ประกวดนวัตกรรม – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Wed, 05 Oct 2022 06:10:56 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png ประกวดนวัตกรรม – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 เนคเทค สวทช. จับมือเครือข่ายพันธมิตร เสริมแกร่งเยาวชนในยุค New Normal เฟ้นหาสุดยอดนวัตกรน้อยด้านเกษตรอัจฉริยะ HandySense ตามเศรษฐกิจใหม่ BCG Model https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/handysense-csr-final.html Mon, 07 Feb 2022 17:17:44 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=24519

7 กุมภาพันธ์ 2565 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) จัดประกวดโครงการประยุกต์ใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะ HandySense ใช้งานได้จริงในโรงเรียนรอบชิงชนะเลิศในรูปแบบออนไลน์ สำหรับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลายถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ชิงรางวัลอุปกรณ์ HandySense พร้อมทุนพัฒนาโครงการฯ หวังเป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีเกษตรที่ช่วยเติมเต็ม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อโรงเรียน และชุมชนอย่างยั่งยืน 

คุณกุลประภา นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญของสวทช.คือการนำผลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปใช้ในการดำเนินงานให้เกิดผลตอบโจทย์ไปสู่การใช้งานจริง ในรูปแบบ BCG Economy Model ซึ่งเป็นโมเดลที่ต้องใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมนำทางเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของคนทั้งประเทศ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้สังคมต้องปรับเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต การบริโภค รวมทั้งการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ทั้งคนเมืองและต่างจังหวัด

การนำเอาแนวBCG Economy Model ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) คือการใช้ทรัพยากรชีวภาพที่มีมากมายและหลากหลายอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์อย่างที่สุดด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นำมาสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คือ การนำวัสดุต่าง ๆ  กลับมาใช้ใหม่หรือใช้ให้ยาวนานที่สุดอย่างคุ้มค่า และสุดท้ายก็คือเรื่องของ เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกันนั้น สวทช.จึงได้นำผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ในการดำเนินงานให้เกิดผลบรรลุดังกล่าว หนึ่งในนั้นคือ การส่งเสริมเรื่องเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งผลงานวิจัยและพัฒนาที่ชื่อว่า HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ โดย เนคเทค สวทช.

ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า “โครงการส่งเสริมสวนเกษตรอัจฉริยะในโรงเรียนยุคปกติใหม่ (New Normal) มีวัตถุประสงค์ที่ต้องการปลูกฝังแนวความคิด สร้างแรงจูงใจของการนำเทคโนโลยีด้านการเกษตรไปประยุกต์ใช้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่วัยเรียน เพื่อให้นักเรียนได้รู้จัก เข้าใจ และทดลองปฏิบัติจริง โดยเริ่มต้นจาก HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ ที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค สวทช. ได้ตั้งเป้าหมายให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ หรือผู้สนใจทั่วไปนำไปผลิตเพื่อใช้หรือจำหน่ายได้ โดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ (License Fee) และค่าตอบแทนการใช้สิทธิรายปี (Royalty Fee) ภายใต้แนวคิด Smart Farming Open Innovation มุ่งหวังให้เกษตรกรไทยยุคใหม่ได้มีเครื่องมือที่ทันสมัย ใช้งานในราคาที่จับต้องได้ ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือทางด้านสมาร์ตฟาร์มโดยผู้ประกอบการไทย เพื่อขับเคลื่อน Smart Farm สู่สังคมไทย สร้างระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีเพื่อการเกษตร สนับสนุนการเกษตรสมัยใหม่ ตอบโจทย์ BCG Model

HandySense เป็นชุดอุปกรณ์ที่ผนวกเทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแวดล้อมทางการเกษตรและระบบควบคุมการทำงานอัตโนมัติ ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม จึงเป็นนวัตกรรมที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นของนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา เพื่อนำไปสู่การสร้างทัศนคติ หรือ มุมมองใหม่ ที่ส่งเสริมการประยุกต์ใช้ หรือบูรณาการเทคโนโลยีทางด้านเกษตรกับกิจกรรมในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน

โครงการฯ นี้ได้รับความสนใจโรงเรียนทั่วประเทศ ถึงแม้ว่าในระยะแรกจะกำหนดพื้นที่โครงการในภาคกลาง และ ภาคตะวันออกเท่านั้น โดยมีโรงเรียนส่งข้อเสนอโครงการเข้ามาร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 36 ทีม 24 โรงเรียน จาก 17 จังหวัด และคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในวันนี้ทั้งสิ้น 31 ทีม จาก 20 โรงเรียน จาก 14 จังหวัด โดยทุกข้อเสนอโครงการที่ส่งเข้ามาแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีการเกษตรเพื่อพัฒนาพื้นที่เกษตรที่โรงเรียนมีอยู่เดิมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

คุณนิติ เมฆหมอก นายกสมาคมไทยไอโอที กล่าวว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมสนับสนุนในโครงการดีๆ เช่นนี้ ก่อนอื่นต้องขอเล่าถึงวัตถุประสงค์หลักทั้ง 4 ข้อของสมาคมไทยไอโอที คือ 1) สร้างการรับรู้ในด้านเทคโนโลยีไอโอทีให้สังคม ไม่ว่าท่านจะอยู่ในบทบาทไหน นิสิต นักศึกษานักพัฒนานักวิจัยคณาจารย์ ให้รับรู้ประโยชน์และความสำคัญของเทคโนโลยีไอโอที 2) สมาคมฯ พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ เทคนิคทักษะต่างๆ ทางด้านเทคโนโลยี เพื่อมุ่งมั่นที่จะสร้างผู้เชี่ยวชาญให้เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป 3) การสร้างเครือข่ายไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหรือหน่วยงานทางการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ 4) มุ่งมั่นที่จะสร้าง Use case สร้างงานให้เกิดขึ้นได้จริงไม่ว่าจะเป็นโครงการจากภาครัฐและเอกชน

หลังจากการจัดตั้งสมาคมไทยไอโอที ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายข้างต้น และในครั้งนี้สมาคมฯ ได้พิจารณาและเห็นศักยภาพของนักวิจัยของเนคเทค สวทช. ที่ได้วิจัยออกแบบและพัฒนา HandySense ที่ปัจจุบันได้เปิดเป็น Open Hardware Open Platform ซึ่งมีคุณประโยชน์ในหลายๆ บริบท ไม่ว่าจะใช้ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการเกษตรให้เป็นการเกษตรอัจฉริยะ หรือนำมาใช้ในการศึกษาทดลองให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษาซึ่งสามารถเป็นอุปกรณ์พื้นฐานเพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอดในหมู่นักพัฒนาโดยมีการตั้งกลุ่มนักพัฒนาและผู้สนใจทาง Social Network ที่เรียกว่า HandySense Community ทางสมาคมฯ ตั้งใจสนับสนุนโครงการนี้ในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการร่วมพัฒนาและผลิตงานให้พร้อมสำหรับเชิงพาณิชย์ 2)การประชาสัมพันธ์ผลงานผ่านช่องทางสื่อต่างๆของสมาคมฯ

สำหรับกิจกรรมการประกวดโครงงานในครั้งนี้ทางสมาคมไทยไอโอที บริษัท ซีนเนอร์ยี่เทคโนโลยี จำกัด บริษัท ซูปร้าเทคโนโลยี จำกัด ได้ร่วมสนับสนุนของรางวัลทั้งหมดเป็นมูลค่า 10,000 บาท

ผลการแข่งขัน

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันนี้ ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวรายงานและให้กำลังใจน้อง ๆ ผู้เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายกับการนำเสนอผลงานแก่คณะกรรมการผ่านระบบออนไลน์ (Webex Event) โดยมี คุณกุลประภา นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. คุณนิติ เมฆหมอก นายกสมาคมไทยไอโอที และคุณนริชพันธ์ เป็นผลดี ทีมวิจัยเทคโนโลยีเกษตรดิจิทัล เนคเทค สวทช. ได้ให้เกียรติเป็นคณะกรรมการตัดสินและประกาศผลรางวัล

รางวัลชนะเลิศ
โครงการเกษตรอัจฉริยะด้วย HandySense
จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์วิทยาเขตกําแพงแสน จังหวัดนครปฐม
ได้รับอุปกรณ์ HandySense ครบชุด ประกอบด้วย บอร์ด เซนเซอร์แสง อุณหภูมิ ความชื้น และทุนสนับสนุน จำนวน 3,000 บาท
.

