Museum Pool – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Fri, 13 Sep 2024 10:37:47 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png Museum Pool – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 Museum Pool ระบบจัดการข้อมูลพิพิธภัณฑ์แบบเครือข่ายแบบครบวงจร https://www.nectec.or.th/innovation/innovation-mobile-application/2024museum-pool.html Fri, 13 Sep 2024 10:36:50 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=37540

Museum Pool ระบบจัดการข้อมูลพิพิธภัณฑ์แบบเครือข่าย วิจัยพัฒนาโดยทีมวิจัยระบบระบุตำแหน่งและบ่งชี้อัตโนมัติ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการเนื้อหานำชมพิพิธภัณฑ์ที่สะดวกทั้งผู้จัดแสดงและผู้เยี่ยมชม นำชมได้ด้วยตนเอง สะดวกและได้รับความรู้เรื่องราวด้านศิลปวัฒนธรรม และเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวในชุมชนในอีกมิติหนึ่ง

บริหารจัดการข้อมูลและนำชม

Museum Pool แบ่งส่วนการจัดการข้อมูลและการนำชมพิพิธภัณฑ์ ออกเป็น 2 ส่วน

  • ส่วนผู้จัดแสดง มีเว็บแอปพลิเคชันให้สำหรับเจ้าของข้อมูลในการบริหารจัดการข้อมูลสื่อนำชม สามารถเสร้างเนื้อหานำชมได้ด้วยตนเอง รองรับสื่อนำเสนอหลายรูปแบบ ทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง วิดิทัศน์ Augmented Reality (AR) หรือ Virtual Reality (VR) และสรุปสถิติการเข้าชมแต่ละชิ้นงานจัดแสดง ตรวจสอบสถิติการเข้าชมแต่ละพื้นที่จัดแสดง เพื่อนำไปบริหารจัดการจุดนำชมต่าง ๆ ได้ ซึ่งระบบสามารถรองรับการนำชมได้ทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร
  • ส่วนผู้เยี่ยมชม เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันครั้งเดียว ก็สามารถใช้ได้กับทุกพิพิธภัณฑ์ในเครือข่ายของ Museum Pool ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เปิดแอปและสแกนบาร์โค้ดบนชิ้นงาน ก็สามารถรับฟังข้อมูลภาพและเสียงได้ทันที ทำให้เด็กและเยาวชนไทยเรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้อย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้หลายภาษา ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าใจวัฒนธรรมไทยได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย เช่น ในงานแสดงสินค้า นิทรรศการหมุนเวียน โบราณสถาน แหล่งความรู้ในชุมชน หรือจุดท่องเที่ยว โมไบล์แอปพลิเคชัน (Mobile Application) จะทำให้ผู้เข้าชมเข้าถึงข้อมูล ก่อนที่จะมาถึงสถานที่ และได้ข้อมูลเชิงลึกเมื่อเข้าถึงสถานที่ ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เพียงเปิดแอปพลิเคชันและสแกน QR หรือ อ่าน Near Field Communication (NFC) บนชิ้นงานจัดแสดง ก็สามารถรับฟังข้อมูลสภาพ เสียง วิดีโอ AR หรือ VR ได้ทันที

รูปแบบการให้บริการ

Museum Pool ให้บริการนำชมพิพิธภัณฑ์ ทั้งแบบที่เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์จริงและแบบพิพิธภัณฑ์เสมือน การนำชมในแบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจะนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นให้กับผู้ใช้งานเท่านั้น ในขณะที่การนำชมในพิพิธภัณฑ์จริง ผู้เข้าชมสามารถดูเนื้อหาของวัตถุจัดแสดงแบบละเอียดได้โดยการอ่าน QR Code ที่ติดอยู่กับวัตถุเพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจในวัตถุจัดแสดงมากยิ่งขึ้น

“รองรับเน็ตสะดุด” พัฒนาระบบฯ แบบพกพา แก้ปัญหาข้อจำกัดของเครือข่าย

การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวของผู้เข้าชม หรือนักท่องเที่ยว มีความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว สามารถเลือกรับข้อมูลวัตถุจัดแสดงต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ มีความเป็นส่วนตัว และไม่รบกวนนักท่องเที่ยวรายอื่น ถือเป็นจุดเด่นของ Museum Pool ที่สำคัญ แต่ยังมีข้อจำกัดของสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ ไม่รองรับการใช้งานของพื้นที่ที่จัดแสดง ทีมวิจัย Museum Pool จึงพัฒนา “อุปกรณ์แบบพกพาสำหรับบริหารจัดการพิพิธภัณฑแบบคู่เสมือน” เพื่อแก้ปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่ไม่เสถียร ตัวอุปกรณ์จะทำหน้าที่สร้างเครือข่ายภายในขึ้นมาเพื่อให้บริการในบริเวณดังกล่าว ด้วยการใช้เทคนิคการปรับสแกนทางเครือข่ายเพื่อให้นักท่องเที่ยวยังคงใช้วิธีการสแกนป้ายคิวอารโค้ด เพื่อเขาถึงข้อมูลได้อย่างไม่ติดขัด


