มข – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Sun, 16 Apr 2023 08:06:50 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png มข – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 สวทช. ผนึกกำลัง มข. ลงนามความร่วมมือเสริมแกร่งทางวิชาการเดินหน้าวิจัย สร้าง และขยายนวัตกรรมการตรวจโรควัณโรค https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/nstda-mou-kku-tb.html Mon, 27 Mar 2023 05:03:07 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=32392

24 มีนาคม 2566 : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลงนามความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  มุ่งการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และชีววิทยา ด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และการประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมเสริมทัพนวัตกรรมสมัยใหม่ ช่วยในการขับเคลื่อนประเทศ ในหลากลายมิติ

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า จากเดิมที่ผ่านมาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นและสวทช.มีความร่วมมือระหว่างอาจารย์นักวิจัย อยู่อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่เพื่อให้เกิดความร่วมมือที่มากขึ้น และเป็นการยกระดับบรรยากาศในการทำงานร่วมกันที่ชัดเจนและต่อเนื่อง ในการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศน์ของการใช้เทคโนโลยีที่วิจัยและพัฒนาขึ้นภายในประเทศ

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง 2 หน่วยงานในครั้งนี้มีขึ้น โดยมุ่งหวังให้งานวิจัยและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นนั้น สามารถนำไปสู่ผลกระทบต่อสังคม ก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในวงกว้าง ต่อสังคมทุกภาคส่วน และเพื่อการขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นกลไกที่ช่วยส่งเสริมการทำงานวิจัยและสร้างนวัตกรรมร่วมกัน และนำไปสู่ความร่วมมือใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาและการวิจัยระดับบัณฑิต ศึกษา เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีสมรรถนะสูงตอบโจทย์การขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาเชิงพื้นที่ รวมไปถึงการขับเคลื่อนประเทศในมิติการแพทย์และสาธารณสุขทั้งระดับประเทศและภูมิภาค ที่ผ่านมามีความร่วมมือในด้านการนำเทคโนโลยีทางนาโนจาก สวทช. มาช่วยพัฒนานวัตกรรมตรวจวัดตัวอ่อนของพยาธิใบไม้ตับ และนวัตกรรมเซนเซอร์ตรวจหาโปรตีนบ่งชี้มะเร็งท่อน้ำดีเพื่อคัดกรองกลุ่มเสี่ยงระยะเริ่มแรกที่จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิต

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมสนับสนุนให้เกิดการขยายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการวิจัยและพัฒนา ด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และชีววิทยา ด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และการประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ ที่จะนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมผลงานวิจัย ตลอดจนผนึกกำลัง อาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา ในการพัฒนาข้อเสนอโครงการวิจัยเพื่อขอรับการสนับสนุนทุนวิจัยจากภายในประเทศและต่างประเทศ บูรณาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบองค์รวมทั้ง 2 หน่วยงาน รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาสนับสนุนนักศึกษาเพื่อปฏิบัติงานวิจัยและเพิ่มทักษะโดยใช้งานวิจัยเป็นฐานอีกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่ง ในการทำงานร่วมกับพันธมิตร ซี่งเป็นเจ้าของโจทย์ที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย  สวทช. พร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปเสริมการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจต่างๆ ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อสร้างเครือข่าย ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและการวิจัย โดยมีกรอบความร่วมมือครอบคลุม การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และชีววิทยา ด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และการประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบปัญญาประดิษฐ์(AI) นวัตกรรมด้านการเกษตรและอาหาร นวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมสมัยใหม่ นวัตกรรม ด้านวัสดุศาสตร์และพลังงาน เป็นต้น การลงนามระหว่าง 2 หน่วยงาน มหาวิทยาลัยขอแก่นซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์บริการประชาชนและโรคประจำถิ่น  ผนวกกับความเชี่ยวชาญของเนคเทค สวทช. ในเรื่องของเทคโนโลยีขึ้นสูง

