Data Sharing – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Sat, 30 Sep 2023 10:24:27 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png Data Sharing – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 เนคเทค สวทช. มุ่งเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนให้เกิด Data Sharing ในหลายบริบทสำคัญของประเทศ https://www.nectec.or.th/news/news-article/ace2023-data-sharing.html Mon, 18 Sep 2023 14:55:41 +0000 https://nectec.or.th/?p=34019
สาระจากการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “พลังข้อมูล เพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทย: Data for Thai, Data for all” ภายในงาน NECTEC-ACE 2023 โดย ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช.
สิ่งที่สำคัญที่สุุด และ ยากที่สุด ในการนำข้อมูลมาใช้งาน คือ “ความร่วมมือ” ปัจจุบันมีหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่พยายามเชื่องโยงการทำงาน เชื่อมโยงให้เกิดการเปิดเผยข้อมูลภายในประเทศ ด้านเนคเทค สวทช. ในฐานะหน่วยงานวิจัยและพัฒนาได้ร่วมเติมเต็มในส่วนของความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือที่มุ่งขับเคลื่อนให้เกิด Data Sharing ในสังคมไทย

— The Begining of Journey

Open-D – Data Platform Technology for Open Data หรือ แพลตฟอร์มสาธารณะด้านข้อมูลเปิด ที่เนคเทค สวทช. ได้รับโอกาสจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล หรือ DGA ในการพัฒนา Backend ของเว็บไซต์ data.go.th ในการเปิดเผยข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ
ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา เนคเทคต้องขับเคลื่อน Open-D ให้เป็นประโยชน์ต่อภาคส่วนต่าง ๆ อย่างจริงจังและยั่งยืน จึงเปิดเป็น Open source หรือ แพลตฟอร์มสาธารณะทั้งหมด โดยมีเป้าหมายให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถจัดทำบัญชีข้อมูลของหน่วยงานและให้บริการข้อมูลเปิดที่เป็นไปตามมาตรฐานระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลไปยัง Data.go.th ได้ ปัจจุบันมีข้อมูลมากกว่า 10,000 ชุดข้อมูล มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านครั้ง มากกว่า 200 หน่วยงาน
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ให้โอกาสเนคเทค สวทช. ได้พัฒนา Data Platform โดยอาศัยแพลตฟอร์ม Open-D เช่น สำนักงานสถิติแห่งชาติในการขับเคลื่อนการทำ Metadata มากกว่า 8,000 ชุดข้อมูล , กรุงเทพมหานครซึ่งมีวิสัยทัศน์ในการเปิดเผยข้อมูลขนาดใหญ่ของของจังหวัด มีชุดข้อมูลมากกว่า 1,000 ชุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Open-d > https://nectec.or.th/opend/
 

