EEC – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Tue, 27 Feb 2024 03:29:09 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png EEC – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 ทีม NAVANURAK ลงพื้นที่ภาคตะวันออก เป็นวิทยากรให้ความรู้กับคุณครูในพื้นที่ EEC ส่งเสริมการท่องเที่ยวโมเดล BCG https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/navanurak-120224.html Mon, 12 Feb 2024 09:48:37 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=36017

7-9 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมบางแสน เฮอริเทจ จ.ชลบุรี นักวิจัยเนคเทค สวทช. ร่วมให้องค์ความรู้กับคุณครูระดับมัธยมศึกษาตอนต้น-ปลาย ในพื้นที่ภาคตะวันออก ในวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ สังคมศึกษา เน้นด้านการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความรู้ตามแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ BCG เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปปรับใช้กับการเรียนสอนที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน

เปิด “หลักสูตรการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างยั่งยืน โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับโรงเรียนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” (EEC) โดย ฝ่ายวิชาการ หลักสูตร และสื่อการเรียนรู้ สวทช. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ทีมวิจัยการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ กลุ่มวิจัยวิทยาการข้อมูล และการวิเคราะห์ ดร.ปัฐมา กระต่ายทอง บรรยายให้ความรู้เรื่อง “การประยุกต์ความรู้ ในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และ นวัตกรรมข้อมูล (Data Science)” คุณวัชชิรา บูรณสิงห์ ผู้ช่วยวิจัยอาวุโส ทีมวิจัยเทคโนโลยี ภาษาธรรมชาติและความหมาย กลุ่มวิจัยปัญญาประดิษฐ์ แนะนำการทำงานและการต่อยอดการใช้งาน “นวนุรักษ์แพลตฟอร์ม” การจัดเก็บข้อมูลวัฒนธรรมเพื่อการอนุรักษ์และท่องเที่ยวใน รูปแบบดิจิทัล

คุณภัทรพร มีคล้าย จากทีมวิจัยเทคโนโลยีภาษาธรรมชาติและความหมาย นำผู้เข้าอบรม เข้าสู่ช่วงกิจกรรม “ฝึกปฏิบัติ” การใช้งานระบบบริหารจัดการ การสร้างเส้นทาง การท่องเที่ยว การทำอุปกรณ์ Hologram และการทำ content สำหรับงาน Hologram

ปิดท้ายด้วยคุณวัชชิรา ให้ความรู้ถึงวิธีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ขั้นตอนการนำข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ ที่ได้เก็บเป็นทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือในรูปแบบต่าง ๆ การนำเข้าให้ข้อมูลนั้นเกิด การเชื่อมโยงกับนวนุรักษ์ แพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการข้อมูลนวัตกรรม การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และจะทำให้ชุมชนหรือหน่วยงานสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ด้วยตัวเอง ส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านการศึกษา การท่องเที่ยว การสร้างนวัตกรรมการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และบริการในท้องถิ่นให้ยังสามารถคงอยู่ได้อย่างยั่งยืน

