NECTEC-ACE 2023 – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Tue, 07 Nov 2023 09:42:15 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png NECTEC-ACE 2023 – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 เนคเทค สวทช. มุ่งเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนให้เกิด Data Sharing ในหลายบริบทสำคัญของประเทศ https://www.nectec.or.th/news/news-article/ace2023-data-sharing.html Mon, 18 Sep 2023 14:55:41 +0000 https://nectec.or.th/?p=34019
สาระจากการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “พลังข้อมูล เพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทย: Data for Thai, Data for all” ภายในงาน NECTEC-ACE 2023 โดย ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช.
สิ่งที่สำคัญที่สุุด และ ยากที่สุด ในการนำข้อมูลมาใช้งาน คือ “ความร่วมมือ” ปัจจุบันมีหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่พยายามเชื่องโยงการทำงาน เชื่อมโยงให้เกิดการเปิดเผยข้อมูลภายในประเทศ ด้านเนคเทค สวทช. ในฐานะหน่วยงานวิจัยและพัฒนาได้ร่วมเติมเต็มในส่วนของความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือที่มุ่งขับเคลื่อนให้เกิด Data Sharing ในสังคมไทย

— The Begining of Journey

Open-D – Data Platform Technology for Open Data หรือ แพลตฟอร์มสาธารณะด้านข้อมูลเปิด ที่เนคเทค สวทช. ได้รับโอกาสจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล หรือ DGA ในการพัฒนา Backend ของเว็บไซต์ data.go.th ในการเปิดเผยข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ
ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา เนคเทคต้องขับเคลื่อน Open-D ให้เป็นประโยชน์ต่อภาคส่วนต่าง ๆ อย่างจริงจังและยั่งยืน จึงเปิดเป็น Open source หรือ แพลตฟอร์มสาธารณะทั้งหมด โดยมีเป้าหมายให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถจัดทำบัญชีข้อมูลของหน่วยงานและให้บริการข้อมูลเปิดที่เป็นไปตามมาตรฐานระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลไปยัง Data.go.th ได้ ปัจจุบันมีข้อมูลมากกว่า 10,000 ชุดข้อมูล มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านครั้ง มากกว่า 200 หน่วยงาน
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ให้โอกาสเนคเทค สวทช. ได้พัฒนา Data Platform โดยอาศัยแพลตฟอร์ม Open-D เช่น สำนักงานสถิติแห่งชาติในการขับเคลื่อนการทำ Metadata มากกว่า 8,000 ชุดข้อมูล , กรุงเทพมหานครซึ่งมีวิสัยทัศน์ในการเปิดเผยข้อมูลขนาดใหญ่ของของจังหวัด มีชุดข้อมูลมากกว่า 1,000 ชุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Open-d > https://nectec.or.th/opend/
 

— เปิดตัว 2 Big Data ด้านการพัฒนาเยาวชน และพัฒนาคนทั้งประเทศ

การที่เนคเทค สวทช. มี Data Platform อยู่ในหน่วยงาน และการแชร์ข้อมูลออกไปยังหน่วยงานที่เป็นหน่วยงานพันธมิตรนั้น ยังไม่เพียงพอสำหรับการสร้างประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เนคเทค สวทช. จึงพยายามส่งต่อ Big Data เหล่านี้ สร้างระบบนิเวศข้อมูล ให้เกิดประโยชน์กับประเทศอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่าง 2 งานวิจัยสำคัญ ได้แก่
1) Thai School Lunch ระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยี Big Data Analytics กับ AI ในวิเคราะห์ ประมวลผลสารอาหาร และแสดงผลเป็นเมนูมื้อกลางวันได้อย่างรวดเร็ว เมนูอาหารในระบบที่มีมากกว่า 1,000 ชนิด หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทางภาคสาธารณสุข ภาคการศึกษา ผู้ปกครอง ภาคธุรกิจ สามารถวางแผนคำนวณปริมาณของวัตถุดิบในการจัดซื้อแต่ละครั้ง ทำให้สามารถประมาณค่าใช้จ่ายได้ล่วงหน้า และสรุปค่าใช้จ่ายจริงตามราคาวัตถุดิบในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยในการวางแผนจัดการงบประมาณ และจัดทำรายงานประเมินคุณภาพอาหารกลางวันของแต่ละโรงเรียนได้อย่างสะดวก ถูกต้อง และรวดเร็ว ปัจจุบันมีข้อมูลจากโรงเรียนกว่าห้าหมื่นจากแปดหมื่นโรงเรียนทั่วประเทศ สามารถเข้าดูข้อมูลได้ที่ https://thaischoollunch.in.th/tsldashboard.html
2) TPMAP ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform) ฐานข้อมูลประชากร 48 ล้านคน อาศัยข้อมูลจากหลายแหล่งมายืนยันซึ่งกันและกัน เช่น ใช้ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จากกรมการพัฒนาชุมชน และข้อมูลผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐจากกระทรวงการคลัง ข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ข้อมูลเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ ข้อมูลนักเรียนจากกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคนใช้วางแผนดูแลประชาชนในระดับครัวเรือน ลดการแก้ไขปัญหาซ้ำซ้อน ลดงบประมาณในการจัดการเรื่องของการพัฒนาคนในพื้นที่ ใช้ในการวางแผนนโยบายยุทธศาสตร์ในการจัดการพัฒนาคนใน 5 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่ ด้านการศึกษา ด้านรายได้ ด้านการเข้าถึงบริการรัฐ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เล็งเห็นความสำคัญของฐานข้อมูลชุดนี้ จึงเปิดตัว TPMAP เป็น Open Data โดยจัดการเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนยุทธศาสตร์การวางแผนกิจกรรมของกระทรวงต่าง ๆ และภาคธุรกิจสามารถนำไปเป็น Reference ได้ในหลายมิติ https://www.tpmap.in.th/open-data