— เปิดตัว 2 Big Data ด้านการพัฒนาเยาวชน และพัฒนาคนทั้งประเทศ

การที่เนคเทค สวทช. มี Data Platform อยู่ในหน่วยงาน และการแชร์ข้อมูลออกไปยังหน่วยงานที่เป็นหน่วยงานพันธมิตรนั้น ยังไม่เพียงพอสำหรับการสร้างประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เนคเทค สวทช. จึงพยายามส่งต่อ Big Data เหล่านี้ สร้างระบบนิเวศข้อมูล ให้เกิดประโยชน์กับประเทศอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่าง 2 งานวิจัยสำคัญ ได้แก่
1) Thai School Lunch ระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยี Big Data Analytics กับ AI ในวิเคราะห์ ประมวลผลสารอาหาร และแสดงผลเป็นเมนูมื้อกลางวันได้อย่างรวดเร็ว เมนูอาหารในระบบที่มีมากกว่า 1,000 ชนิด หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทางภาคสาธารณสุข ภาคการศึกษา ผู้ปกครอง ภาคธุรกิจ สามารถวางแผนคำนวณปริมาณของวัตถุดิบในการจัดซื้อแต่ละครั้ง ทำให้สามารถประมาณค่าใช้จ่ายได้ล่วงหน้า และสรุปค่าใช้จ่ายจริงตามราคาวัตถุดิบในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยในการวางแผนจัดการงบประมาณ และจัดทำรายงานประเมินคุณภาพอาหารกลางวันของแต่ละโรงเรียนได้อย่างสะดวก ถูกต้อง และรวดเร็ว ปัจจุบันมีข้อมูลจากโรงเรียนกว่าห้าหมื่นจากแปดหมื่นโรงเรียนทั่วประเทศ สามารถเข้าดูข้อมูลได้ที่ https://thaischoollunch.in.th/tsldashboard.html
2) TPMAP ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform) ฐานข้อมูลประชากร 48 ล้านคน อาศัยข้อมูลจากหลายแหล่งมายืนยันซึ่งกันและกัน เช่น ใช้ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จากกรมการพัฒนาชุมชน และข้อมูลผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐจากกระทรวงการคลัง ข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ข้อมูลเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ ข้อมูลนักเรียนจากกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคนใช้วางแผนดูแลประชาชนในระดับครัวเรือน ลดการแก้ไขปัญหาซ้ำซ้อน ลดงบประมาณในการจัดการเรื่องของการพัฒนาคนในพื้นที่ ใช้ในการวางแผนนโยบายยุทธศาสตร์ในการจัดการพัฒนาคนใน 5 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่ ด้านการศึกษา ด้านรายได้ ด้านการเข้าถึงบริการรัฐ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เล็งเห็นความสำคัญของฐานข้อมูลชุดนี้ จึงเปิดตัว TPMAP เป็น Open Data โดยจัดการเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนยุทธศาสตร์การวางแผนกิจกรรมของกระทรวงต่าง ๆ และภาคธุรกิจสามารถนำไปเป็น Reference ได้ในหลายมิติ https://www.tpmap.in.th/open-data

— Open Data Initiative | เป้าหมายถัดไปของเนคเทคในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล

ความสำคัญของ Data Sharing ไม่ใช่เฉพาะเรื่อง “การสร้างความโปร่งใสในสังคม” แต่เป็นเรื่องของ “การสร้างมูลค่าทางธุรกิจ” เช่นเดียวกัน เนคเทค สวทช. พยายามสร้างสมดุลนั้น โดยร่วมเติมเต็มด้านวิศวกรรม เป็นเครื่องมือ มุ่งขับเคลื่อนให้เกิดการเปิดเผยข้อมูล ในหลายบริบทสำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น
1) ข้อมูลด้านการแพทย์ การเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ (Medical Data Sharing) ที่มีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ความปลอดภัยของข้อมูลเรียบร้อยแล้ว การเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์จะนำไปสู่การพัฒนา AI ด้านการแพทย์ เพื่อช่วยวิจัยโรค ช่วยวางแผนการรักษาได้
.
2) ข้อมูลด้านการเกษตร เนคเทค สวทช. พัฒนา Agri-Map ฐานข้อมูลการเกษตรขนาดใหญ่ของประเทศ โดยบูรณาการข้อมูลพื้นฐานด้านการเกษตร จากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหก­รณ์ สำหรับใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการการเก­ษตรไทย อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่
.
ปัจจุบันเนคเทค สวทช. พยายามขับเคลื่อนให้มีการนำข้อมูลจาก Agri-Map ไปใช้งานสร้างเป็นนวัตกรรม แอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้โดยง่ายในรูปแบบ API ผ่านแพลตฟอร์ม THAGRI หรือแพลตฟอร์ม ความร่วมมือข้อมูลเกษตรประเทศไทย (Thailand Agricultural Data Collaboration Platform) https://www.thagri.in.th/
.
3) ข้อมูลด้านภาษา ที่ถูกเทรนด์โดย Supercomputer ให้กลายเป็น Large language model (LLM) คือ องค์ประกอบสำคัญที่อยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชันอย่าง ChatGPT หากเราต้องการสร้างแอปพลิเคชันอย่าง ChatGPT ที่ใช้ในบริบทเฉพาะทางเช่น ด้านการท่องเที่ยว ด้านการแพทย์ ด้านกฏหมาย จำเป็นต้องเริ่มต้นจาก Large language model (LLM) นี้
 