]]>
รวมตัวคนอุตสาหกรรม EEC ! ยกระดับทักษะออกแบบและการเขียนโปรแกรมไอโอทีในโรงงาน ผลิตบุคลากรระยะเร่งด่วน รับเป้าหมายอุตสาหกรรม 4.0 https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/iot-fundamentals.html Fri, 28 Apr 2023 11:52:48 +0000 https://nectec.or.th/?p=34077
เนคเทค สวทช. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) จัดกิจกรรมอบรมหลักสูตร “การออกแบบ และการเขียนโปรแกรมสำหรับ Internet of Things ในโรงงาน 4.0 (IoT Fundamentals)” ภายใต้การสนับสนุนโดยโครงการ EEC Type B สำนักงานคณะทำงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC HDC) เพื่อพัฒนาทักษะ ยกระดับความรู้พื้นฐานที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมทางด้านระบบ Internet of Things หรือ IoT ทั้งในเรื่องโครงสร้างของระบบ IoT, รูปแบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ผ่านเครือข่ายต่าง ๆ ในระบบ IoT, การออกแบบ ใช้งาน เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ บน IoT Device, IoT Platform ฯลฯ ให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ตอบโจทย์งานด้านอุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างเหมาะสม โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวนกว่า 40 คน จากกลุ่มบริษัทในเครือ SCG Chemical ประกอบด้วย ผู้จัดการ วิศวกร เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ แผนกวางแผนซ่อมบำรุง แผนกวิศวกรรม แผนก Digital Infrastructure 3 เข้าร่วมกิจกรรม วันที่ 27 เมษายน 2566 ณ ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) EECi จ.ระยอง
ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC HDC) กล่าวเปิดกิจกรรม ความว่า EEC HDC ให้ความสำคัญและยินดีที่จะสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรมผ่านการจัดสรรงบประมาณ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพ ศักยภาพบุคลากรอุตสาหกรรมให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคที่ไทยพยายามขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพลิกโฉมโครงสร้างการทำงานและองค์กรแบบ Labor intensive สู่ Digital Platform การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะสร้างข้อได้เปรียบให้กับภาคอุตสาหกรรม ด้วยอุตสาหกรรมแบบเก่ามีระดับศักยภาพ ต้นทุน และความสูญเสียโดยรวมต่างกันกับอุตสาหกรรมใหม่ถึง 40% สำหรับโครงการนี้นอกเหนือจากองค์ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติแล้วหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้เกิดเครือข่ายของคนอุตสาหกรรม หรือ สร้างความเชื่อมโยงกับเนคเทค สวทช. เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าให้กับภาคอุตสาหกรมต่อไปได้
ด้าน คุณโฆสิต หนูฤทธิ์ Operation Productivity Improvement Manager บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม เล่าว่า บริษัทมีมุมมองในการนำเทคโนโลยีไอโอทีมาปรับใช้กับเครื่องจักรที่มีอยู่เดิม เพื่อให้เครื่องจักรสามารถสื่อสารกันได้ หรือในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจเครื่องจักรต้องสามารถสื่อสารมาที่มนุษย์ได้เช่นกัน โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ในการตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องจักร อัตราการผลิต และการใช้พลังงาน รวมถึงวางแผนการดูแลรักษาเครื่องจักรให้เกิดดาวน์ไทม์น้อยที่สุด
ในจุดเริ่มต้นของการนำไอโอทีมาใช้ในโรงงาน เราใช้คนกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความรู้ความสามารถก่อน แต่เมื่อต้องการขยายผลไปยังส่วนการผลิต หรือ ระบบอื่น ๆ ในโรงงาน จึงต้องการบุคลากรในส่วนนี้เพิ่มขึ้น “ซึ่งในอดีตการพัฒนาบุคลากรเหล่านี้ไม่ได้อบรมเรียนรู้ไปพร้อมกัน ทำให้มองภาพและเข้าใจคนละแบบ เป็นอุปสรรคเมื่อกลับมาทำงานร่วมกัน หรือ แชร์องค์ความรู้ต่อ สำหรับการอบรมในครั้งนี้บริษัทจึงนำบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับด้านไอโอทีทุกกลุ่มทั้ง ผู้จัดการ วิศวกร เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ แผนกวางแผนซ่อมบำรุง แผนกวิศวกรรม แผนก Digital Infrastructure เข้ามาเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจพื้นฐานไอโอทีในโรงงานที่เป็นภาพเดียวกันทั้งหมด
การอบรมในครั้งนี้ ผู้อบรมจะได้เรียนรู้ พื้นฐานและองค์ประกอบของไอโอทีอย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจภาพรวม หลักการทำงาน และความสามารถของระบบ เรียนรู้การเขียนโปรแกรมสำหรับการควบคุมอุปกรณ์ไอโอทีโดยใช้ Microcontroller รวมถึงวิธีการทำให้อุปกรณ์ไอโอทีสามารถเชื่อมต่อรูปแบบต่าง ๆทั้งในเครือข่าย หรือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ โดยเน้นศึกษาข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภท เพื่อให้สามารถปรับใช้ในอุตสาหกรรมหรือหน้างานของตัวเองได้ อีกทั้งยังได้เรียนรู้ความสำคัญของ IoT Platform และวิธีการเลือกใช้งาน IoT Platform ให้เหมาะกับงานด้านอุตสาหกรรม พร้อมยกตัวอย่างการใช้งาน IoT Platform โดยใช้ NETPIE2020 อีกด้วย
]]>
SMC จัดกิจกรรม “SMC Forum in MiRA & SUBCON EEC 2022” https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/smc-mira-subcon-2022.html Fri, 26 Aug 2022 08:54:16 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=28710

ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center : SMC) จัดกิจกรรม “SMC Forum in MiRA & SUBCON EEC 2022” ณ ห้อง Theater, Exhibition Hall 2 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยนำองค์ความรู้นำนวัตกรรมไทยมุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างยั่งยืน คาดหวังให้ผู้ประกอบการสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฟังบรรยายและเสวนาไปวางแผนการพัฒนาเทคโนโลยี/นวัตกรรม ในโรงงานหรือบริษัทของตัวเองเพื่อยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 และสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากหน่วยงานที่สนับสนุน อาทิ EXIM Bank, BOI, AIS (ภายในงาน) ได้อย่างสูงสุด

ในโอกาสนี้คุณอุดม ลิ่วลมไพศาล นักวิจัย กลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เนคเทค สวทช. ตัวแทนกล่าวเปิดงานและบรรยายพิเศษในหัวข้อ Scaling the Smart manufacturing: The value of an ecosystem, Strategic alliances and value co-creation. กล่าวถึงภาพรวมการพัฒนาและเส้นทางสู่อุตสาหกรรมสู่ 4.0 ปัญหาของอุตสาหกรรมไทย ซึ่งสามารถแก้โจทย์ด้วย ecosystem ของ SMC ได้อย่างไร พร้อมแนะนำSMC และเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจมาเยี่ยมชมในเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมทั้งบรรยายถึงเป้าหมายของSMC งานวิจัยที่จะมาช่วยสนับสนุน บริการทั้ง 5 ด้านของSMC แบบประเมินตนเองอุตสาหกรรมไทย ในชื่อ Thailand i4.0 index

ต่อด้วยการแชร์ประสบการณ์จากพันธมิตรของSMC ในการเสวนา Connecting the Dots : How SMC Members Co-create โดยผู้แทน Technology Vendor คุณนวชัย เกียรติก่อเกื้อ Head of Enterprise Marketing Management Unit บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (AIS) ผู้แทน System Integrator คุณศรัณย์ ศรีพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ไอโอที จำกัด และผู้แทน โรงงานอุตสาหกรรม คุณศิริวรรณ รุจิมิตร ผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย จำกัด ดำเนินการเสวนา โดยดร. รวีภัทร์ ผุดผ่อง ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรมสมัยใหม่ สวทช.
ส่งท้ายด้วยกิจกรรม Workshop: สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยคุณอุษณีย์ ถิ่นเกาะแก้ว นักวิชาการส่งเสริมการลงทุน กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) บรรยายถึงภาพรวมสิทธิประโยชน์ BOI มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ มาตรการ 6 ด้านการยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 และ Workshop Mockup Case: “ตัวอย่างการกรอกแบบประกอบ มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0”โดย ดร. วุฒิภัทร คอวนิช นักวิจัยกลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เนคเทค สวทช.

ส่งท้ายด้วยกิจกรรม Workshop: สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) บรรยายถึงภาพรวมสิทธิประโยชน์ BOI มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ มาตรการ 6 ด้านการยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 และ Workshop Mockup Case: “ตัวอย่างการกรอกแบบประกอบ มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0”โดย ดร. วุฒิภัทร คอวนิช นักวิจัยกลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เนคเทค สวทช.

ภายในงานได้จัดแสดงผลงาน 3 ผลงานด้วยกัน ได้แก่

  • ชุดจัดแสดงตัวอย่างการประยุกต์การทำงานของอุตสาหกรรมผ่านระบบ 5G
  • ชุดจัดแสดง IDA Platform แพลตฟอร์มไอโอทีและระบบวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรม พร้อมด้วย URCONNECT อุปกรณ์เชื่อมโยงข้อมูลจากเซนเซอร์ต่างๆ ของเครื่องจักร
  • ชุดจัดแสดงอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพมอเตอร์ (Smart Sensor for Smart Maintenance)

นอกจากนี้ EECi เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้มาร่วมตั้งโต๊ะเจรจาธุรกิจแก่ผู้ประกอบการด้วย

]]>
เผยผลงานสุดสร้างสรรค์ ของสุดยอดนวัตกรน้อยในเขตพื้นที่ EEC คว้ารางวัลเวที “ออกแบบอย่างใจคิดพิชิตอุตุน้อย Hackathon” (UtuNoi Hackathon) https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/utunoi-hkt-2022-award.html Sun, 12 Jun 2022 16:59:26 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=26837