ในส่วนการพัฒนานวัตกรรการป้องกันดูแลรักษาวัณโรค ได้มีความร่วมมือกันระหว่าง ศูนย์วิจัยและบริการตรวจวินิจฉัยโรคติดเชื้อระบาดใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยการนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง พื้นผิวขยายสัญญาณ Raman ที่วิจัยพัฒนาโดย เนคเทค สวทช. มีชื่อว่า “ONSPEC” มาร่วมกันวิจัยเพื่อสร้างเป็นเครื่องมือ ที่มี ประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรอง วัณโรคทั้งแบบแสดงอาการและวัณโรคระยะแฝงได้อย่างรวดเร็ว (ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชม จากเดิม 1-2 วัน) พร้อมทั้งร่วมกันพัฒนายื่นข้อเสนอขอทุนวิจัยไปยังองค์กรต่างประเทศ (On process 80 %) ซึ่งมีเครือข่ายในการนำผลงานไปขยายผลทั่วโลก อันจะเป็นผลในการเพิ่มประสิทธิภาพสู่การยุติอุบัติการณ์ของวัณโรคตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก เพื่อยุติการแพร่ระบาดของวัณโรค ในปี 2035 อีกทั้งยังยกระดับอุตสาหกรรมผลิตเซนเซอร์และการบริการตรวจวัดของประเทศไทยไปสู่ตลาดสากลต่อไป

เนื่องในวัน World TB Day 2023 เนคเทคได้จัดกิจกรรมสัมมนาทางวิชาการเรื่องเทคโนโลยีและการวิจัยเพื่อยุติวัณโรค โดย ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ(สวทช.) สายบริหารการวิจัยและพัฒนา กล่าวเปิดกิจกรรม โดยกล่าวถึงความสำคัญของการจัดกิจกรรม และ World TB Day 2023 ที่สหพันธ์องค์กรต่อต้านวัณโรคและโรคปอดนานาชาติ กำหนดให้ 24 มีนาคมของทุกปีเป็น “วันวัณโรคสากล” (World TB Day) และกำหนดหัวข้อรณรงค์ คือ “Unite to End TB” ภาษาไทย คือ“ รวมพลัง ยุติวัณโรค” หมายความว่า “ร่วมกันทุกภาคส่วน เพื่อจะยุติปัญหาวัณโรค”

รองศาสตราจารย์เกียรติไชย ฟักศรี คณบดีบัณฑิตวิทยาลัยและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและบริการตรวจวินิจฉัยโรคติดเชื้อระบาดใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงการประยุกต์เทคโนโลยีขั้นสูง และร่าง Guideline ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อยุติวัณโรค

ดร.นพดล นันทวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยอุปกรณ์สเปกโทรสโกปีและเซนเซอร์ เนคเทค สวทช. กล่าวถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Raman scattering และ surface-enhanced Raman scattering ในการตรวจวินิจฉัยวัณโรค

แพทย์หญิงผลิน กมลวัทน์ ผู้อำนวยการกองวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแผนยุติวัณโรค (End-TB) ในประเทศไทย พร้อมเชิญแขกพิเศษ Dr.Nobuyuki Nishikiori , Medical Officer จาก World Health Organization (WHO) ร่วมแชร์ และอภิปรายแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็น

จากนั้นเป็นการแถลงการเริ่มดำเนินการวิจัยที่ยื่นขอการสนับสนุนจาก Open Philanthropy Foundation เรื่อง Development of Raman spectroscopy (RS) and Surface Enhanced Raman Scattering (SERS) based test for diagnosis of active tuberculosis and latent tuberculosis infection supporting mass screening in the community โดย รองศาสตราจารย์เกียรติไชย ฟักศรี คณบดีบัณฑิตวิทยาลัยและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและบริการตรวจวินิจฉัยโรคติดเชื้อระบาดใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ ดร.นพดล นันทวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยอุปกรณ์สเปกโทรสโกปีและเซนเซอร์ เนคเทค สวทช.

