และเสริมความเข้มแข็งของภาคการเกษตรของไทย” ดร.เจนกฤษณ์ กล่าว

นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า คูโบต้า เล็งเห็นว่า สวทช. เป็นหน่วยงานพันธมิตรที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมการเกษตรให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้ร่วมมือกันในการสนับสนุนการพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi กระทั่งเกิดเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่สาธิตเทคโนโลยีด้านเกษตรสมัยใหม่ : ระบบจัดการน้ำ HandySense โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพื้นที่สาธิตการเกษตรสมัยใหม่และศึกษาวิจัยแนวทางและรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการเกษตรในรูปแบบต่างๆ ที่มีการประยุกต์ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ IoT ที่เหมาะสม และมีเทคโนโลยีต้นแบบในอนาคตให้กับผู้ที่สนใจการทำเกษตรแบบ Smart Farming โดยมีการติดตั้งระบบ HandySense ณ บริเวณโซนเกษตรทฤษฎีใหม่ คูโบต้าฟาร์ม และเตรียมการขยายผลสู่เกษตรกรที่สนใจทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดีที่ผ่านมา เราได้พัฒนาความร่วมมือกับสวทช. ในจัดทำพื้นที่ต้นแบบสาธิตการใช้เทคโนโลยี Smart Farming ในพื้นที่ คูโบต้าฟาร์ม แห่งนี้ เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรครบวงจรและสัมผัสการใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่ผ่านประสบการณ์ตรง อีกทั้งส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และมีความมั่นใจว่าความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนจะเป็นแรงขับเคลื่อนสาคัญในการพัฒนา Smart Farming ในประเทศไทยให้สามารถเกิดขึ้นจริง จากการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อยกระดับภาคการเกษตรของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับระบบเกษตรแม่นยำฟาร์มอัจฉริยะ (HandySense) เพื่อการเพาะปลูก ประกอบด้วยอุปกรณ์ตรวจวัดและควบคุมสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยต่อการเจริญเติบโตของพืช ด้วยการนำเทคโนโลยีเซนเซอร์ (sensor) ผนวกอุปกรณ์ไอโอที (Internet of Things) มาพร้อมกับความโดดเด่นคือ อุปกรณ์ใช้งานง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ในราคาที่เกษตรกรเข้าถึงได้ โดย HandySense จะตรวจวัดค่าสภาพแวดล้อมที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชผลแบบเรียลไทม์ผ่านเซนเซอร์ (sensor) ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ความชื้นในดิน ความชื้นสัมพัทธ์ แสง และส่งต่อข้อมูลจากเซนเซอร์ผ่านระบบคลาวด์แล้วนำมาเปรียบเทียบกับค่าที่เหมาะสมของการเพาะปลูกพืช (Crop Requirement) เพื่อแจ้งเตือนและสั่งการระบบต่างๆ ให้ทำงานต่อไป มีการติดตั้งใช้งานไปแล้วมากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ และประกาศเป็นเทคโนโลยีแบบเปิด (Open Innovation) เพื่อให้ผู้สนใจนำไปใช้กับแปลงเกษตรและเชิงพาณิชย์ได้แล้ว โดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ (License Fee) และค่าตอบแทนการใช้สิทธิรายปี (Royalty Fee) มุ่งหวังให้เกษตรกรไทยยุคใหม่ ได้มีเครื่องมือที่ทันสมัยใช้งาน ในราคาที่จับต้องได้ และต้องการให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือทางด้านสมาร์ตฟาร์มโดยผู้ประกอบการไทย

]]>