12 มิถุนายน 2565 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดงานประกาศผล และพิธีมอบรางวัลการแข่งขัน “ออกแบบอย่างใจคิดพิชิตอุตุน้อย Hackathon” (UtuNoi Hackathon) เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ฝึกทักษะการออกแบบนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ครู อาจารย์ และเยาวชนระดับมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หวังสร้างชุมชนนักประดิษฐ์ด้วยวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Community Data Science) เตรียมพร้อมพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0

ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สายงานพัฒนากำลังคนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงที่มาของการจัดกิจกรรม ซึ่งสวทช. ได้ร่วมดำเนินโครงการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ครูและเยาวชน ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ได้จัดอบรมและกิจกรรมแข่งขัน ในรูปแบบออนไลน์ (Online) ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 400 โรงเรียน ในหัวข้อต่าง ๆ ทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ การโค้ดดิ้ง (Coding), ระบบสมองกลฝังตัว (Embedded system), อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things: IoT) และในครั้งนี้ได้ได้จัดกิจกรรม ณ สถานที่จริง ให้กับคุณครู และนักเรียน ได้มีโอกาสมาพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้กับนักวิจัย ได้มาใช้เครื่องมือในโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม (Fabrication lab หรือ FabLab) ในการใช้งานเครื่องพิมพ์ 3 มิติและการตัดด้วยเลเซอร์ (3D-Printing & Laser cutting)  เพื่อออกแบบพัฒนาผลงานสถานีวัดอากาศอุตุน้อย นำไปใช้ประโยชน์ในโรงเรียนและชุมชนของตนเอง รวมถึงการขยายผลต่อยอดเป็นชุดสื่อการเรียนการสอน เป็นต้นแบบให้กับโรงเรียนอื่น ๆ โดยความสำคัญของกิจกรรมนี้น้อง ๆ จะได้ฝึกทักษะที่จำเป็นแห่งศตวรรษที่ 21 ทั้งทักษะการทำงานเป็นทีม ทักษะการแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี การคิดเชิงออกแบบ หรือ Design Thinking  ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรม รวมไปถึงทักษะการโค้ดดิ้ง และสเต็ม ตามที่สพฐ. ให้ความสำคัญ

คุณธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการสายงานเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้กล่าวถึงบทบาทของ EEC ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดการลงทุนในนวัตกรรมขั้นสูงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้านนวัตกรรมเพื่อรองรับการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่นับเป็นภารกิจที่ EEC ให้ความสำคัญ ทั้งด้านการพัฒนาหลักสูตร การจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ซึ่งโครงการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ครูและเยาวชน ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ EEC ร่วมดำเนินงานกับสวทช. มาอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนกิจกรรมด้านการพัฒนากำลังคนด้านอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนได้พัฒนาทักษะด้านนวัตกรรมดิจิทัล ได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ นั่นก็คือ KidBright และอุปกรณ์ใน Fab Lab ผ่านการคิด วางแผน ออกแบบ และลงมือทำด้วยตนเอง ทั้งนี้ ในเขตพื้นที่ EEC มีนิคมอตุสาหกรรมต่างๆ Automation Park ที่เป็นตัวอย่างของนวัตกรรม พร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชนทางด้านเทคโนโลยี ในการพัฒนาทักษะความรู้ที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศสู่อุตสาหกรรม 4.0

ดร.โชติมา หนูพริก ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษา สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. กล่าวว่า สพฐ. พร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกับเนคเทค สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร ในการสร้างกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิด พัฒนาความรู้ และได้รับประสบการณ์ที่นอกเหนือจากการเรียนรู้ภายในห้องเรียน โดยกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ใช้ได้จริง เชื่อว่าผู้เรียนจะสามารถต่อยอดไปสู่การคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ และในอนาคตอาจมีแผนการขยายผลโครงการฯ ไปยังโรงเรียนในพื้นที่อื่น หรือพื้นที่ห่างไกล ที่มีเพชรเม็ดงามที่ต้องการการเจียระไนให้เป็นนักพัฒนา เป็นนวัตกรน้อยสำหรับเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมภายในประเทศต่อไป