]]>
เนคเทคจับมือ กรมควมคุมโรค มข. มทส. วิจัยและพัฒนาทางด้านการแพทย์ด้วย AI เปิดตัว “ระบบการตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับและหนอนพยาธิอื่นด้วย AI” https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/mou-ai-ovmif.html Mon, 08 Nov 2021 10:30:30 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=23604

เนคเทคจับมือ กรมควมคุมโรค มข. มทส. ร่วมเดินหน้าการวิจัยและพัฒนาทางด้านการแพทย์ด้วย AI พร้อมเปิดตัวครั้งแรก ระบบการตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับและหนอนพยาธิอื่นด้วยเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI)

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) มหาวิทยาขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาทางด้านการแพทย์ โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) พร้อมเปิดตัว “ระบบการตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์” เข้ามาช่วยตรวจยืนยันการวินิจฉัยหาไข่หนอนพยาธิได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ  สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในพื้นที่ที่ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การรักษาที่ครบถ้วนทั่วถึง  ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดี มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีของประชาชน

โรคหนอนพยาธิเป็นโรคติดต่อที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทห่างไกล และ
ถิ่นทุรกันดาร  สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจาการกินอยู่อย่างไม่ถูกสุขลักษณะ  เช่น การบริโภคอาหารที่ปรุงไม่สุก ไม่สะอาด หรือการอยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น ไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบอาหารรับประทาน ไม่สวมรองเท้าเดินบนดิน หรือ การขับถ่ายไม่ถูกสุขลักษณะ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะทำให้เสี่ยงต่อการติดโรคหนอนพยาธิแล้ว ยังอาจเป็นการแพร่กระจายโรคอื่น ๆ อีกด้วย

โรคหนอนพยาธิส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจในระยะยาว เช่น โรคพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็งท่อน้ำดี
โดยจากรายงานของแผนงานโรคหนอนพยาธิ กรมควบคุมโรค พบว่า ประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ติดโรคหรือเคยติดโรคพยาธิใบไม้ตับกว่า 6 ล้านคน เป็นที่น่าสนใจว่า ความชุกของพยาธิใบไม้ตับลดลง สืบเนื่องมาจากการดำเนินงานในโครงการกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ซึ่งในปี 2559 ถึงปัจจุบัน พบอัตราการติดพยาธิใบไม้ตับลดลงจาก ร้อยละ 16.3 เหลือร้อยละ 3.23 และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายปฏิรูประบบสาธารณสุขด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสุขภาพ  ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้เข้าสู่ระบบดิจิทัล นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยพัฒนาระบบบริการและระบบบริหารจัดการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ รวดเร็ว ปลอดภัย ทั่วถึง เท่าเทียม เจ้าหน้าที่มีระบบปฏิบัติงานที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ไร้รอยต่อ ทันสถานการณ์มุ่งสู่การเป็น MOPH 4.0 ตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุข จึงมีการเพิ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อลดภาระงานของเจ้าหน้าที่และเกิดผลดีต่อประชาชน จึงมีการบูรณาการขับเคลื่อนงานร่วมกัน  เกิดเป็นความร่วมมือของทั้ง 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมควบคุมโรค มหาวิทยาลัยขอนแก่น ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.)และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ปฏิบัติราชการแทน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมควบคุมโรค โดยกองโรคติดต่อทั่วไป ได้มีการขับเคลื่อนการกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ผ่านโครงการรณรงค์การกำจัดปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร พร้อมทั้งถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเป็นการต่อยอดและสานต่อ จึงได้มีการจัดทำโครงการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับและหนอนพยาธิด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยพัฒนาทางด้านการแพทย์ ร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การวินิจฉัยโรค วิเคราะห์ปรสิต ผลักดันการนำงานวิจัยด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาช่วยด้านการคัดกรองและวินิจฉัยโรคหนอนพยาธิ ให้สามารถระบุชนิดของหนอนพยาธิได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ เพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยกรมควบคุมโรค รับผิดชอบดำเนินงานในส่วนการเก็บภาพไข่หนอนพยาธิที่ตรวจพบจริงในพื้นที่  เฉลยชนิดของไข่หนอนพยาธิในภาพโดยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหนอนพยาธิ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการดูภาพไข่หนอนพยาธิ อำนวยความสะดวกในพื้นที่ทำงานและการบริหารจัดการงบประมาณในการทำงานด้านการรวบรวมภาพไข่หนอนพยาธิต้นแบบ