]]>
“Data Sharing” ที่ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่กลับ “พูดง่าย ทำยาก” เผย 3 ปัจจัยขับเคลื่อนการแบ่งปันข้อมูลให้เกิดขึ้นจริงในประเทศ https://www.nectec.or.th/news/news-article/ace2023-data-sharing-2.html Thu, 31 Aug 2023 10:15:37 +0000 https://nectec.or.th/?p=34033

สาระจากเสวนา “มองอนาคต Data Sharing ในประเทศไทย” ในงานแถลงข่าวการจัดงาน NECTEC-ACE 2023

จากการเผชิญความท้าทายเรื่องข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ผ่านการจัดทำแผนและนโยบาย การมองภาพสถานการณ์ปัจจุบัน ฉายภาพฉากทัศน์ในอนาคต วิเคราะห์ช่องว่างการพัฒนาจนนำไปสู่การจัดทำแผนนโยบายต่าง ๆ
ดร.ปฏิมา จงเจริญธนาวัฒน์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการพิเศษ กองศึกษาและวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เล่าว่า “Data Sharing เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการวางแผนเพื่อพัฒนาประเทศ” จากบทบาทการทำงานของสภาพัฒน์ฯ ทุกกระบวนการจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากในหลากมิติ โดยต้องเผชิญกับความท้าทายตั้งแต่เริ่มต้นติดต่อขอข้อมูลผ่านจดหมายซึ่งล้าช้าและหากหน่วยงานเจ้าของข้อมูลเปลี่ยนผู้ดูแลระยะเวลาในขั้นตอนนี้จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องข้อมูลที่เก็บไว้คนละฐาน รวมถึงความไม่เพียงพอของข้อมูลเชิงสังคม (Lack of Data) ที่ต้องนำมาใช้วางแผน หรือ คาดการณ์อนาคตได้
ถึงแม้ว่า Data Sharing จะเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นด้วยว่าสำคัญและต้องเกิดขึ้นในประเทศ แต่เมื่อลงมือทำจริงเป็นเรื่องที่ยากมาก นอกเหนือจากความท้าทายเรื่องข้อมูลแล้ว ยังมีเรื่องความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ความกังวลต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลในการแบ่งปันข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น การนำข้อมูลไปใช้ผิดประเภท การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล กระบวนการตรวจสอบที่เพิ่มมากขึ้น หรือแม้กระทั่งการถูกลดบทบาทในการเป็นเจ้าของข้อมูล ที่อาจส่งผลต่อการจัดสรรทรัพยากรหรืองบประมาณ อย่างไรก็ตาม ดร.ปฏิมา ได้ฉายภาพ 3 ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ Data Sharing เกิดขึ้นในประเทศ ได้แก่
1) การสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของการแบ่งปันข้อมูล เช่น การกำหนดธรรมมาภิบาลของข้อมูลให้ให้ชัดเจน กำหนดสิทธิหน้าที่ในการเข้าถึงข้อมูล รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านข้อมูลที่จำเป็นพร้อมที่จะเป็นสปริงบอร์ดให้ Data Sharing ของประเทศก้าวต่อไปได้
2) การกำหนดโครงสร้างแรงจูงใจในการแบ่งปันข้อมูลให้ชัดเจน เพื่อให้ทุกหน่วยงานเห็นว่า การแบ่งปันข้อมูลไม่ได้เป็นการถูกลดทอนบทบาทหรือว่าสูญเสียทรัพยากรใด ๆ ไป แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
3) การแบ่งปันข้อมูลระหว่างภาครัฐและเอกชน ยกตัวอย่าง นโยบายแก้ปัญหาความยากจนและทุกช่วงวัยที่ผ่านมา สภาพัฒน์ฯ ใช้ข้อมูลภาครัฐเป็นหลัก หากมีข้อมูลจากภาคเอกชนเข้ามา อาจทำให้เห็นกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาในมิติใหม่ ๆ เพื่อกำหนดการสวัสดิการให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