36 ชั่วโมงสุดเข้มข้นของ UtuNoi Hackathon

การแข่งขัน“การออกแบบอย่างใจ คิดพิชิตอุตุน้อย Hackathon”(UtuNoi Hackathon) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน 2565  เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้คุณครู และนักเรียน ได้ร่วมกันนำเสนอไอเดียอย่างสร้างสรรค์ ออกแบบพัฒนาสถานีตรวจวัดสภาพอากาศ หรืออุตุน้อย โดยเปิดรับสมัครครู และนักเรียนระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ. ฉะเชิงเทรา จ. ชลบุรี และจ.ระยอง ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม 2565 มีทีมที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาแข่งขันในรอบนี้ทั้งสิ้น 15 ทีม จาก 12 โรงเรียน จำนวน 74 คน แต่ละทีมจะประกอบด้วยครู 2 คน และนักเรียน 3 คน ซึ่งหัวหน้าทีมจะต้องเป็นครูที่ผ่านการอบรมในหัวข้อ “KidBright อุตุน้อย” นอกจากนี้ทุกทีมจะได้รับการอบรมออนไลน์ปรับพื้นฐานความรู้ และเตรียมความพร้อมก่อนการเข้าร่วมกิจกรรม ในเวทีการแข่งขันแต่ละทีมจะต้องออกแบบ พัฒนาเชื่อมต่อบอร์ด KidBright ร่วมกับเซนเซอร์ภายนอกสำหรับตรวจวัดสภาพอากาศ จากโจทย์การแข่งขัน  3 ประเภท ได้แก่ เซนเซอร์วัดความเร็วลม เซนเซอร์วัดทิศทางลม และเซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน โดยเริ่มต้นจากออกแบบโครงสร้าง Sensor ขึ้นรูปชุดอุปกรณ์วัด และออกแบบวงจรไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกัน ด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่มีอยู่ภายในห้อง Fab Lab สร้างเป็นสถานีอุตุน้อยในการวัดค่าสภาพอากาศ ภายในระยะเวลา 36 ชั่วโมง จนได้เป็นต้นแบบของเซนเซอร์ที่สามารถนำไปเผยแพร่ให้กับโรงเรียนอื่น ๆ ที่อยากพัฒนาสถานีอุตุน้อยเองร่วมกับบอร์ด KidBright ที่โรงเรียนมีอยู่ และการเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมการส่งข้อมูล สภาพอากาศไว้บน UtuNoi PLAYGROUND และคาดหวังว่าในปีหน้า จะขยายผลส่งเสริมการเรียนปัญญาประดิษฐ์ในโรงเรียน (KidBright AI) ให้กับโรงเรียนที่นำร่องไปแล้วเกือบ 400 โรงเรียน

ผลการคัดเลือกทีมที่สามารถคว้ารางวัล “ออกแบบอย่างใจคิดพิชิต อุตุน้อย Hackathon” ในแต่ละประเภท

ผลงานสถานีอุตุน้อย ประเภทเซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 20,000 บาท
ทีมจากโรงเรียนแกลง “วิทยาสถาวร”  จังหวัดระยอง

อาจารย์ที่ปรึกษา
1. นายเอกรัฐ เอมเจริญ
2. นางสาวประภาพร ปลายเนิน

ทีมนักเรียนผู้พัฒนา
1. นายณภัทร ศิริจันทร์
2. นางสาวมานิศา กล้าหาญ
3. นางสาวธีรนาฎ เพ็ชรฉกรรจ์

รายละเอียดผลงาน: ออกแบบและสร้างเครื่องมือวัดปริมาณน้ำฝน อย่างง่ายโดยเป็นความถูกต้องแม่นยํา ประหยัดงบประมาณง่ายต่อการใช้งาน เพื่อนําไปใช้ในการพยากรณ์ ป้องกันภัยพิบัติ หลักการทำงาน น้ำไหลหยดลงไปยังคานกระดก คานกระดกหนึ่งครั้งส่งสัญญานไปยังลีดสวิตซ์  1 ครั้ง น้ำ ถ้าลีดด์ผ่านสวิตซ์ เป็นวงจรปิด ถ้าลีดด์ไม่ผ่านสวิตซ์ เป็นวงจรเปิด

ผลงานสถานีอุตุน้อย ประเภทเซนเซอร์วัดความเร็วลม ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 20,000 บาท
ทีมจากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 จังหวัดฉะเชิงเทรา  