รองศาสตราจารย์นายแพทย์ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ให้ความสำคัญและส่งเสริมความเข้มแข็งด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งเรื่องของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยได้จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ หรือ Medical Hub และนำเอาเรื่องของ AI มาเป็นประเด็นสำคัญในการพัฒนาต่อยอด  เช่น การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งการวินิจฉัยโรคที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วย อาทิ การอ่านชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา การอ่านฟิล์มเอกซเรย์ที่มีความสามารถสูงในการตรวจสอบที่จะช่วยลดความผิดพลาดและแปลผลได้อย่างละเอียดแม่นยำ รวมทั้งต่อไปจะมีหลักสูตรในระดับปริญญาโทในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รับผิดชอบในส่วนการจัดเตรียมไข่หนอนพยาธิจากตัวเต็มวัย ถ่ายภาพไข่ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ และทำเฉลยชนิดของไข่หนอนพยาธิจากภาพ รวมทั้งสนับสนุนข้อมูลเอกสารวิชาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องภายใต้โครงการดังกล่าว

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) กล่าวว่า การพัฒนาการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับและหนอนพยาธิด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งสอดคล้องนโยบายรัฐบาลและเกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ให้บริการและประชาชน โดยเนคเทค สวทช. รับผิดชอบในการวิจัยและพัฒนาโมเดลรู้จำไข่หนอนพยาธิ และพัฒนา API ให้สามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลา และร่วมสนับสนุนเพื่อพัฒนาองค์ความรู้สำหรับการดำเนินงานของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง โดยทีมวิจัยจากห้องปฏิบัติการวิจัยการประมวลผลและเข้าใจภาพ (Image Processing and Understanding : IPU) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์วัตถุในภาพ โครงการนี้จึงเป็นการประยุกต์ใช้เทคนิคการตรวจจับวัตถุในภาพกับภาพไข่หนอนพยาธิ โดยเน้นที่ไข่หนอนพยาธิสองชนิดเป็นหลัก คือไข่ของพยาธิใบไม้ตับและไข่ของพยาธิใบไม้ลำไส้ขนาดเล็ก ที่มีขนาดเล็กและมีความคล้ายกันมาก ซึ่งทำให้ได้ศึกษาเทคนิค ในกลุ่มการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) หลายรูปแบบเพื่อคัดเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับโจทย์ สร้างเป็นแบบจำลอง AI จากภาพของไข่หนอนพยาธิซึ่งผ่านการตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมให้บริการในรูปแบบของ Web Service

รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้ให้ให้ความสำคัญในการนำคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงและซอฟต์แวร์ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึง Application สามารถทำงานร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยวินิจฉัยโรคที่ต้องการรักษาได้อย่างถูกต้องแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งประโยชน์ของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ไม่เพียงแต่เพื่อจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมาใช้ มุ่งเน้นพัฒนาระบบบริการให้ครอบคลุมระบบสุขภาพชุมชน เช่น การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในการตรวจวินิจฉัย พร้อมทั้งพัฒนา Application เพิ่มความสะดวกในการตรวจวินิจฉัยโรคของแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการดูแลสุขภาพประชาชน สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี รับผิดชอบในการ พัฒนาเว็บแอปพลิเคชั่นเชื่อมโยงระบบ PWA กับระบบ Line LIFF อำนวยความสะดวกผู้ใช้ระบบ Line application ให้สามารถส่งข้อมูลขอคำปรึกษาเพื่อวินิจฉัยชนิดไข่หนอนพยาธิได้

การจับมือเดินหน้าส่งเสริมการวิจัยพัฒนาด้านการแพทย์ ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในครั้งนี้ ถือเป็นการบูรณาการองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ สร้างเครือข่ายความร่วมมือจากทั้ง 4 หน่วยงาน เพื่อช่วยในการคัดกรอง เพิ่มความถูกต้องในการตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัยหาพยาธิใบไม้ตับและหนอนพยาธิอื่นจากภาพถ่ายด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญเข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ขาดแคลนกำลังคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับและหนอนพยาธิอื่นและที่สำคัญที่สุดนั่นคือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ชนบทห่างไกลของประเทศไทย ได้เข้าถึงระบบบริการการตรวจคัดกรองวินิจฉัยหาพยาธิใบไม้ตับและหนอนพยาธิอื่นที่ผลตรวจถูกต้องและแม่นยำ ช่วยให้ได้รับการรักษาโรคหนอนพยาธิที่ครบถ้วน ทั่วถึง ในทุกกลุ่มเป้าหมาย  ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดี อันจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้นของประชาชนต่อไป

]]>