ด้วยจำนวนพิพิธภัณฑ์ที่มีมากเกือบถึง 100 แห่ง การจะทำให้ระบบที่พัฒนาเกิดความยั่งยืน เกิดการส่งต่อเทคโนโลยีไปใช้ยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ จำต้องใช้การทำงานร่วมกับชุมชน สถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานระดับท้องถิ่น ซึ่งมีความพร้อมและมีบุคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับพื้นที่ของตนเป็นอย่างดี ในพื้นที่ที่ขาดความพร้อมด้านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์สามารถเลือกใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลพิพิธภัณฑ์แบบเครือข่าย Museum Pool แบบพกพาได้

ปัจจุบันขยายผลการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี Museum Pool แบบพกพา นำร่องสู่การใช้งานจริงในเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ ติดตั้งระบบที่พิพิธภัณฑ์และชุมชน รวมทั้งหมด 9 แห่ง ได้แก่

  1. เรือนพ่อคง เรือนโคราช จ.นครราชสีมา
  2. ศูนย์วัฒนธรรมไทโส้ จ.สกลนคร
  3. เสาหินบะซอลต์ จ.บุรีรัมย์
  4. พิพิธภัณฑ์ศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน จ.นครราชสีมา 
  5. พระมหาเจดีย์ชัยมงคล จ.ร้อยเอ็ด
  6. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว เมืองเรืองแสง จ.อุบลราชธานี 
  7. วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด
  8. พิพิธภัณฑ์วัดบ้านสร้างเรือง จ.ศรีสะเกษ
  9. ตามรอยหลวงปู่มั่น จ.อุบลราชธานี
]]>
เนคเทค หารือ CEA แสวงหาแนวร่วม นำเทคโนโลยี สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/cea-250124.html Sat, 27 Jan 2024 09:45:14 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=35590

เนคเทค หารือ สำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มุ่งแสวงหาแนวร่วม นำเทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย

25 มกราคม 2567 ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. ดร.กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมทีมนักวิจัย และฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ฯ ให้การต้อนรับ คณะผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์กรมหาชน) เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิด แนวทางร่วมสร้างอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิทยาการ ตามความถนัดของแต่หน่วยงาน มาช่วย ภาคชุมชน ผู้ประกอบการ และ ภาคการศึกษา ช่วยเสริมเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ

โดย คุณวัชชิรา บูรณสิงห์ ผู้ช่วยนักวิจัย นำเสนอผลงาน นวนุรักษ์: แพลตฟอร์ม ระบบบริหารจัดการ “คลังข้อมูลวัฒนธรรม” และ “ความหลากหลายทางชีวภาพ” โดยใช้เครื่องมือในแพลตฟอร์ม มาช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำเข้าข้อมูลสู่ระบบ และสามารถนำข้อมูลจากระบบ ด้านวัฒนธรรมมาช่วยสร้างมูลค่าให้กับผลผลิตของชุมชน ช่วยบริหารจัดการข้อมูลท้องถิ่น อย่างเป็นระบบ และสามารถนำมาใช้ในเกิดประโยชน์ในการสร้างสื่อ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวด้านวัฒนธรรมให้ยังคงสามารถดำเนินอยู่ได้อย่างยั่งยืน และสามารถนำไปประยุกต์ต่อยอดทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมได้อย่างสร้างสรรค์

ดร. ละออ โควาวิสารัช นำเสนอ Museum Pool: ระบบจัดการข้อมูลพิพิธภัณฑ์แบบเครือข่าย สามารถสร้างสื่อนำชมพิพิธภัณฑ์ โดยการออกแบบข้อมูลโครงสร้าง และระบบนำชมในพิพิธภัณฑ์ มีการนำไปใช้งานพิพิธภัณฑ์หลายๆแห่ง ในประเทศ

ดร.ชัยอนันต์ ดำรงรัตน์ และ ดร.อภิสิทธิ์ ตันตระวรศิลป์ นำเสนอและนำชมผลงาน Sontana: Service Robot และแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์เชิงสนทนาพร้อมอวทาร์ (Conversational Avatar AI) โดย ทีมวิจัยกลุ่มวิจัยปัญญาประดิษฐ์ และกลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ข้อมูลการจัดกิจกรรม นิทรรศการ และข้อมูลขององค์กร

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์กรมหาชน) นำเสนอภาพรวมและแผนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมทั้งตัวอย่างการนำเอาผลงานวิจัยไปพัฒนาต่อยอดเชิงสร้างสรรค์ อาทิเช่น “Lunch and Learn” และเกม “Match and Meal ถาดหลุมสุ่มเมนู” ที่ประยุกต์จากผลงาน Thai School Lunch ของเนคเทค เป็นต้น จากนั้นทั้งสองฝ่ายร่วมแลกแลกเปลี่ยนแนวคิดการต่อยอดเทคโนโลยีที่สำคัญ ที่จะช่วยนำมาใช้ร่วมกัน บนพื้นฐานการสั่งสม การใช้การสร้างสรรค์ องค์ความรู้ในรูปแบบดิจิทัล และนำนวัตกรรมเนคเทค มีอยู่ไปประยุกต์ใช้เพื่อช่วยขยายความสามารถในการพัฒนาธุรกิจ การผลิตสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 5 กลุ่ม 15 สาขา ตามเป้าหมายของประเทศ (https://www.cea.or.th/th/about) ต่อไป