อาจารย์ที่ปรึกษา
1. นายสุทธิพงษ์ สุขสร้อย
2. นายรติ พิพัฒน์ศรี

ทีมนักเรียนผู้พัฒนา
1. นางสาวณัฏฐาณิชา จิราพรพิสิฐ
2. นางสาวพนิตนันท์ พานิชนันโท
3. นายไตรวิชญ์ จันทร์งาม

รายละเอียดผลงาน : เมื่อลมพัด จะทำให้แขนของเครื่องพัดตามความเร็วลมแบบแปรผันตรงกัน หากลมพัดเร็วขึ้นแขนก็จะหมุนเร็วขึ้น จากนั้นจะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังบอร์ด KidBright บอร์ดจะทําการคํานวณค่าความเร็วลมตามที่เขียนโค้ดวงจร การทำงานของเครื่องวัดความเร็วลมมีตัว REED SWITCH เป็นหลอดแก้วผนึกกั้นอากาศมีขั้วไฟฟ้าที่ปลายทั้งสองด้าน ด้านในต่อกับก้านหน้าสัมผัสขนาดเล็ก ที่ทำจากโลหะสารแม่เหล็ก เมื่อใบพัดของเครื่องวัดความเร็วลมที่ ติดแม่เหล็กเคลื่อนที่ ทำให้สนามแม่เหล็กในบริเวณสัมผัสกันทำให้เกิดสัญญาณ PULSE  และส่งสัญญาณไปยังบอร์ด KidBright เพื่อประมวลต่อไป  

ผลงานสถานีอุตุน้อย ประเภทเซนเซอร์วัดทิศทางลม ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 20,000 บาท
ทีมจากโรงเรียนชลกันยานุกูล จังหวัดชลบุรี

อาจารย์ที่ปรึกษา
1. นายณัฐ กาญจนศิริ
2. นายอุภัยภัทร บุญเพ็ง

ทีมนักเรียนผู้พัฒนา
1. นางสาวธิษณาพัชญ์ อุมา
2. นางสาวปภาวรินทร์ ลาภอนันต์
3. นางสางศศิชา อากาศอำนวย

รายละเอียดผลงาน : ใช้หลักการต้านทานอากาศเมื่อมีอากาศไหลผ่านอุปกรณ์ สามารถวัดทิศทางลมในทิศทางทำมุมกับเครื่องวัด แรงลมจะผลักให้หางหมุนรอบแกนหมุนจนกว่าจะมีทิศทางขนานกับลม ภายในวงจรจะมีลีดด์สวิตซ์ทำงานเมื่อมีแม่เหล็กเข้ามาใกล้โดยแต่ละตัวจะมีการต่อตัวต้านทานจะทำให้รู้ว่าลูกศรชี้ไปในทิศทางใด

