National AI Strategy – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Thu, 07 Dec 2023 06:47:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png National AI Strategy – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 เนคเทค ร่วมกับ RxTradex จัดกิจกรรม METALEX AI FORUM 2023: จากนโยบายสู่การปฏิบัติ – ปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิต https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/metalex-aiforum2023.html Mon, 27 Nov 2023 07:23:35 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=34609

เนคเทคเผยนโยบายแผน AI แห่งชาติ กับผลงานที่ผ่านมาใน 1 ปี และความท้าทายต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต

ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ นักวิจัย กลุ่มวิจัยปัญญาประดิษฐ์ เนคเทค สวทช. บรรยายพิเศษ “ยุทธศาสตร์ชาติด้านปัญญาประดิษฐ์ หนุนการผลิตอัจฉริยะ” โดยกล่าวถึง นโยบายและผลงานที่ผ่านมาแล้ว 1 ปี ของแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ (National AI Strategy: NAIS) ในฐานะที่เนคเทคมีบทบาทเป็นผู้ช่วยเลขานุการจัดทำแผนฯ รวมถึงบอกเล่าความท้าทายถัดไปเพื่อหาความร่วมมือต่อไปในอนาคต

ดร.อภิวดี กล่าวว่า งานด้าน AI กับงานทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เนคเทคมีความพยายามที่จะใช้ AI ในอุตสาหกรรมการผลิตมาอย่างยาวนาน อาทิ งานวิจัยที่มีโจทย์จริงที่จะคาดการณ์ว่าโรงงานกำลังมีความเสี่ยงต่อการที่เกิดไฟฟ้ากระชากหรือไฟฟ้าตก ซึ่งงานนี้ต้องอาศัยเทคนิคทางด้าน Image Processing  หรือ Neural Network ทว่าความยากของงานนั้นก็คือเราไม่สามารถที่จะทำข้อมูลแบบ Real Time ได้ด้วยข้อจำกัดทางด้าน Infrastructure ที่กำลังในการประมวลผลไม่มากพอ แต่ในปัจจุบันนี้ตัว Network ได้ถูกพัฒนาขึ้นมีสิ่งที่เรียกว่า Deep Neural Network ซึ่งมีระดับเลเยอร์เป็นหลักร้อย มีจำนวนพารามิเตอร์เป็นล้านๆ ตัว ทำให้สามารถที่จะทำนายหรือจัดกลุ่มการทำงานได้อย่าง Real Time ตัวอย่าง Chat GPT สามารถผลิตคำได้มากกว่า 300 ล้านคำ/นาที และยังคงมีพลังต่อเนื่องอย่างไม่หยุดหยั้ง  ซึ่งหากสามารถประยุกต์ใช้รวมเข้ากับอุตสาหกรรมการผลิต จะเกิดความเป็นไปได้อย่างไม่สิ้นสุด

แต่เหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ ประโยชน์ย่อมมาพร้อมกับความกังวล ทั่วโลกต่างกังวลว่าใช้ AI แล้วจะปลอดภัยได้อย่างไร? ใช้อย่างไรให้มีสิทธิภาพ สามารถควบคุมความเสี่ยงได้อย่างไรในเมื่อ AI สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

สำหรับประเทศไทยนั้นได้จัดทำ “แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565 – 2570)” เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและนําไปสู่การยกระดับเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่าน 5 ยุทธศาสตร์ 15 แผนงาน

  • ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเตรียมความพร้อมของประเทศในด้านสังคม จริยธรรม กฏหมาย และกฏระเบียบสำหรับการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์
  • ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสนับสนุนด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
  • ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเพิ่มศักยภาพบุคลากรและการพัฒนาการศึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์ ต่อเนื่องสู่ยุทธศาสตร์ 4 และ 5
  • ยุทธศาสตร์ 4 การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสนับสนุน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
  • ยุทธศาสตร์ 5 การส่งเสริมให้การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและ ระบบปัญญาประดิษฐ์ในภาครัฐและภาคเอกชน สิ่งทีวางแผนดำเนินการ คือ การส่งเสริมการใช้ AI ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 กลุ่มโดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ

