วัคซีน – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Tue, 26 Jul 2022 03:40:37 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png วัคซีน – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 3 Steps เตรียมความพร้อมก่อนไปต่างประเทศในช่วง COVID-19 https://www.nectec.or.th/news/news-article/intervac.html Wed, 20 Jul 2022 02:40:36 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=27943

บทความและภาพประกอบ : ปทิตตา อุดมวิทิต

ในสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้การเดินทางไปต่างประเทศอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดต่าง ๆ ของแต่ละประเทศ ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ หรือ นักท่องเที่ยว ต้องมีการเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการท่องเที่ยว การหาที่พัก หรือการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องสำหรับการเดินทาง 

สำหรับ 3 Steps สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องเตรียมพร้อมก่อนการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีอะไรบ้าง มาดูกัน 

Step 1 : ศึกษามาตรการและข้อจำกัดของประเทศปลายทาง

เราต้องศึกษารายละเอียดของประเทศที่เราจะเดินทางไปว่าประเทศนั้นเปิดรับนักท่องเที่ยวหรือไม่ มีข้อจำกัดหรือมาตรการอย่างไรบ้าง ต้องกักตัวหรือเปล่าและถ้าหากต้องกักตัวจะต้องกักกี่วัน แล้วมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ 

Step 2 : เตรียมเอกสาร 

นอกจาก Passport ตั๋วเครื่องบิน เอกสารรับรองการตรวจ COVID-19 และเอกสารอื่น ๆ ที่เราจะต้องมีแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ และสำคัญต่อการเดินทางไปต่างประเทศก็คือ หนังสือรับรองการฉีดวัคซีน COVID-19 หรือ International Vaccine Certificate หรือ Vaccine Passport นั่นเอง  

Step 3 : การลงทะเบียนก่อนเข้าประเทศ

เช็คประเทศปลายทางที่เรากำลังจะเดินทางไปว่าต้องมีการลงทะเบียนก่อนเข้าประเทศหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศเกาหลี นักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนผ่านระบบ K-ETA อย่างน้อย 24ชั่วโมง ก่อนขึ้นเที่ยวบิน

ขั้นตอนการขอ Vaccine Passport

สำหรับการขอ Vaccine Passport สามารถขอได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิชัน “หมอพร้อม” โดยคลิกที่เมนู  ” International Certificate ”  แล้วกดเมนู “ขอหนังสือรับรองฯ” หลังจากนั้นกรอกข้อมูลและอัปโหลดไฟล์ภาพหนังสือเดินทาง (Passport) ตามขั้นตอนที่ระบุในแอปพลิเคชัน และทำการชำระเงิน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ จะทำการตรวจสอบข้อมูล หากครบถ้วนและถูกต้อง Vaccine Passport แบบอิเล็กทรอนิกส์จะส่งถึงผู้ขอภายใน 3 วันทำการ

จุดเด่นของ INTERVAC

ระบบการออก Vaccine Passport ของไทย หรือระบบ INTERVAC มีจุดเด่นคือ สามารถยืนยันแหล่งที่มาของข้อมูลด้วย Public Key , ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลการฉีดวัคซีนได้ , มีการเชื่อมต่อข้อมูลกับหน่วยงานสาธารณสุขและกรมการกงสุล และ ใบรับรองแบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

เมื่อเตรียมความพร้อมครบทั้ง 3 Steps แล้วการเดินทางไปต่างประเทศของคุณในช่วงที่ยังมีการระบาดของ COVID-19 ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป

]]>
กรมควบคุมโรค และ เนคเทค สวทช. ต่อยอด “INTERVAC” วัคซีนพาสปอร์ตสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/intervac-hajj-2022.html Mon, 30 May 2022 13:47:45 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=26652
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จัดโครงการ โครงการป้องกันโรคติดต่อแก่ชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ปี 2565 เพื่อให้ชาวไทยมุสลิมได้รับวัคซีนได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดต่อและโรคอื่น ๆ ระหว่างเดินทางและขณะปฏิบัติศาสนกิจ เมื่อ 30 พ.ค. 65 ณ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ กทม.
โดยมี นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการฯ พร้อมด้วย H.E. Mr. Essam Saleh H. Algetale อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทยนายอรุณ บุญชม ผู้แทนจุฬาราชมนตรี นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม
ภายในงานมีบริการตรวจสุขภาพให้แก่ชาวไทยมุสลิมก่อนเดินทางไปแสวงบุญ ให้บริการฉีดวัคซีนไข้กาฬหลังแอ่นและวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมออกเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยใช้ระบบ INTERVAC
ระบบ INTERVAC คืออะไร
 
ดร.ชาลี วรกุลพิพัฒน์ หัวหน้าทีมวิจัย ทีมวิจัยความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (SEC) เนคเทค สวทช. เผยว่า “เนคเทค สวทช. ได้ร่วมพัฒนายอดระบบ INTERVAC หรือ ฐานข้อมูลเอกสารโครงการรับรองการฉีดวัคซีนเพื่อการเดินทางระหว่างประเทศ ที่พัฒนาขึ้นโดย กรมควบคุมโรค ซึ่งในระยะแรกใช้กับวัคซีน COVID-19 เท่านั้น
 
สำหรับโครงการฯ นี้ ได้ต่อยอดระบบเพื่อมาใช้สำหรับการเดินทางไปยังประกอบพิธีฮัจย์ โดยออกใบรับรองการฉีดวีคซีนทั้งสิ้น 3 ชนิด ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรค COVID-19 โรคไข้กาฬหลังแอ่น และโรคไข้หวัดใหญ่”.
Untitled-1
ไม่เกิน 5 นาที ! ได้รับวัคซีนพาสปอร์ต ด้วย ระบบ INTERVAC
 
ระบบ INTERVAC พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ที่ทำการบันทึกข้อมูลและประชาชนที่เข้ารับบริการ ซึ่งเดิมการออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะจัดทำในรูปแบบ “สมุดเล่มเหลือง” ที่เขียนด้วยลายมือ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาการทำงานมากขึ้น และไม่สามารถรองรับปริมาณและความต้องการของประชาชนได้
NTV3
ดร.สุนทร ศิระไพศาล นักวิจัย ทีมวิจัยความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (SEC) เนคเทค สวทช. อธิบายว่า “ระบบ INTERVAC ได้เชื่อมโยงข้อมูลกับระบบหมอพร้อมแบบอัตโนมัติเพื่อช่วยลดความผิดพลาดในการกรอกข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลการได้รับวัคซีน เมื่อใช้ระบบ INTERVAC ประชาชนสามารถรับสมุดเล่มเหลืองได้ภายใน 1 วัน ช่วยลดระยะเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ลดลงเฉลี่ยไม่เกิน 5 นาที ต่อ ผู้รับบริการเท่านั้น”
ระบบ INTERVAC จะประกอบไป 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
  • ส่วนบันทึกข้อมูล: สำหรับเจ้าหน้าที่ทำการคีย์ข้อมูลข้อมูลประชาชน ข้อมูลการฉีดวัคซีน และข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้อง
  • ส่วนของการขอใบรับรอง: มีฟังก์ชันที่จะพิมพ์ข้อมูลแใบรับรองลงสมุดเล่มเหลืองได้ทันที
  • ส่วนใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์: เป็นการออกใบรับรองในรูปแบบ QR CODE สามารถตรวจสอบได้โดยใช้เทคโนโลยีมาตรฐานสากล ที่เรียกว่า Digital signature ที่สามารถรับรองความถูกต้องของข้อมูล ว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่เคยถูกแก้ไข และออกโดยกรมควบคุมโรค