]]>
Musuem Pool ร่วมทัพ 11 โครงการไฮไลต์ในนิทรรศการ “กสทช. เสริมสร้างความรู้ ส่งทุนสร้างสิ่งดีดี” ปี 66 https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/2023-musuempool-nbtc.html Mon, 20 Nov 2023 07:39:32 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=34548

Musuem Pool ร่วมทัพ 11 โครงการไฮไลต์ในนิทรรศการ “กสทช. เสริมสร้างความรู้ ส่งทุนสร้างสิ่งดีดี” ปี 66

กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. เดินหน้าผลักดันกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมสร้างประโยชน์ในเชิงสาธารณะ ชี้ในปีที่ผ่านมา กทปส. ได้สนับสนุนโครงการมากกว่า 500 โครงการ พร้อมเตรียมกำหนดกรอบการจัดสรรเงินกองทุนปี 2567 โดยแบ่งเป็นทุน 3 ประเภทคือ ทุนประเภทที่ 1 ทุนแบบเปิดกว้าง ภายใต้กรอบวงเงิน 300 ล้านบาท ทุนประเภทที่ 2 เป็นทุนตามนโยบายคณะกรรมการบริหารกองทุน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ทุนมุ่งเป้า กำหนดกรอบจัดสรรไว้ที่ 600 ล้านบาท และทุนต่อเนื่องกำหนดไว้ที่ 100 ล้านบาท และ ทุนให้กับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งกำหนดกรอบวงเงินไว้ที่ 500 ล้านบาท โดย กทปส. ยังได้จัดนิทรรศการ “กสทช. เสริมสร้างความรู้ ส่งทุนสร้างสิ่งดีดี” เพื่อเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจในการยกระดับคลื่นความถี่ การกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคมที่สร้างประโยชน์สู่สาธารณะ กับสาธารณะ ผ่านการเผยแพร่ผลงานโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก กทปส. มาร่วมจัดแสดง จำนวน 11 โครงการ โดยมีศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นประธานในงาน

11 โครงการไฮไลต์ ประกอบด้วย

  1. โครงการสารคดีชุด “SOME ONE หนึ่งในหลาย” พัฒนาโดยบริษัท สื่อดลใจ จำกัด
  2. โครงการขยายผลศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อสังคมด้อยโอกาสในกลุ่มบ้านสาขาบนพื้นที่สูง พัฒนาโดยมูลนิธิวิสาหกิจพลังงานชุมชน
  3. โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มไอโอทีสำหรับการเฝ้าระวังไฟป่าและมลพิษทางอากาศด้วยเทคโนโลยีโลล่า พัฒนาโดยสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
  4. โครงการการศึกษาและพัฒนาหอฟอกอากาศอัจฉริยะโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์และระบบควบคุมดูแลผ่านเทคโนโลยีไอโอที เพื่อการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่สาธารณะ พัฒนาโดยบริษัท ไทยโซลาร์เวย์ จำกัด
  5. โครงการพัฒนาระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าและระบุตำแหน่งการเผาในที่โล่ง โดยใช้โครงข่ายสื่อสาร อุปกรณ์เซ็นเซอร์ และอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)
  6. โครงการการยกระดับการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์คดีความผิดทางเพศ ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ หน่วยงาน พัฒนาโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  7. โครงการระบบบริหารข้อมูลนำชมพิพิธภัณฑ์แบบพกพาเพื่อรองรับการใช้งานในพื้นที่จัดแสดงซึ่งมีข้อจำกัดด้านสัญญาณอินเตอร์เน็ต พัฒนาโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
  8. โครงการรายการ กระต่ายตื่นรู้ พัฒนาโดยบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)
  9. โครงการฝึกอบรม The Metaverse โลกเสมือนจริง ที่กลายเป็นโลกสมจริง พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
  10. โครงการยกระดับและปรับปรุงห้องปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบุคลากรให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล พัฒนาโดยวิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
  11. โครงการขยายผลระบบติดตามและอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยในการทำกายภาพบำบัดผ่านเครือข่ายสื่อสาร สำหรับประโยชน์สาธารณะ พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการให้ความรู้ในหัวข้อ กทปส. สู่จักรวาลนฤมิตร (Metaverse) หัวข้อ การออกแบบสำหรับทุกคนด้วยแนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เพื่อสร้างสังคมที่เข้าถึงได้ทุกคน และหัวข้อ การจัดการปัญหาเมือง ด้วยแอปพลิเคชันทราฟฟี่ฟองดูว์ : Traffy Fondue เป็นต้น