ระยะที่ 1 คือการใช้งานและบริการภาครัฐ เกษตรและอาหาร การแพทย์และสุขภาวะ 

ระยะที่ 2 เริ่มที่อุตสาหกรรมการผลิต การศึกษา การท่องเที่ยง ความมั่งคงและปลอดภัย โลจิสติกส์และการขนส่ง การเงินและการค้า พลังงานและสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้จะเริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2570

และสำหรับโครงการต่อไปที่จะดำเนินต่อไปตามอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 อุตสาหกรรม แต่สิ่งที่จะไฮไลท์ต่อไป คือ โจทย์ที่ท้าทายจากอุตสาหกรรมการผลิต ที่นำ Visual Inspection เข้ามาช่วยในอุตสาหกรรมไทยได้เนื่องจากพบว่ามีความพร้อมด้านเทคโนโลยี สิ่งที่ขาด คือ SI ในการเชื่อมโยงเทคโนโลยีให้ไปถึงโรงงานได้ รวมถึงขาด Start-up ที่ช่วยทำโจทย์และขยายงานด้วย

ดร. ณิชา อภิชิตโสภา นักวิจัย ทีมวิจัยสมองกลอัจฉริยะและความจริงเสมือน กลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เนคเทค สวทช. บรรยายพิเศษ หัวข้อ “NecML: No-Code Machine learning platform”

คุณณฐพล ตันสังวรณ์ นักวิจัย ทีมระบบไซเบอร์-กายภาพ กลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เนคเทค สวทช. บรรยายพิเศษ หัวข้อ DaySie: Edge-AI Application Platform

ดร. วโรดม คำแผ่นชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท บริษัท อัลโต้เทค โกลบอล จำกัด บรรยายพิเศษ หัวข้อ “AIoT Energy Management and Analytics Platform

ดร. อภินันทน์ ตั้นพันธุ์ บริษัท สมาร์ท เซนส์ อินดัสเตรียล ดีไซน์ จำกัด บรรยายพิเศษ หัวข้อ “AIoT for Small & Medium Manufacturers”

ต่อด้วยการเสวนา ในหัวข้อ “Best practices & Lesson learnt – AI in Manufacturing “

พร้อมมีบูธให้คำปรึกษาแก่ผู้ร่วมกิจกรรมประกอบไปด้วย

  • NSTDA i4.0 Platform
  • บริการจากศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC)
  • NecML
  • Daysie
  • AltoTech
  • SMART Sense Industrial Design
  • ผู้ให้บริการด้าน AI : REPCO NEX
]]>
เนคเทค สวทช. นำเสนอ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ ในเวที eGovernment Forum 2022 https://www.nectec.or.th/news/news-article/2022national-ai-strategy.html Mon, 01 Aug 2022 03:00:50 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=26509

บทความ : ศิริพร ปานสวัสดิ์

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2565 ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ร่วมแสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “On the Path of National AI Strategy” ในงานสัมมนาวิชาการด้านดิจิทัลเทคโนโลยี eGovernment Forum 2022 โดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) สมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) และหน่วยงานพันธมิตร ได้จัดขึ้นเพื่อนำเสนอถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลใช้สนับสนุนการปฏิบัติงาน ยกระดับประสิทธิภาพบริการภาครัฐให้สามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้ถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่พร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง

(ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศ ระยะ 6 ปี (พ.ศ.2565 - 2570)

ในปาฐกาถาพิเศษหัวข้อดังกล่าว ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. ได้นำเสนอ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศ ระยะ 6 ปี (พ.ศ.2565 – 2570) ภายใต้การขับเคลื่อนร่วมกันระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ร่วมด้วยหน่วยงานพันธมิตร อาทิ สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AiAT) สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ที่ได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 เพื่อเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และเป็นแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของประเทศไทยให้บรรลุผลและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะช่วยพัฒนาส่งเสริมเศรษฐกิจ ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ตลอดจนมุ่งสู่ประเทศไทย 4.0 ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงการพัฒนาทักษะของบุคลากรภายในประเทศ โดยในปัจจุบันแผนนี้อยู่ระหว่างยื่นเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ

ความจำเป็นในการพัฒนาแผนปฏิบัติการ AI ประเทศไทย

ปัจจัยที่สำคัญในมิติต่างๆ ที่จำเป็นต้องเร่งผลักดันแผนปฏิบัติการ AI ของประเทศ เนื่องจากจะเป็นส่วนสำคัญทั้งในมิติ
  • ด้านเศรษฐิกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการในการเติมเต็มอุตสาหกรรม S-Curve ของรัฐบาล เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สุขภาพการแพทย์
  • ด้านแรงงาน การจ้างงานและตลาดแรงงาน การพัฒนาบุคลากรแรงงานสมัยใหม่
  • การปรับตัวต่อ Covid-19 วิถีการใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่เป็นตัวเร่งของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ AI
  • ด้านจริยธรรมและสังคม ความเป็นส่วนตัว และจิตวิทยาสังคม
  • ด้านวิสัยทัศน์ของประเทศ ที่ยังขาดแผนการดำเนินงาน หรือแนวทางที่ชัดเจนชัดเจนของประเทศ

สาระสำคัญของแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ

ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ 14 แผนงาน เพื่อให้ประเทศไทยเกิดระบบนิเวศที่ครบถ้วนในการพัฒนาและใช้เทคโนโลยี AI รวมถึงการเชื่อมโยงแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และนำไปสู่การยกระดับเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนภายในปี พ.ศ. 2570 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
  • สร้างคน และเทคโนโลยี Reskill Upskill Newskill ด้าน AI สําหรับครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา Cross skills เสริมทักษะ AI กับสายงานอื่นๆ สร้างอาชีพใหม่ที่ใช้ความรู้และ ทักษะด้านดิจิทัล และAI
  • สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้มีมูลค่าสูงขึ้น ขับเคลื่อนวาระสําคัญของรัฐบาล ส่งเสริมให้เกิด Tech Start ups / SME / Digital Business
  • สร้างผลกระทบการสังคม และสิ่งแวดล้อม ประชาชนเข้าใจถึงผลกระทบและทํางานร่วมกับ AI ได้เข้าถึงบริการภาครัฐอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ การศึกษาและสุขภาพการแพทย์

จุดเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI ใน 10 กลุ่มเป้าหมาย

  1. การใช้งาน และบริการภาครัฐ Government administration, Government services
  2. การเงินและการค้า Credit scoring, CRM
  3. โลจิสติกส์และการขนส่ง Intelligent transportation, Transport map
  4. ความมั่นคง และปลอดภัย Public surveillance platform, Crime response system, Cyber security
  5. ท่องเที่ยว และเศรษฐกิจสรา้งสรรค์ Smart guidance and planning, Tourism service quality, Smart tourism area
  6. การศึกษา Smart education, Geography of educational opportunities
  7. เกษตร และอาหาร Digital farm, Food quality
  8. การแพทย์และสุขภาวะ AI in self-care, Chronic disease, Medical assistant
  9. พลังงานและสิ่งแวดล้อม Energy management, Environmental geospatial analytics
  10. อุตสาหกรรมการผลิต Smart manufacturing, Industry assessment and testbed

จาก Core Technology สู่ AI Service Platform

AI for Thai บริการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สัญชาติไทย https://aiforthai.in.th ที่เนคเทค สวทช. ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร เปิดให้บริการ AI Service Platform แบบสาธารณะ แก่นักพัฒนาและผู้สนใจทั่วไป สามารถใช้งานบริการปัญญาประดิษฐ์สัญชาติไทย ในรูปแบบ APIs จะเป็นตัวตอบโจทย์ที่ช่วยภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในบริบทของประเทศไทยได้เร็วขึ้น และภาคธุรกิจ หรือผู้พัฒนายังสามารถนำบริการมาวางแลกเปลี่ยนเพื่อทดสอบการใช้งานได้ฟรี เกิดเป็นตลาดในการใช้งาน AI ได้จริงภายในประเทศ

ปัจจุบันมีทั้งหมด 36 APIs ให้บริการทั้งด้านข้อความ (20) การวิเคราะห์ภาพ (13) คำศัพท์ เสียงและ Chat Bot (3) มีเครือข่ายนักพัฒนา จำนวนกว่า 5,458 คน โดยได้รับการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน จาก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด, บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน), บริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐหรือ Government Data Center and Cloud service (GDCC)