]]>
WiMaRC นวัตกรรมเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพสวนทุเรียนพื้นที่ EEC ติดดอกสม่ำเสมอพร้อมกัน 70% https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/wimarc-durian-eec.html Mon, 17 Jan 2022 06:08:39 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=24205
ทีม WiMaRC หรือ ระบบตรวจวัดสภาวะแวดล้อมด้วยเทคโนโลยี IoT นำโดย ดร.โอภาส ตรีทวีศักดิ์ และคุณมนตรี แสนละมูล ทีมวิจัยเทคโนโลยีเกษตรดิจิทัล (DAT) เนคเทค สวทช. ลงพื้นที่ จ.ระยอง ติดตามการทำงานของระบบฯ ณ สวนสุวรรณจินดา จ.ระยอง
สำหรับการใช้งาน WiMaRC ในสวนทุเรียนกว่า 60 ไร่ คุณนัทธี สุวรรณจินดา เจ้าของสวนสุวรรณจินดา กล่าวว่า WimaRC ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสวนโดยใช้ข้อมูลจากระบบ ไม่ว่าจะเป็นความชื้นอากาศ ความชื้นดิน ความชื้นสัมพัทธ์ ช่วยควบคุมความชื้นดินให้เหมาะสม ลดโอกาสการเกิดโคนเน่า ทุเรียนติดดอกได้ง่ายและสม่ำเสมอ กว่า 70% ของทุเรียนในสวนออกดอกพร้อมกัน ไปจนถึงการป้องกันไรแดงศัตรูตัวร้ายของทุเรียนจากข้อมูลทิศทางลมและอุณหภูมิ
การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการหารือแนวทางบูรณาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรเพื่อสวนทุเรียน จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 14-15 มกราคม 2565 โดยมีคุณกุลประภา นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. ร่วมลงพื้นที่และกล่าวเปิดกิจกรรม พร้อมด้วย ดร.ณัฐภพ สุวรรณเมฆ กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง เอ็มเทค ดร.คมสันต์ สุทธิสินทอง นาโนเทค คุณธีรพัชร์ ประสานสารกิจ สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.). ร่วมลงพื้นที่และนำเสนอผลงานวิจัยให้กับเกษตรกร ณ ห้องประชุม 1A อาคาร Multi Tenants Pilot Plant ,EECi-HQ และแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom meeting
โดย สวทช. ยังมีเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเกษตรใช้งานจริงในพื้นที่ EEC ตอบโจทย์นโยบาย BCG ด้านเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างทุเรียน ไม่ว่าจะเป็น Magik Growth หรือนวัตกรรมถุงห่อผลไม้นอนวูฟเวน ปุ๋ยคีเลต หรือ ปุ๋ยธาตุอาหารสำหรับบำรุงพืช ระบบรักษ์น้ำ หรือ เทคโนโลยีให้น้ำอัจฉริยะสำหรับพืชแปลงเปิด เป็นต้น
]]>
เนคเทค สวทช. จัดแข่งขัน KidBright – Formula Kid 2021 มุ่งสนับสนุน รร.ประถมฯ พื้นที่ EEC https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/formula-kid-2021.html Thu, 09 Sep 2021 04:56:35 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=20742

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) จัดกิจกรรม “การแข่งขัน  Formula Kid 2021 สำหรับโรงเรียนระดับประถมศึกษา ในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ประกอบด้วย จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง โดย มีนักเรียน ครูผู้สอนในระดับประถมศึกษาตอนปลาย ให้ความสนใจในการแข่งขัน Formula Kid จากบอร์ด KidBright เป็นจำนวนมาก ช่วยให้นักเรียนและครูผู้สอนได้มีเครื่องมือในการเรียนรู้แบบออนไลน์ ส่งผลให้นักเรียนทุกคนสามารถเรียนรู้และเข้าร่วมแข่งขัน การทำงานเป็นทีม สิ่งสำคัญคือการสื่อสารและการให้กำลังใจเพื่อน ๆ ที่เป็นตัวแทนในการแข่งขันควบคุมรถระยะไกลของการแข่งขันในครั้งนี้ เชื่อมั่นจะเกิดการกระตุ้นให้นักเรียนที่มีความสนใจการเรียน coding สามารถต่อยอดความรู้และประยุกต์ใช้บอร์ด KidBright ร่วมกับการควบคุมทิศทางรถผ่าน ระบบ ESP-now และ NETPIE (IoT) โดยผู้เข้าแข่งขันจำนวน 21 ทีมจะอยู่ในพื้นที่ EEC และจะทำการควบคุมรถระยะไกล ผ่านอุปกรณ์จอยสติ๊ก มายังรถ Formula Kid ที่อยู่ในห้องออดิทอเลียม สวทช. 

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า “คุณครูและนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขัน Formula Kid 2021 ได้ผ่านการอบรมการเรียนวิทยาการคำนวณด้วย KidBright Simulator และ การเรียนวิทยาการคำนวณด้วย KidBright พื้นฐาน เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ จำนวน 300 คน ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ คือ การสอนเขียนโปรแกรมมิ่งพื้นฐาน และสามารถไปประยุกต์ในกิจกรรมและการสร้างชิ้นงานต่างๆ เช่น ควบคุมการรดน้ำต้นไม้ หรือ การตั้งเวลาเปิดปิดไฟ การแข่งขัน Formula Kid 2021 ก็เป็นอีกกิจกรรมสำหรับควบคุมรถระยะไกล ผ่านแพลตฟอร์มไอโอทีที่ชื่อ NETPIE และเป็นที่มาของการจัดการแข่งขันในรูปแบบ online และผมขอขอบคุณ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ให้การสนับสนุนคุณครูและนักเรียนทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรม อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เด็กนักเรียนทุกคนต้องเจอและได้เรียนรู้”