— Open Data Initiative | เป้าหมายถัดไปของเนคเทคในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล

ความสำคัญของ Data Sharing ไม่ใช่เฉพาะเรื่อง “การสร้างความโปร่งใสในสังคม” แต่เป็นเรื่องของ “การสร้างมูลค่าทางธุรกิจ” เช่นเดียวกัน เนคเทค สวทช. พยายามสร้างสมดุลนั้น โดยร่วมเติมเต็มด้านวิศวกรรม เป็นเครื่องมือ มุ่งขับเคลื่อนให้เกิดการเปิดเผยข้อมูล ในหลายบริบทสำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น
1) ข้อมูลด้านการแพทย์ การเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ (Medical Data Sharing) ที่มีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ความปลอดภัยของข้อมูลเรียบร้อยแล้ว การเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์จะนำไปสู่การพัฒนา AI ด้านการแพทย์ เพื่อช่วยวิจัยโรค ช่วยวางแผนการรักษาได้
.
2) ข้อมูลด้านการเกษตร เนคเทค สวทช. พัฒนา Agri-Map ฐานข้อมูลการเกษตรขนาดใหญ่ของประเทศ โดยบูรณาการข้อมูลพื้นฐานด้านการเกษตร จากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหก­รณ์ สำหรับใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการการเก­ษตรไทย อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่
.
ปัจจุบันเนคเทค สวทช. พยายามขับเคลื่อนให้มีการนำข้อมูลจาก Agri-Map ไปใช้งานสร้างเป็นนวัตกรรม แอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้โดยง่ายในรูปแบบ API ผ่านแพลตฟอร์ม THAGRI หรือแพลตฟอร์ม ความร่วมมือข้อมูลเกษตรประเทศไทย (Thailand Agricultural Data Collaboration Platform) https://www.thagri.in.th/
.
3) ข้อมูลด้านภาษา ที่ถูกเทรนด์โดย Supercomputer ให้กลายเป็น Large language model (LLM) คือ องค์ประกอบสำคัญที่อยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชันอย่าง ChatGPT หากเราต้องการสร้างแอปพลิเคชันอย่าง ChatGPT ที่ใช้ในบริบทเฉพาะทางเช่น ด้านการท่องเที่ยว ด้านการแพทย์ ด้านกฏหมาย จำเป็นต้องเริ่มต้นจาก Large language model (LLM) นี้
 
]]>
“Data Sharing” ที่ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่กลับ “พูดง่าย ทำยาก” เผย 3 ปัจจัยขับเคลื่อนการแบ่งปันข้อมูลให้เกิดขึ้นจริงในประเทศ https://www.nectec.or.th/news/news-article/ace2023-data-sharing-2.html Thu, 31 Aug 2023 10:15:37 +0000 https://nectec.or.th/?p=34033

สาระจากเสวนา “มองอนาคต Data Sharing ในประเทศไทย” ในงานแถลงข่าวการจัดงาน NECTEC-ACE 2023