– “ความเชื่อมโยง” กลไกสำคัญนำข้อมูลพัฒนาประเทศ

ถึงแม้สภาพัฒน์ฯ จะเป็นหน่วยงานในการวางแผนและกำหนดทิศทางในการพัฒนาประเทศ แต่ทราบดีว่า การวางแผนเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ปัจจัยความแห่งความสำเร็จ (Key to Success) ของการพัฒนาประเทศ แต่จำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนแผนนั้น ๆ อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญของการไปสู่ความสำคัญดังกล่าว คือ ขาดความเชื่อมโยงในการขับเคลื่อน การทำงาน ในลักษณะที่ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ในบทบาทของตน ภาพของการพัฒนาจึงเกิดขึ้นเป็นส่วน ๆ ไม่เชื่อมโยงกันทั้งประเทศ
“ในระยะต่อจากนี้ไป เราเลยตั้งใจว่าเราอยากทำหน้าที่เป็น “ช่างเชื่อม” คือ เชื่อมโยงการดำเนินงานของหลาย ๆ หน่วยงานเข้าด้วยกัน” ดร.ปฏิมา กล่าว
บทบาทแรกของช่างเชื่อมในมุมมองของสภาพัฒน์ฯ คือ การเชื่อมโยงฐานข้อมูล เพื่อให้ทั้งประเทศมองเห็นปัญหาเดียวกัน มองเห็นอนาคตเดียวกันจากข้อมูลที่มีด้วยกัน โดยริเริ่มผ่าน 2 โครงการใหญ่ ได้แก่
1) TPMAP คือ ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform) ซึ่งไม่ได้โฟกัสเฉพาะมิติทางเศรษฐกิจ ปัญหาความยากจนซึ่งเป็นเรื่องของรายได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็น มิติด้านของการศึกษามิติการเข้าถึงบริการภาครัฐ มิติทางสุขภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการตกเป็นผู้มีความขัดสนทางรายได้ในอนาคต โดยบูรณาการฐานข้อมูลภาครัฐที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความจนและพัฒนาคนทั้งหมด เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมาย ให้ทุกหน่วยงานที่มีบทบาทและภารกิจเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาดังกล่าว ได้มองเห็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน สามารถที่จะระดมทรัพยากรไปสู่ปัญหาเดียวกันได้
 
ในระยะต่อสภาพัฒน์ฯ และ เนคเทค สวทช. มีแผนในการพัฒนาระบบโดยนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยให้ข้อมูลมาตรการที่เหมาะสม และสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ สามารถตอบสนองปัญหาได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการผลักดันให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนที่มีส่วนร่วมในการแก้ยากจน พัฒนาคนทุกช่วงวัยได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลเดียวกัน

2) eMENSCR ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ ระบบสารสนเทศที่ใช้ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐผ่านโครงการ/การดำเนินงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยเชื่อมโยงโครงการทั้งหมดที่ได้รับงบประมาณจากภาครัฐว่าแต่ละโครงการถูกเอาไปใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายในใดบ้าง กลุ่มใดที่ได้ประโยชน์ เป็นศูนย์รวมที่ประเทศจะได้เห็นภาพโครงการ แผนงาน การใช้จ่ายงบประมาณและความก้าวหน้าโครงการอยู่ที่ระบบนี้ที่เดียว

]]>