ในการจัดการแข่งขัน “Formula Kid 2021” สำหรับครู อาจารย์และนักเรียนระดับประถมศึกษาในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นคเทค สวทช. ได้ดำเนินการจัดการอบรมหัวข้อการเรียนวิทยาการคำนวณด้วย KidBright พื้นฐาน ให้กับครูอาจารย์ระดับประถมศึกษาในเขตพื้นที่ EEC กว่า 80 โรงเรียน ในเขตพื้นที่ EEC  ภายใต้โครงการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแก่ครูและเยาวชนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของครู อาจารย์และเยาวชนให้มีความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) ส่งเสริมความเป็นนวัตกร พัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21  อาทิ ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะชีวิตและอาชีพ ทักษะด้านข้อมูลสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัล 

และเตรียมความพร้อมเยาวชนก้าวเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 ในกลุ่ม Smart Devices & Robotics และกลุ่ม Digital IoT AI & Embedded Technology ได้มีแนวคิดในการแข่งขัน “Formula Kid 2021” เป็นการแข่งขันควบคุมทิศทางของรถ KidBright ผ่านระบบ ESP-now ซึ่งเป็นระบบการติดต่อสื่อสารไร้สายโดยตรงระหว่างบอร์ด KidBright ทั้ง 2บอร์ด บน Remote controller และตัวรถ เพื่อให้ครู อาจารย์และเยาวชนเกิดการเรียนรู้การคิดเชิงระบบ การคิดเชิงวิเคราะห์และการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ ผ่านการเรียนรู้แบบ Learn and Play

หลักเกณฑ์การจัดแข่งขัน กำหนดให้โรงเรียนในเขตพื้นที่ EEC (3 จังหวัด คือ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง) สมัครเข้าร่วมการประกวดแข่งขัน โรงเรียนละ 1 ทีม ทีมละ 5 คน (ครู อาจารย์ 1 คน นักเรียน 4 คน) โดยให้สิทธิ์ทีมที่สมัครเข้าร่วม 30 ทีมแรกของแต่ละจังหวัดผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือก 

โดย 30 ทีม ที่ผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกจะแข่งขันกันภายในจังหวัดของตนเอง เพื่อคัดเลือกเหลือ 5 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของแต่ละจังหวัด ซึ่งโครงการฯ สนับสนุนอุปกรณ์ชุดรถแข่งให้ 5 ทีม/จังหวัดที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เข้าร่วมการประกวดแข่งขัน และเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องตามที่โครงการฯ กำหนด

ผลการแข่งขัน เวที Formula Kid 2021 

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขันจำนวน 21 ทีมจะอยู่ในพื้นที่ EEC และจะทำการควบคุมรถระยะไกล ผ่านอุปกรณ์จอยสติ๊ก มายังรถ Formula Kid ที่อยู่ในห้องออดิทอเลียม สวทช.  โดยผู้เข้าแข่งขันต้องบังคับรถแข่งให้เคลื่อนที่ตามเส้นทางที่กำหนด หากผู้เข้าแข่งขันชนสิ่งกีดขวางกรรมการมีสิทธิ์หักคะแนน 

ผู้ชนะ คือ ผู้ใช้เวลาน้อยที่สุดในการแข่งขัน แต่ไม่เกิน 5 นาที หากเกินเวลาที่กำหนดจะตัดสินจากระยะทางที่ไปได้ไกลกว่า (ใกล้เส้นชัย) เป็นผู้ชนะ ถ้ามีการเข้าเส้นชัยพร้อมกัน จะตัดสินจากการหักคะแนนของคณะกรรมการ และผู้เข้าแข่งขันสามารถขอเริ่มต้นใหม่ (จากจุดเริ่มต้น) โดยการขอยกธงไม่เกิน 2 ครั้ง และมีการหักคะแนน 

สรุปผลการแข่งขัน ดังนี้ 

รางวัลชนะเลิศ
โรงเรียนตลาดบางบ่อ (ศักดิ์ปรีดาประชาสรรค์)

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1
โรงเรียนบ้านชำฆ้อ

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 
โรงเรียนเมืองพัทยา 4 
(วัดหนองใหญ่)

รางวัลชมเชย
โรงเรียนนิคมสร้างตนเอง
จังหวัดระยอง 10 

รางวัลชมเชย
โรงเรียนอนุบาลบ้านบึง
(อำนาจคณูปถัมภ์)

]]>