ขอขอบคุณ : คณะผู้จัดงานสัมมนา eGovernment Forum 2022

]]>
ครม. ผ่าน (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทยระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2565 – 2570) https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/national-ai-draft.html Fri, 29 Jul 2022 04:42:29 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=28216

ครม. ผ่าน (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทยระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2565 – 2570) ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ 15 แผนงาน ซึ่ง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)  และ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เป็นเลขานุการร่วม

26 กรกฎาคม 2565 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 30/2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล มีมติเห็นชอบผ่าน (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทยระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2565 – 2570) ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยเกิดระบบนิเวศที่ครบถ้วนและเชื่อมโยงแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และนำไปสู่การยกระดับเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนภายในปี พ.ศ. 2570” ทั้งนี้ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ในฐานะคณะทำงานและเลขานุการร่วมในคณะทำงานจัดทำร่างแผนฯ ร่วมด้วย ดร.กัลยา อุดมวิทิต (รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ) และ ดร.กุสุมาภรณ์ สมพงษ์ (ผู้ช่วยเลขานุการในคณะทำงานฯ) ได้เข้าร่วมชี้แจงวาระดังกล่าวต่อ ครม. ด้วย

(ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์ฯ

(ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์ฯ มีเป้าประสงค์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ (1) การสร้างคนและเทคโนโลยี (2) การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ (3) การสร้างผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนด้วย 5 ยุทธศาสตร์ 15 แผนงาน ได้แก่

  • ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเตรียมความพร้อมของประเทศในด้านสังคม จริยธรรม กฎหมาย และกฎระเบียบสำหรับการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์
  • ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสนับสนุนด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
  • ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเพิ่มศักยภาพบุคลากรและการพัฒนาการศึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์
  • ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
  • ยุทธศาสตร์ที่ 5 การส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและระบบปัญญาประดิษฐ์ในภาครัฐและภาคเอกชน

เมื่อสิ้นสุดการดำเนินงานตาม (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ ในปี พ.ศ. 2570 จะทำให้เกิดประโยชน์ในภาพรวมต่อประเทศ ได้แก่ มีมูลค่าที่เกิดจากการจ้างงานและสร้างอาชีพในระบบเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีจำนวนทรัพยากรบุคคลที่สามารถปรับทักษะและพัฒนาทักษะใหม่ทางด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อรองรับอาชีพและการทำงานในรูปแบบใหม่ในประเทศเพิ่มมากขึ้น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมูลค่าของผลิตภัณฑ์และบริการในประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากการนำปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ รวมทั้งประชาชนในประเทศมีความเหลื่อมล้ำลดลงทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ เนื่องจากสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างเท่าเทียม ทั่วถึง และเป็นธรรม ผ่านกุญแจสู่ความสำเร็จทั้ง 9 ด้านได้แก่

  1. ประชาชนไม่ต่ำกว่า 600,00 คน-ครั้ง เกิดความตระหนักทางด้านปัญญาประดิษฐ์
  2. กฎหมาย/ระเบียบ/ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ถูกประกาศใช้งานไม่ต่ำกว่า 1 ฉบับ
  3. ยกระดับดัชนีความพร้อมด้านปัญญาประดิษฐ์ของรัฐบาลไทยให้สูงขึ้นไม่ต่ำกว่าลำดับที่ 50 ของโลก
  4. เกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลสำหรับสนับสนุนงานด้านปัญญาประดิษฐ์ในภาครัฐและภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี
  5. บุคลากรด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศ เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30,000 คน
  6. ความเข้มแข็งทางเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพิ่มขึ้น โดยเกิดต้นแบบจากผลงานวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ไม่ต่ำกว่า 100 ต้นแบบ
  7. ผลงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ถูกนำไปใช้อย่างทั่วถึงและช่วยสร้างผลกระทบในภาคธุรกิจและภาคสังคมได้ไม่ต่ำกว่า 4.8 หมื่นล้านบาทในปี พ.ศ. 2570
  8. เกิดจำนวนหน่วยงานที่มีการใช้งานนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ทั้งในภาครัฐ ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี หรือไม่ต่ำกว่า 600 รายใน 6 ปี 
  9. ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศเพิ่มขึ้น ด้วยมูลค่าตลาดปัญญาประดิษฐ์ที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาทในปี พ.ศ. 2570
]]>