สำหรับแนวทางการจัดสรรเงินกองทุนในปี 2567 เบื้องต้นคณะกรรมการบริหารกองทุนได้มีมติเรื่องการกำหนดกรอบการจัดสรรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างนำเสนอกรอบการจัดสรรเงินดังกล่าวให้ กสทช. พิจารณาโดยมีการกำหนดกรอบวงเงินในการจัดสรรเงินทุนแต่ละประเภท คือ ทุนประเภทที่ 1 ทุนแบบเปิดกว้าง (Open Grant) 300 ล้านบาท ทุนประเภทที่ 2 เป็นทุนตามนโยบายคณะกรรมการบริหารกองทุน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ทุนมุ่งเป้า (Strategic Grant) 600 ล้านบาท และทุนต่อเนื่อง 100 ล้านบาท และทุนประเภทสุดท้ายคือ ทุนให้กับกองทุนพัฒนาสื่อสร้างสรรค์ ซึ่งกำหนดกรอบวงเงินไว้ที่ 500 ล้านบาท

ติดตามความเคลื่อนไหวของ กทปส.
ได้ที่ https://btfp.nbtc.go.th และ www.facebook.com/BTFPNEWS

]]>
เนคเทค สวทช. จับมือ อพท. และ บพข. นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม ส่งเสริมศักยภาพชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/navanurak-pmuc-dasta.html Sat, 20 Aug 2022 11:27:42 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=28485
เนคเทค สวทช. โดยการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือ บพข. จัดกิจกรรมประมวลภาพความสำเร็จตลอดทั้งโครงการเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ของชุมชน ภายใต้โครงการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทยหลังภาวะโควิด 19 วันที่ 20 สิงหาคม 2565 ณ ณ โซน Beacon ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
 
ภายในงานนำเสนอการผลงานต่อยอด “นวนุรักษ์แพลตฟอร์ม” ที่เน้นไปที่การบูรณาการข้อมูลวัฒนธรรมดิจิทัลให้สามารถเชื่อมโยงและใช้งานในรูปแบบเปิด (linked data and open data) พัฒนาโมดูลเพิ่มเติมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแพลตฟอร์มให้รองรับการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อตอบโจทย์การบริการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และนำร่องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับชุมชนนพร่อง 10 พื้นที่ มีการนำได้นำศิลปะ วัฒนธรรมพื้นถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ชุมชน รวมไปถึงสินค้าเด่นของชุมชน มาจัดแสดงและจำหน่าย ในงานเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสและเข้าถึง
 
อีกทั้งยังจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาระหว่างองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ร่วมกับ เนคเทค สวทช. เพื่อส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมพร้อมใช้และปัญญาประดิษฐ์ โดยมีนาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการ อพท. และ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค ร่วมลงนาม พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการ บพข. กล่าวแสดงความยินดี
 

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผอ. อพท. กล่าวว่า อพท. เชื่อเสมอว่า “ทำท่องเที่ยว เก่งคนเดียวไม่ได้” เราจึงมุ่งเน้นประสานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้มาร่วมกันขับเคลื่อนเดินหน้าการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนในฐานะเจ้าของทรัพยากรของการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
การลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ อพท. เพื่อเป็นการปูทางไปสู่การสร้างประโยชน์จากการใช้นวัตกรรมมายกระดับการท่องเที่ยวในระดับชุมชน จนถึงระดับแหล่งท่องเที่ยว ไปสู่ภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐ ทั้งทางตรงและทางอ้อม นำไปสู่การต่อยอดและพัฒนา เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของชุมชนและแหล่งท่องเที่ยว โดยการนำร่องในระยะแรก อพท. และ NECTEC ได้คัดเลือก 10 ชุมชนนำร่องซึ่งล้วนเป็นชุมชนที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่ทำงานร่วมกับ อพท. จนมีความเข้มแข็ง ซึ่งการทำงานร่วมกับ NECTEC ในครั้งนี้ช่วยส่งเสริมให้ชุมชนได้รับประโยชน์จากการบูรณาการข้อมูลทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมดิจิทัลให้สามารถเชื่อมโยงไปสู่การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ในการสื่อความหมายนำเที่ยวได้ในระยะยาว

         ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า สืบเนื่องจากการดำเนินงาน “โครงการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับและฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยหลังภาวะโควิด19” ซึ่ง เนคเทค สวทช. ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก แผนงานกลุ่มดิจิทัลแพลตฟอร์ม หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เพื่อการพัฒนาต่อยอดแพลตฟอร์มต้นแบบที่เนคเทคพัฒนาขึ้นในชื่อว่า “นวนุรักษ์” โดยเน้นไปที่การบูรณาการข้อมูลวัฒนธรรมดิจิทัลให้สามารถเชื่อมโยงและใช้งานในรูปแบบเปิด (linked data and open data) และพัฒนาโมดูลต่างๆ เพื่อขยายแพลตฟอร์มดิจิทัลให้รองรับการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อตอบโจทย์บริบทการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำร่องทดลองกับพื้นที่ในการดูแล และได้รับคำแนะนำจาก อพท.  จำนวน 10 พื้นที่ 10 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่