ด้านแพทย์หญิงปริณดา วัฒนศรี ผู้อำนวยการหลักสูตรเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว สถาบันเวชศาสตร์ป้องกันศึกษา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “ระบบ INTERVAC เดิมใช้งานเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ โดยได้บูรณาการการทำงานร่วมกับเนคเทค สวทช.พัฒนาให้สามารถใช้งานในระดับประเทศ สามารถออก QR Code เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ได้มาตรฐานสอดคล้องกับแนวทางขององค์การอนามัยโลก ทำให้ประชาชนสามารถที่จะเดินทางได้อย่างปลอดภัยทั่วโลก”

NTV-2
ซึ่งในอนาคตเนคเทค สวทช. จะต่อยอด ระบบ Intervac สำหรับเก็บข้อมูลโรคอื่น ๆ สำหรับการเดินทางไปประเทศอื่น ๆ ต่อไป
]]>
เนคเทคนำเทคโนโลยีสนับสนุนสภากาชาดไทยและภาคีเครือข่าย ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ผู้หนีภัยการสู้รบและกลุ่มชาติพันธุ์ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/covid19-vaccine-idps.html Mon, 25 Oct 2021 07:03:07 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=23140

เนคเทค สวทช. ส่งเทคโนโลยีสนับสนุนภารกิจสภากาชาดไทยและภาคีเครือข่าย ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แก่ผู้หนีภัยการสู้รบและกลุ่มชาติพันธุ์ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน

สภากาชาดไทยร่วมกับภาคีเครือข่ายให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เชิงรุก สำหรับผู้หนีภัยการสู้รบที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ช่วยลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย และเสียชีวิต สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของคนในประเทศ ณ พื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านถ้ำหิน อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

วันที่ 25 ตุลาคม 2564 เวลา 10.30 น. ณ ที่ทำการศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านถ้ำหิน อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี นายอภิชาติ ชินวรรโณ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ ในฐานะผู้แทนเลขาธิการสภากาชาดไทยได้เป็นประธานในการเปิดงานฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เชิงรุก สำหรับผู้หนีภัยการสู้รบที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน โดยมีนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีได้กล่าวต้อนรับคณะผู้บริหารจากสภากาชาดไทยและผู้แทนสานักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNHCR) ผู้แทนสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) ผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีส่วนร่วมกับสภากาชาดไทยในการดำเนินงานตามโครงการให้บริการฉีดวัคซีนครั้งนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ได้กล่าวถึงความร่วมมือในการปฏิบัติงานของสภากาชาดไทย ซึ่งการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เชิงรุก เป็นการดำเนินงานตามหลักมนุษยธรรม ช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ยากแก่เพื่อนมนุษย์ที่ยากไร้ เดือดร้อน และไร้โอกาส ให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งการได้รับวัคซีนฯ ครอบคลุมทุกคนอย่างรวดเร็ว จะช่วยลดความรุนแรงของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้อย่างมาก รวมทั้งเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ของคนในประเทศ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วน ต้องระดมความร่วมมือกันให้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทั้งคนไทย ประชากรข้ามชาติ หรือกลุ่มชนชาติพันธุ์กลุ่มต่างๆที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางต่างๆ ซึ่งมีความเสี่ยงที่เจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตหากติดเชื้อโควิด-19 และมีความยากลำบากในการเข้าถึงบริการ ให้ได้รับการฉีดวัคซีนฯ ได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 (ซิโนฟาร์ม) ซึ่งสภากาชาดไทยได้มอบหมายสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ นำไปฉีดให้แก่กลุ่มเปราะบาง ทั้งคนไทย และประชากรข้ามชาติ โดยไม่เลือกเชื้อชาติ ชนชั้น วรรณะ ศาสนา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลดความรุนแรงในการเจ็บป่วยและเสียชีวิต ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสภากาชาดไทย หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ดำเนินการตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยให้บริการฉีดวัคซีนฯ ไปแล้ว จำนวน 18,211 โดส

สำหรับการปฏิบัติงานฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เชิงรุก ให้แก่ผู้หนีภัยจากการสู้รบที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ บ้านถ้ำหิน อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้กำหนดวันปฏิบัติงาน ฉีดวัคซีนฯ เข็มที่ 1 คือ วันที่ 25–26 ตุลาคม 2564 โดยมีผู้รับบริการฉีดวัคซีนฯ จำนวน 1,295 คน และเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสภากาชาดไทย กระทรวงมหาดไทย จังหวัดราชบุรี โรงพยาบาลสวนผึ้ง IRC UNHCR โดยการสนับสนุนจาก IFRC ICRC ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จากัด (มหาชน) (AIS)

โดยกำหนดการปฏิบัติงานฉีดวัคซีนฯ เข็มที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งการปฏิบัติงานครั้งนี้ ได้มีการนำระบบบริการฉีดวัคซีนฯ ที่มีการบันทึกข้อมูลของผู้ฉีดวัคซีนฯ ด้วยระบบเทคโนโลยีแบบ Face Verification และ Iris recognition ที่ได้รับการพัฒนาโดยเนคเทค และ iRespond พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบหมอพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข (Moph IC) เพื่อลงทะเบียนฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ ซึ่งใช้วิธีกำหนดรหัสประจำตัวบุคคลด้วยการขึ้นต้นด้วยตัวอักษร 1 ตัว ตามด้วยหมายเลข 13 หลักเป็นการชั่วคราวให้กับผู้รับวัคซีนฯ ทั้งนี้ ในโอกาสต่อไป เมื่อสภากาชาดไทยสามารถจัดหาวัคซีนหรือได้รับบริจาควัคซีนจากองค์กรต่างๆได้มากขึ้นก็จะขยายการฉีดวัคซีนไปยังประชากรกลุ่มต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั่วประเทศไทยต่อไป

การดำเนินงานครั้งนี้นอกจากสภากาชาดไทยจะได้รับความอนุเคราะห์อย่างดียิ่งจาก หน่วยงานข้างต้นแล้ว สภากาชาดไทยยังได้รับความร่วมมือและความเสียสละจากทีมงาน อสม. และอาสาสมัครภาคประชาสังคมทุกท่านซึ่งมีส่วนร่วม และขับเคลื่อนให้การปฏิบัติงาน มีความพร้อมในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เชิงรุก แก่ผู้หนีภัยจากการสู้รบฯ ราบรื่นด้วยดีทุกประการ ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานครั้งนี้ คือการมุ่งหวังในการป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาด และลดความรุนแรงจากการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว สิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือ การยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยไม่เลือกเชื้อชาติ ชนชั้น วรรณะ ศาสนา เป็นความเห็นอกเห็นใจ และเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการ สภากาชาดไทย ยังได้กล่าวในรายงานความร่วมมือตามโครงการให้บริการฉีดวัคซีนในตอนท้ายว่า สภากาชาดไทยหวังว่าการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือแก่ผู้หนีภัยจากการสู้รบในครั้งนี้ จะเป็นการจุดประกายความร่วมมือในการทางานด้านมนุษยธรรมระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งองค์กรภายในประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศต่อไปในอนาคต ดังพระราชดำรัสของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ซึ่งพระราชทานไว้ว่า “งานของสภากาชาดนั้น นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือผู้ที่สมควรจะได้รับการสงเคราะห์ ซึ่งเป็นคนในประเทศแล้วยังเกี่ยวกับการสงเคราะห์บุคคลที่กำลังตกทุกข์ได้ยากทั่วๆ ไป เป็นงานที่กระทำเพื่อมนุษยธรรมอย่างแท้จริง ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกๆ คนที่จะทำงานช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน”

ในการนี้ มีผู้บริหารสภากาชาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงานดังกล่าว พร้อมตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ แพทย์ พยาบาล อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต่อไป

]]>