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1
โครงการตู้เย็นมีชีวิต จากโรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี
ได้รับอุปกรณ์ HandySense ประกอบด้วย บอร์ด และ เซนเซอร์ความชื้น และทุนสนับสนุน จำนวน 2,000 บาท

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2
โครงการสวนเกษตรอัจฉริยะอนาคตใหม่ของโรงเรียนวัดห้วยจรเข้วิทยาคม
จากโรงเรียนวัดห้วยจรเข้วิทยาคม จังหวัดนครปฐม
ได้รับบอร์ด HandySense และทุนสนับสนุนจำนวน 1,000 บาท

รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่

โครงการระบบอัตโนมัติในการปลูกสะระแหน่จากน้ำทิ้งตู้เลี้ยงปลาควบคุมด้วย HandySense จากโรงเรียนศึกษานารี กรุงเทพมหานคร

โครงการพัฒนาระบบ Smart Farm บูรณาการร่วมกับโรงเรียนเศรฐกิจพอเพียงและโรงเรียนปลอดขยะ จากโรงเรียนวังโมกข์พิทยาคม จังหวัดพิจิตร

ได้รับทุนสนับสนุนรางวัลละ 1,000 บาท

]]>
เด็กไทยประชันไอเดียนวัตกรรม ! คว้ารางวัล YETI2021 เฟ้นหานักเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และนวัตกรรุ่นเยาว์ https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/yeti2021-awards.html Fri, 10 Sep 2021 07:46:49 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=20914

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) ได้จัดการประกวดนักเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และนวัตกรรุ่นเยาว์ (Young Electronics Technologists and Innovators: YETI) ประจำปี 2564 แข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ชิงทุนพัฒนาผลงานและเงินรางวัลมูลกว่า 1.5 แสนบาท ในรูปแบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ภายใต้ธีม: พลังงานและสิ่งแวดล้อมรอบตัว เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนในประยุกต์องค์ความรู้ด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ให้สามารถพัฒนาเป็นสิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรม โดย ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นประธานในการเปิดงาน พร้อมหน่วยงานพันธมิตร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และมหาวิทยาลัยศูนย์ประสานงาน 12 แห่ง โรงเรียนกว่า 50 แห่ง ที่ร่วมสนับสนุนการจัดประกวดในปีนี้

ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สวทช. ได้กำหนดให้การพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นพันธกิจหนึ่งที่สำคัญของ สวทช. โดยกิจกรรมหนึ่งที่ สวทช. เนคเทค ร่วมสนับสนุนในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา คือ การจัดค่ายนักอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นเยาว์ หรือ eCamp ตลอดจนการประกวดสำหรับเยาวชนที่ผ่านค่าย eCamp เพื่อเฟ้นหาเยาวชนยอดนักอิเล็กทรอนิกส์ไทย ในเวทีประกวดนักเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และนวัตกรรุ่นเยาว์ ซึ่งเป็นเวทีการประกวดโครงงานสำหรับกลุ่มเยาวชน นักเรียน ครู นิสิต และนักศึกษา ที่ได้บูรณาการความรู้จากค่ายฯ ด้านวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ผนวกความคิดสร้างสรรค์ Creative Thinking มาประยุกต์พัฒนาเป็นขึ้นเป็นผลงานที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตจริง หรือเป็นจุดเริ่มต้นของผลงานที่สามารถนำไปต่อยอดขยายผลให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม และเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนไทยเกิดความตื่นตัวและหันมาพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกันมากขึ้นอีกด้วย

ดร.กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวว่า การจัดประกวดผลงานเยาวชนที่ผ่านค่ายนักอิเล็กทรอนิกส์    รุ่นเยาว์ หรือ eCamp ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 19 ปี  โดยได้ปรับเปลี่ยนชื่อ และรูปแบบกิจกรรมตามสถานการณ์ จาก การแข่งขันประกวดประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์รุ่นเยาว์ YECC  การประกวดนักเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และนวัตกรรุ่นเยาว์ YETI  ในระยะ 2 ปีให้หลังนี้ แต่อย่างไรก็ดี เป้าหมายสำคัญของกิจกรรมนี้ คือ การส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และครู ที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้นำความรู้ และประสบการณ์ด้านฮาร์ดแวร์ อนาล็อก และดิจิทัล มาประยุกต์กับซอฟต์แวร์ เพื่อพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมที่มีความคิดสร้างสรรค์ผ่านกระบวนการคิด และดำเนินการอย่างเป็นระบบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งยังได้มีโอกาสนำผลงานมาเผยแพร่สู่สาธารณชน ซึ่งเป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาบุคลากรสู่อุตสาหกรรมภาคอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง

นางสาวตติยา สาครพันธ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์การ (กฟผ.) กล่าวว่า ทาง กฟผ.มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมที่สนับสนุนเยาวชนได้พัฒนาทักษะการเป็นนักคิด นักประดิษฐ์ สร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ ที่จะสร้างประโยชน์แก่โลกของเรา โดยเฉพาะนวัตกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่ง กฟผ. เองกว่า 52 ปีที่เราได้เป็นผู้ดูแลความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ก็ได้มุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินงานและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาศักยภาพและเทคโนโลยีโรงไฟฟ้า การพัฒนานวัตกรรม EV ต่าง ๆ เช่น รถ/เรือ สถานีชาร์จ ร่วมกับพันธมิตรมากมาย ยินดีอย่างยิ่งที่เรามีพันธมิตรที่เหนียวแน่นเพิ่มขึ้น และได้พลังจากน้อง ๆ เยาวชนมาช่วยกันรวมพลังขับเคลื่อนประเทศ พร้อม ๆ ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับภารกิจของ กฟผ. เพื่อไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเพื่อลมหายใจแห่งอนาคตของเราทุกคน

ประกาศผล ! ไอเดียนวัตกรรมเด็กไทยคว้ารางวัล YETI2021

ในปีนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายนักอิเล็กทรอนิกส์รวมกว่า 500 คน ส่งผลงานสิ่งประดิษฐ์เข้าร่วมประกวด 21 ทีม และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 15 ทีม รวม 60 คน เป็นนักเรียน 30 คน ครู 15 คน และนิสิต นักศึกษา 15 คน

โดยผู้แข่งขันจะต้องสร้างสรรค์โครงงานอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำความรู้ หลักการ ทฤษฎีทางอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐาน วิทยาศาสตร์หรือความรู้ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์มาประยุกต์ เพื่อให้เกิดการนำอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ สำหรับการพัฒนาท้องถิ่น โดยในปีนี้ ได้กำหนดหัวข้อการแข่งขันเรื่อง พลังงาน และ สิ่งแวดล้อมรอบตัว

พลังงาน เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์มาพัฒนาผลงานเพื่อ “การผลิตพลังงานทางเลือก” “เพื่อลดการใช้พลังงาน” หรือ “เพื่อบริหารจัดการ พลังานให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

สิ่งแวดล้อมรอบตัว  เป็นการนำเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้แก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางอากาศ ได้แก่ การแก้ปัญหา PM 2.5 หรือตรวจสภาพสิ่งแวดล้อมในการทำนายพฤติกรรมบางอย่าง เช่น สถานีวัดอากาศที่ทำให้สามารถคำนวณการจัดการเรื่องน้ำในการเกษตรได้ เป็นต้น

การประกาศผลรางวัลนักเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และนวัตกรรุ่นเยาว์ (Young Electronics Technologists and Innovators: YETI) ประจำปี 2564 จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ ในวันที่ 10 กันยายน 64 โดย คุณสิรินทน อินทร์สวาท ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงสร้างพื้นฐาน เนคเทค สวทช. และ คุณศิริลักษณ์ ศรีมลฑล ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์การการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้กล่าวแสดงความยินดีและมอบรางวัล

รางวัลชนะเลิศ

โครงการ GreenWaste : make microgarden happen จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผู้พัฒนา | ด.ญ.ภิญญดา แก้วเกตุ และ ด.ช. องอาจ ศุภรัศมี
อาจารย์ที่ปรึกษา | นายอภิรัตน์ เบญจวรรณ

เครื่องทำปุ๋ยจากเศษอาหาร ที่ใช้เวลา 20 ชั่วโมง “GreenWaste” ผู้พัฒนาได้เห็นถึงความสำคัญในการที่จะช่วยกันลดขยะจากเศษอาหาร แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ทางเราได้มองเห็นซึ่งจะนำไปใช้ในครัวเรือน เริ่มต้นจากตัวเรา เพื่อช่วยลดการเกิดขยะ ช่วยในการลดต้นทุนในการปลูกผักสวนครัว และลดเรื่องเวลาได้มาก เราอยากให้เศษอาหารที่ทานเหลือในแต่ละมื้อ แต่ละวัน สามารถนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ จึงได้เริ่มที่จะสร้างโปรเจคนี้ขึ้นมา ที่มีชื่อว่า GreenWaste ซึ่งมีต้นทุนต่ำ และนำไปใช้ได้ทุกที่ มีขนาดเล็ก กะทัดรัด โดยเทคโนโลยีที่มาใช้ Internet of Thing มาควบคุมการทำงานและแสดงผล อยู่ที่ไหนก็สามารถตรวจสอบได้ ง่ายต่อการใช้งาน