  1. ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านท่าดินแดง จังหวัดพังงา   
  2. ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ชุมชนบ่อสวก จังหวัดน่าน
  3. ชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
  4. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยเบิ้ง บ้านโคกสลุง จังหวัดลพบุรี
  5. ชุมชนท่องเที่ยวบ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
  6. ชุมชนเมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
  7. ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหนองอ้อ-ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
  8. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทญ้อบ้านโพน จังหวัดนครพนม
  9. วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่าระแนะ จังหวัดตราด
  10. กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำมูลบ้านสุขสมบูรณ์ จังหวัดนครราชสีมา

เนคเทค สวทช. ได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เพื่อเข้ามาช่วยเป็นสื่อกลางซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการนำเทคโนโลยีจากหน่วยงานวิจัยและพัฒนาในส่วนกลางอย่าง เนคเทค ไปขยายผลถ่ายทอดสู่ชุมชนซึ่งเป็นผู้ใช้ประโยชน์จริง เนคเทคต้องขอขอบคุณ 

1)       มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
2)       มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 
3)       มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่
4)       วิทยาลัยชุมชนน่าน
5)       มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร
6)       มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
7)       มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี
และ 8) มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

เนคเทคมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมพร้อมใช้และปัญญาประดิษฐ์ ที่ศูนย์ฯ วิจัยและพัฒนาอย่างทุ่มเทตลอดมา ได้เข้าไปมีส่วนช่วยบูรณาการข้อมูลในการพัฒนาและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว และหวังว่าจะได้มีความร่วมมือกันพัฒนางานวิจัยใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต 

รองศาสตราจารย์ ดร. สิรี  ชัยเสรี ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กล่าวว่า 

บพข. หรือ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  ภายใต้การกำกับของ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) มีภารกิจในการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ โดยผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้งานวิจัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและภาคบริการ รวมถึงสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างตลาดนวัตกรรม การส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์

กรอบการให้ทุนเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมดังกล่าว มุ่งเน้นการสนับสนุนแผนงานที่มีความร่วมมือหรือการร่วมลงทุนกับผู้ใช้ประโยชน์ อาทิ SMEs และภาคอุตสาหกรรม แบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม หลัก ได้แก่ 1) อาหารมูลค่าสูง 2) สุขภาพและการแพทย์ 3) พลังงาน เคมีและวัสดุชีวภาพ 4) ท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 5) ดิจิทัลแพลตฟอร์ม 6) เศรษฐกิจหมุนเวียน และ 7) ระบบคมนาคมแห่งอนาคต อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ

บพข. ในนามผู้ให้ทุนสนับสนุนทุนในการดำเนิน “โครงการการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับและฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยหลังภาวะโควิด19” ภายใต้กลุ่มแผนงานกลุ่มดิจิทัลแพลตฟอร์ม บพข. เล็งเห็นว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันมีการพัฒนา ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว เราต้องตามให้ทัน จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ก้าวไปสู่โลกเมทาเวิร์ส และจะก้าวล้ำหน้าไปอีกมากในอนาคต การพัฒนาแพลตฟอร์มระบบริหารจัดการคลังข้อมูลดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล เชื่อมโยงข้อมูล แสดงผลข้อมูล และการให้บริการข้อมูล สำหรับต่อยอดการนำข้อมูลจากคลังข้อมูลไปสร้างมูลค่าส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยนำร่องทดลองกับเครือข่ายที่มีความพร้อม และขยายเครือข่ายหน่วยงานให้บริการข้อมูลวัฒนธรรมดิจิทัลผ่านบริการที่พัฒนาขึ้นภายใต้โครงการนี้

บพข. ยินดีที่ได้เห็นถึงความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งของทั้งสองหน่วยงาน (เนคเทค สวทช. และ อพท.) ที่นำมาสู่การลงนาม MOU ในวันนี้ รวมไปถึงความร่วมมือในการประสานงานวิจัยกับชุมชนท่องเที่ยวทั้ง 10 แห่ง ใน 10 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร่างเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาร่วมกับสถาบันการศึกษาในส่วนภูมิภาคทั้ง 8 แห่ง 

 

]]>
ประกาศผล Museum Pool Contest 2021 !! ประชันไอเดีย 11 มรภ.ภาคอีสาน ปั้นคอนเทนต์ตามรอยวิถีชีวิตท้องถิ่นสู่พิพิธภัณฑ์ออนไลน์ https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/museum-pool2021.html Sat, 15 Jan 2022 06:39:54 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=24147

Museum Pool Contest 2021 ประชันไอเดีย 11 มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคอีสาน สร้างคอนเทนต์ตามรอยวิถีชีวิตท้องถิ่นสู่พิพิธภัณฑ์ออนไลน์

วันที่ 14  มกราคม 2565  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. ร่วมกับกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดการแข่งขัน Museum Pool Contest 2021 รอบชิงชนะเลิศ ในรูปแบบออนไลน์ ภายใต้แนวคิด “จากวิถีชีวิตท้องถิ่นสู่พิพิธภัณฑ์ออนไลน์”

การประกวดในครั้งนี้เป็นการแข่งขันสร้างข้อมูลนำชมเชิงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมภายในพิพิธภัณฑ์ด้วยแอปพลิเคชันมิวเซียมพูล ผสานการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่นำไปสู่การตามรอยพิพิธภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ ตอบโจทย์ การท่องเที่ยว การศึกษา หรือ การอนุรักษ์ ในพื้นที่ภาคอีสาน

ดร.กัลยา อุดมวิทิต  รองผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า จากความร่วมมือของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. กับ เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 11 มหาวิทยาลัย ที่ได้ลงนามความร่วมมือการส่งเสริมและผลักดัน 5 นวัตกรรมเพื่อการศึกษาสำหรับภูมิภาค  เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมานั้น เพื่อสนองตอบต่อนโยบายของประเทศในเรื่อง Thailand 4.0 โดยอาศัยการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมที่พัฒนาเศรษฐกิจ 3 มิติไปพร้อมกัน รวมเรียกว่า  โมเดลเศรษฐกิจ BCG   โดยเฉพาะกลุ่มการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่มุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยจุดแข็งของพื้นที่เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของตนเอง วัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น การบริหารจัดการเพื่อรองรับการท่องเที่ยว  ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการให้มีมูลค่าที่สูงขึ้น ตรงกับ CBT (Community – Based Tourism) คือ การท่องเที่ยวที่คำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรมของชุมชน กำหนด ทิศทางโดยชุมชน จัดการโดยชุมชน เพื่อชุมชน และชุมชนมีบทบาทเป็นเจ้าของในการจัดการ ดูแล เพื่อให้ เกิดการเรียนรู้แก่ผู้มาเยือน  การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็น ก้าวหนึ่งของเวทีความร่วมมือในเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะช่วยกันพัฒนาพิพิธภัณฑ์ในท้องถิ่น

การแข่งขันในครั้งนี้ มีทีมสมัครและส่งผลงานข้อมูลพิพิธภัณฑ์เข้าร่วมแข่งขันในรอบคัดเลือก ถึง 33 ผลงาน จาก 11 มหาวิทยาลัย และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 13 ผลงาน  จาก 7 มหาวิทยาลัย

ผลการแข่งขัน

รางวัลชนะเลิศ ได้รับรางวัลมูลค่า 30,000 บาท
ผลงาน : พิพิธภัณฑ์ภัณฑ์วัดสิรินทรวรารามภูพร้าว เมืองเรืองเเสง (ชมผลงาน)
มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดอุบลราชธานี

ฮุ่งเฮือง เมืองธรรม ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง แหล่งกำเนิดความอุดมสมบูรณ์ในป่าหิมพานต์ตามคติความเชื่อทางพุทธศาสนา แผ่ขยายแสงแห่งธรรม เรืองรองส่องนำชีวิต  สโลแกนการนำเสนอพิพิธภัณฑ์มีที่มาจากการทำงานโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน On the GLOW: Glowing and Living Our Ways (เรืองรอง ด้วยครรลองแบบเรา-ชุมชนเมืองเรืองแสง)  การท่องเที่ยวชุมชนเมืองเรืองแสง On the GLOW เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่วัดเป็นศูนย์กลางรวมจิตใจเพื่อหยั่งรากวัฒนธรรม ศิลปะ ศาสนาลงในวิถีชีวิต และเรืองรองในชุมชนตลอดไป

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับรางวัลมูลค่า 20,000 บาท
ผลงาน : วัดป่ากุง (ชมผลงาน)
มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดร้อยเอ็ด

นำเสนอความน่าสนใจที่ควรเข้าชมในวัดวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) พร้อมทั้งประวัติความเป็นมาของวัตถุต่างๆที่จัดแสดงในวัด นำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยว  ถึง 5 เส้นทาง ทั้งแบบเต็มวัน และครึ่งวัน สำหรับผู้เวลาน้อย

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับรางวัลมูลค่า 10,000 บาท
ผลงาน : ศูนย์วัฒนธรรมไทโส้ อำเภอกุสุมาลย์ (ชมผลงาน)
มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดสกลนคร

ศูนย์วัฒนธรรมไทโส้ แหล่งรวบรวมและ จัดแสดง ตลอดจนเน้นการอนุรักษ์เครื่องมือ เครื่องใช้ในการดํารงชีพ รวมไปถึงเครื่องประดับชนิดต่างๆ ของบรรพบุรุษไทโส้เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังและผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ท้องถิ่นได้ศึกษา และได้กําหนดการจัดงานเทศกาลไทโส้ขึ้นเพื่อเป็นการรักษา  และ สืบทอดทางวัฒนธรรมดั้งเดิม ตลอดจนรักษาขนบธรรมเนียม  ประเพณีที่ดีงามสืบไป

รางวัลชมเชยได้รับของรางวัลมูลค่า  2,000 บาท
ผลงาน : พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส (ชมผลงาน)
มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดสกลนคร

นำเสนอความโดดเด่นของผลงานที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แสดงผลงาน44 รายการ และเส้นทางการท่องเที่ยว 11 รายการ รวมถึงนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุ 23 รายการ