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1

โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพถังหมักก๊าซชีวภาพขนาดเล็ก ด้วยระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผู้พัฒนา | ด.ญ.นาง คำจันทร์, น.ส.สุทัตตา คำแก้ว
ครูที่ปรึกษา | ว่าที่ ร.ต.สุวิชา จิตบาล โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์

ด้วยปัญหาของโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ที่มีนักเรียนจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อรับประทานอาหารแล้วจะมีเศษอาหารเหลือทิ้งจำนวนมาก จึงต้องมีการจัดการกับเศษอาหารนั้น ซึ่งสามารถนำมาทำเป็นวัตถุดิบในการผลิตก๊าซชีวภาพได้ ประกอบกับที่โรงเรียนมีห้องเรียนคหกรรม จึงสามารถนำก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้มาใช้ในการเรียนในรายวิชาคหกรรมได้ ทำให้ประหยัดงบประมาณ และยังใช้พลังงานหมุนเวียนมาช่วยในการผลิตก๊าซชีวภาพด้วย

โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของจุลินทรีย์ในถังหมักก๊าซชีวภาพขนาดเล็ก โดยการควบคุมค่า pH ให้อยู่ระหว่างค่า 6.5 – 7.5 ค่าอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 35 – 55 องศาเซลเซียส ควบคุมการกวนใบพัด วันละ 2 ครั้ง เวลา 6.00 น. และเวลา 18.00 น. ครั้งละ 10 นาที และใช้เศษอาหารเป็นวัตถุดิบในการผลิตก๊าซชีวภาพ

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2

โครงการระบบรับชื้อขวดพลาสติกอัตโนมัติ จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร
ผู้พัฒนา | ด.ญ.ธนัชชา แก้วมีสี และด.ญ.สุภัทรา ไร่รัตน์
อาจารย์ที่ปรึกษา | นางสาวรมิตา พิมพะไสย์  จาก โรงเรียนอนุกูลนารี

ปัญหาขยะขวดพลาสติกเป็นหนึ่งในปัญหาในโรงเรียนอนุกูลนารีที่ต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วน เนื่องจากนักเรียน มักนำขยะขวดพลาสติกไปทิ้งรวมกับขยะชนิดอื่นๆ ทำให้ขวดเปรอะเปื้อน ยากต่อการคัดแยก โรงเรียนจึงได้จัดตั้งธนาคารขยะ ขึ้นมาเพื่อรับซื้อขวดพลาสติก ซึ่งเปิดทำการเป็นเวลา มีเจ้าหน้าที่ให้บริการ และนักเรียนจะต้องสะสมขวดให้ได้เป็นจำนวนมาก ถึงจะนำไปขายได้ ทำให้การขายไม่สะดวกและสิ้นเปลืองพื้นที่ จัดเก็บขวดในห้องเรียน นักเรียนจึงไม่ค่อยนำขวดพลาสติกไปขาย กลุ่มผู้พัฒนาจึงมีแนวคิดที่จะทำให้การขาย ขวดพลาสติกทำได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจัดทำระบบรับซื้อขวดพลาสติก อัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการขายขวดน้ำพลาสติก สามารถขายได้ตลอดเวลาไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ ในการสะสม ขวดพลาสติก

รางวัลชมเชย

โครงการไม่แตะก็ติดสวิตช์อัจฉริยะ จาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผู้พัฒนา | ด.ญ.ณัฐณิชา เซียห้วน และน.ส.ฤทัยชนก เกษตรเจริญ
นักศึกษาพี่เลี้ยงโครงงาน | นายชาคริต แอสบิลลี่
อาจารย์ที่ปรึกษา | นายเทียนชัย สังขพันธ์

พลังงานมีความสำคัญอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของมนุษย์ จึงทำให้เกิดปัญหาการใช้พลังงานไป อย่างสิ้นเปลือง ซึ่งหนึ่งสาเหตุของปัญหาการใช้พลังงานสิ้นเปลืองมาจากการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ หรือการเปิดไฟในขณะที่มีแสงสว่างเพียงพอ และในปัจจุบันยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุส่วนหนึ่งของการติดเชื้อ มาจากการสัมผัสสิ่งของสาธารณะ หรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน อย่างเช่น การเปิด-ปิดสวิตช์ การเปิด-ปิดก๊อกน้ำ เป็นต้น ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้จัดทำจึงมุ่งเน้นพัฒนาสวิตช์อัจฉริยะขึ้น

โครงการกล่องอัจฉริยะช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้ป่วยเมื่อเกิดอุบัติเหตุในห้องน้ำ
ผู้พัฒนา | ด.ช.จิรภัทร แก้วด้วง และด.ช.ธนาทรัพย์ ภู่ทิม
ครูที่ปรึกษาโครงงาน | นางสาว เกศทิพย์ จ้อยศิริ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ฉะเชิงเทรา
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ | ผศ.ดร.ดุสิต ธนเพทาย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน

จากการศึกษาทางคณะผู้จัดทำพบว่าผู้สูงอายุและผู้ป่วยในขณะที่เข้าห้องน้ำนั้น อาจเกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องมาจากปัญหา ด้านสุขภาพเองของผู้สูงอายุ หรือปัญหาห้องน้ำที่ชำรุดต่างๆที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้สูงอายุและอาจถึงแก่ชีวิตได้ ทางคณะผู้จัดทำได้เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงทำสิ่งประดิษฐ์กล่องอัจฉริยะช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้ป่วย ขณะเกิดอุบัติเหตุ ในห้องน้ำเพื่อช่วยในการแจ้งเตือนให้กับผู้ดูแล ในการใช้ห้องน้ำเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น และลดความรุนแรงที่เกิดกับตัวผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 

รางวัลพิเศษจาก EGAT Special Award

โครงการระบบป้องกันไฟป่า (Watch Eagle Forest Fire Protection System) จากมหาวิทยาลัยบูรพา
ผู้พัฒนา | ด.ช.วรพล สุเมธโสภณ และด.ช.กฤษฎ์ เทพพันธ์
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน | นายรุ่งขจร โลเกตุ โรงเรียนวัฒนานคร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว

ระบบป้องกันไฟป่า Watch Eagle เป็นระบบที่มีส่วนประกอบการทำงาน 3 ส่วน คือ (1) ระบบเฝ้าติดตามและ ตรวจจับแบบ real time วัดอุณหภูมิและความชื้นและGPS หรือภาพถ่ายโดยใช้ UAV ระบบเซนเซอร์ตรวจจับความร้อนและควัน (2) ระบบสั่งการและแจ้งเตือนใช้บอร์ด KidBright ระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน NB-IoT ระบบเก็บข้อมูลผ่าน NETPIE  3.ระบบดับไฟจำลองปั้มน้ำและสปริงเกอร์ 

รางวัล Popular Vote

โครงการสุขาแห่งความสุข จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผู้พัฒนา | ด.ช.อริยะ ถาวรวงษ์ และด.ช.พรรษกร นักฟ้อน
ครูที่ปรึกษา | นางสาวระวิวรรณ ทิพย์พันธ์
อาจารย์ที่ปรึกษา | ผศ.ดร.ปรมินทร์ เณรานนท์ และผศ.ดร.ดุจดาว บูรณะพาณิชย์กิจ

จากปัญหาห้องน้ำสาธารณะโดยทั่วไปมักจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น และมีการเปิดหลอดไฟทิ้งไว้ตลอดเวลา ซึ่งทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า ส่งผลให้เกิดปัญหาทั้งทางด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ผู้จัดทำจึงมุ่งเน้นพัฒนาระบบอัตโนมัติ ในการเปิดไฟ กำจัดกลิ่น และเพิ่มสุนทรียภาพในการใช้ห้องน้ำโดยมีเพลงบรรเลงเมื่อมีการเข้าใช้ห้องน้ำ ทำให้ผู้ใช้ห้องน้ำสามารถเข้าใช้ห้องน้ำสาธารณะได้อย่างมีความสุข ระบบอัตโนมัติที่ใช้จะแก้ไขปัญหาหลัก ๆ ของการเข้าใช้ห้องน้ำสาธารณะ ได้แก่ การกำจัดกลิ่น การประหยัดพลังงานไฟฟ้า และการเพิ่มสุนทรียภาพในการเข้าใช้ห้องน้ำผ่านเสียงดนตรี

]]>