รางวัล Popular vote ได้รับของรางวัลมูลค่า  2,000 บาท
ผลงาน : มหาเจดีย์ชัยมงคล (ชมผลงาน)
มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางฝึกอบรมการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน และเป็นที่ตั้งของรูปเหมือนแกะสลักด้วยหินของพระเถรานุเถระของภาคอีสาน จำนวน 101 องค์ โดยผู้แข่งขันได้นำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวรอบๆ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล แบบ 2 วัน 1 คืน ชมความสวยงามพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชมน้ำตกและวิวสวย ๆ ที่วัดถ้ำโสดา แวะนั่งจิบกาแฟที่ Wali lane garden cafe ไปต่อที่วัดศรีศะอาดชมความสวยงามของรูปปั้นพญานาค ปิดท้ายด้วยศึกษาหาความรู้ที่สวนเกษตรผสมผสาน “ วะลัยใจฟาร์ม ” ตามรอยแอป museum pool

ข้อมูลเพิ่มเติม 

Museum Pool เป็นระบบบริหารจัดการเนื้อหานำชมพิพิธภัณฑ์ที่สามารถสร้างโมไบล์แอปพลิเคชัน โดยเป็นแอปพลิเคชันเดียวที่สามารถเข้าชมได้ทุกพิพิธภัณฑ์ในเครือข่าย    ได้รับการสนับสนุน จาก กทปส. หรือ กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ พัฒนาผลงานวิจัย นำไปสู่การต่อยอดที่เพิ่มมูลค่าต่อยอดเปิดโอกาสให้ชุมชนมีระบบ ecosystem ที่สมบูรณ์

ชมผลงานของทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบที่ https://www.facebook.com/MuseumsPool

]]>
เนคเทค สวทช. ผนึกกำลัง 11 มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคอีสาน ส่งเสริมและผลักดัน 5 นวัตกรรมเพื่อการศึกษาสำหรับภูมิภาค ตอบโจทย์โมเดล BCG เพื่อพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/mou-271121.html Sat, 27 Nov 2021 09:34:34 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=23507

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. ผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียง เหนือจำนวน 11 มหาวิทยาลัย ลงนามความร่วมมือการส่งเสริมและผลักดัน 5 นวัตกรรมเพื่อการศึกษาสำหรับภูมิภาคได้แก่ KidBright: บอร์ดสมองกลฝังตัว, ThaiJo หรือ Thai Journals Online:  แพลตฟอร์มบริหารจัดการองค์ความรู้ (วารสาร) วิชาการของประเทศ, Massive Open Online Courses หรือ MOOC ระบบการศึกษาออนไลน์แบบเปิดเพื่อมหาชน, Navanurak Platform: ซอฟท์แวร์แพลตฟอร์มเพื่อการจัดเก็บข้อมูลทางวัฒนธรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติ และ Museum Pool: ระบบบริหารจัดการเนื้อหานำชมพิพิธภัณฑ์ที่ประยุกต์ใช้เป็นโมไบล์แอปพลิเคชันนำชมได้ เพื่อกระจายสู่การใช้งานและพัฒนาชุมชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน ตอบโจทย์โมเดลเศรษฐกิจ BCG ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า หลายครั้งที่มีโอกาสได้เห็นผลงานวิจัยที่น่าสนใจของเนคเทค สวทช. ซึ่งสามารถสนับสนุนและส่งเสริมภาคการศึกษาของชุมชนในพื้นที่ได้ นับว่าสอดคล้องกับนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ต้องการเห็น มหาวิทยาลัยราชภัฏใช้ประโยชน์จากความรู้ความสามารถของคณาจารย์และเครือข่ายนักวิจัย จากความร่วมมือในครั้งนี้ อยากเห็นความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรม ซึ่งราชภัฏก็มีจุดแข็ง ทำงานใกล้ชิดกับชุมชนและสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดเป็นรูปธรรม    และมีความเป็นเลิศในหลายๆ ด้าน  เช่น ด้านการสอนและให้ความรู้แก่ชุมชน การทำงานได้จริง ความรักถิ่นฐาน และที่สำคัญมีความรู้ความเข้าใจด้านภูมิศาสตร์ของตน

เพื่อตอบโจทย์นโยบายและยุทธศาสตร์รัฐบาล “เตรียมคนไทยแห่งศตวรรษที่ 21 พัฒนาเศรษฐกิจที่ กระจายโอกาสอย่างทั่วถึง สังคมที่มั่นคง และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยสร้างความเข้มแข็งทางนวัตกรรมระดับ แนวหน้าในสากล นําพาประเทศไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว”  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จึงกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ โดยออกแบบให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการดําเนินงานในลักษณะแพลตฟอร์ม (Platform) ความร่วมมือการพัฒนาใน 4  ด้าน ได้แก่ 1) การพัฒนากําลังคนและสถาบันความรู้ 2) การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายของสังคม 3) การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และ 4) การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ โดยดําเนินงานควบคู่ไปกับการปฏิรูประบบอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช.กล่าวว่า เนคเทค สวทช. ในฐานะองค์กรชั้นนำในการสร้างฐานรากสำคัญด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศขั้นสูงของประเทศ มีพันธกิจ เพื่อผลักดันให้เกิดระบบนิเวศน์ของการใช้งานเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศขั้นสูง ผ่านโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติและเครือข่ายพันธมิตรภาคการศึกษา และภาคธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อรองรับประเทศไทย 4.0 นั้น ต้องการบุคลากร และโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและสารสนเทศขั้นสูง เพื่อสร้างนวัตกรรมสมัยใหม่ที่มาจากการบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่จากทุกภาคส่วนในการการขับเคลื่อนสังคม โดยปัจจุบันประเทศไทยยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการรวบรวมข้อมูล ยังมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ และการบูรณาการข้อมูลที่จำกัด ถือเป็นช่องว่างสำคัญที่ต้องเร่งพัฒนา ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏ สถาบันที่มีบทบาทสำคัญ ในการผลิตบัณฑิตที่มีอัตลักษณ์ มีคุณภาพ มีสมรรถนะ และเป็นสถาบันหลักที่บูรณาการองค์ความรู้สู่นวัตกรรมในการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ มีพันธกิจผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และน้อมนำแนวพระราชดำริสู่การปฏิบัติ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติในการขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ

รองศาสตราจารย์มาลิณี  จุโฑปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ตัวแทนกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 11 มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุดแข็งของมหาวิทยาลัยราชภัฏทุกแห่งคือ การทำงานใกล้ชิดกับชุมชนและสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดเป็นรูปธรรมและมีความเป็นเลิศในหลายๆด้าน  เช่น ด้านการเรียนการสอนและให้ความรู้แก่ชุมชน การทำงานได้จริง ความรักถิ่นฐาน และที่สำคัญมีความรู้ความเข้าใจด้านภูมิศาสตร์ของตน สามารถใช้ประโยชน์จากความรู้ความสามารถของคณาจารย์และเครือข่ายนักวิจัย จากความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรมและผลงานสร้างสรรค์ร่วมกัน  ซึ่งทราบมาว่าก่อนเกิดเวทีความร่วมมือในครั้งนี้  เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 11 แห่ง  ได้ร่วมมือกันพัฒนาพิพิธภัณฑ์ในท้องถิ่นใน  “โครงการ Museum Pool”  มาแล้วเป็นเวลาประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา  โดยมีการนำร่องในพื้นที่ชุมชนจำนวน 33 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ดูแลของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 11 แห่ง

และเวทีวันนี้เป็นอีกความร่วมมือของเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ทั้ง 11 สถาบัน กับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. เพื่อดำเนินการ “ส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมเพื่อการศึกษาสำหรับภูมิภาค” ร่วมกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม

บันทึกความเข้าใจระหว่างศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติกับกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 สถาบัน ได้แก่ (1) มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร (2) มหาวิยาลัยราชภัฏชัยภูมิ  (3) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (4) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี (5) มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์  (6) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี    (7) มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (8) มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (9) มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด (10) มหาวิยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และ(11) มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี เรามีวัตถุประสงค์ร่วมกันเพื่อ

  1. พัฒนางานวิจัยที่ส่งเสริมการพัฒนากำลังคนให้มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
  2. สนับสนุนและส่งเสริมการใช้ผลงานไปยังสถานศึกษา ชุมชนออนไลน์ให้เกิดการเข้าถึงการเรียนรู้ในวงกว้าง
  3. ส่งเสริมให้เกิดระบบนิเวศด้านการศึกษาเพื่อให้เกิดความยั่งยืน นำไปสู่การยกระดับศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัย

ในความร่วมครั้งนี้ ทางเนคเทคยินดีที่จะนำร่องแพลตฟอร์มนวัตกรรมการศึกษา ที่ประกอบด้วย 5 เทคโนโลยี ได้แก่

  1. KidBright : บอร์ดสมองกลฝังตัว (Embedded Board) เสมือนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่มีไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) สามารถรับข้อมูล ประมวลผล และสั่งงานเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ตามที่ต้องการได้
  2. ThaiJo หรือ Thai Journals Online:  แพลตฟอร์มบริหารจัดการองค์ความรู้ (วารสาร) วิชาการของประเทศ เพื่อยกระดับกระบวนการวารสารของประเทศ
  3. ระบบการศึกษาออนไลน์แบบเปิดเพื่อมหาชน (Massive Open Online Courses หรือ MOOC): เป็นแพลตฟอร์มสำหรับระบบจัดการเรียนการสอนออนไลน์ในระบบเปิดที่สามารถรองรับผู้เรียนได้อย่างไม่จำกัด เพื่อการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิตของคนไทย
  4. Navanurak Platform: ซอฟท์แวร์แพลตฟอร์มเพื่อการจัดเก็บข้อมูลทางวัฒนธรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้ชุมชนหรือหน่วยงานสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ด้วยตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์ให้ข้อมูลวัฒนธรรมและความหลากหลายทางชีวภาพท้องถิ่น
  5. Museum Pool: เป็นระบบบริหารจัดการเนื้อหานำชมพิพิธภัณฑ์ที่สามารถสร้างโมไบล์แอปพลิเคชันนำชมได้ โดยเป็นแอปพลิเคชันเดียวที่สามารถเข้าชมได้ทุกพิพิธภัณฑ์ในเครือข่าย
]]>