จากการเผชิญความท้าทายเรื่องข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ผ่านการจัดทำแผนและนโยบาย การมองภาพสถานการณ์ปัจจุบัน ฉายภาพฉากทัศน์ในอนาคต วิเคราะห์ช่องว่างการพัฒนาจนนำไปสู่การจัดทำแผนนโยบายต่าง ๆ
ดร.ปฏิมา จงเจริญธนาวัฒน์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการพิเศษ กองศึกษาและวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เล่าว่า “Data Sharing เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการวางแผนเพื่อพัฒนาประเทศ” จากบทบาทการทำงานของสภาพัฒน์ฯ ทุกกระบวนการจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากในหลากมิติ โดยต้องเผชิญกับความท้าทายตั้งแต่เริ่มต้นติดต่อขอข้อมูลผ่านจดหมายซึ่งล้าช้าและหากหน่วยงานเจ้าของข้อมูลเปลี่ยนผู้ดูแลระยะเวลาในขั้นตอนนี้จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องข้อมูลที่เก็บไว้คนละฐาน รวมถึงความไม่เพียงพอของข้อมูลเชิงสังคม (Lack of Data) ที่ต้องนำมาใช้วางแผน หรือ คาดการณ์อนาคตได้
ถึงแม้ว่า Data Sharing จะเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นด้วยว่าสำคัญและต้องเกิดขึ้นในประเทศ แต่เมื่อลงมือทำจริงเป็นเรื่องที่ยากมาก นอกเหนือจากความท้าทายเรื่องข้อมูลแล้ว ยังมีเรื่องความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ความกังวลต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลในการแบ่งปันข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น การนำข้อมูลไปใช้ผิดประเภท การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล กระบวนการตรวจสอบที่เพิ่มมากขึ้น หรือแม้กระทั่งการถูกลดบทบาทในการเป็นเจ้าของข้อมูล ที่อาจส่งผลต่อการจัดสรรทรัพยากรหรืองบประมาณ อย่างไรก็ตาม ดร.ปฏิมา ได้ฉายภาพ 3 ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ Data Sharing เกิดขึ้นในประเทศ ได้แก่
1) การสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของการแบ่งปันข้อมูล เช่น การกำหนดธรรมมาภิบาลของข้อมูลให้ให้ชัดเจน กำหนดสิทธิหน้าที่ในการเข้าถึงข้อมูล รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านข้อมูลที่จำเป็นพร้อมที่จะเป็นสปริงบอร์ดให้ Data Sharing ของประเทศก้าวต่อไปได้
2) การกำหนดโครงสร้างแรงจูงใจในการแบ่งปันข้อมูลให้ชัดเจน เพื่อให้ทุกหน่วยงานเห็นว่า การแบ่งปันข้อมูลไม่ได้เป็นการถูกลดทอนบทบาทหรือว่าสูญเสียทรัพยากรใด ๆ ไป แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
3) การแบ่งปันข้อมูลระหว่างภาครัฐและเอกชน ยกตัวอย่าง นโยบายแก้ปัญหาความยากจนและทุกช่วงวัยที่ผ่านมา สภาพัฒน์ฯ ใช้ข้อมูลภาครัฐเป็นหลัก หากมีข้อมูลจากภาคเอกชนเข้ามา อาจทำให้เห็นกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาในมิติใหม่ ๆ เพื่อกำหนดการสวัสดิการให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

– “ความเชื่อมโยง” กลไกสำคัญนำข้อมูลพัฒนาประเทศ

ถึงแม้สภาพัฒน์ฯ จะเป็นหน่วยงานในการวางแผนและกำหนดทิศทางในการพัฒนาประเทศ แต่ทราบดีว่า การวางแผนเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ปัจจัยความแห่งความสำเร็จ (Key to Success) ของการพัฒนาประเทศ แต่จำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนแผนนั้น ๆ อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญของการไปสู่ความสำคัญดังกล่าว คือ ขาดความเชื่อมโยงในการขับเคลื่อน การทำงาน ในลักษณะที่ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ในบทบาทของตน ภาพของการพัฒนาจึงเกิดขึ้นเป็นส่วน ๆ ไม่เชื่อมโยงกันทั้งประเทศ
“ในระยะต่อจากนี้ไป เราเลยตั้งใจว่าเราอยากทำหน้าที่เป็น “ช่างเชื่อม” คือ เชื่อมโยงการดำเนินงานของหลาย ๆ หน่วยงานเข้าด้วยกัน” ดร.ปฏิมา กล่าว
บทบาทแรกของช่างเชื่อมในมุมมองของสภาพัฒน์ฯ คือ การเชื่อมโยงฐานข้อมูล เพื่อให้ทั้งประเทศมองเห็นปัญหาเดียวกัน มองเห็นอนาคตเดียวกันจากข้อมูลที่มีด้วยกัน โดยริเริ่มผ่าน 2 โครงการใหญ่ ได้แก่
1) TPMAP คือ ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform) ซึ่งไม่ได้โฟกัสเฉพาะมิติทางเศรษฐกิจ ปัญหาความยากจนซึ่งเป็นเรื่องของรายได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็น มิติด้านของการศึกษามิติการเข้าถึงบริการภาครัฐ มิติทางสุขภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการตกเป็นผู้มีความขัดสนทางรายได้ในอนาคต โดยบูรณาการฐานข้อมูลภาครัฐที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความจนและพัฒนาคนทั้งหมด เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมาย ให้ทุกหน่วยงานที่มีบทบาทและภารกิจเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาดังกล่าว ได้มองเห็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน สามารถที่จะระดมทรัพยากรไปสู่ปัญหาเดียวกันได้
 
ในระยะต่อสภาพัฒน์ฯ และ เนคเทค สวทช. มีแผนในการพัฒนาระบบโดยนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยให้ข้อมูลมาตรการที่เหมาะสม และสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ สามารถตอบสนองปัญหาได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการผลักดันให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนที่มีส่วนร่วมในการแก้ยากจน พัฒนาคนทุกช่วงวัยได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลเดียวกัน

2) eMENSCR ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ ระบบสารสนเทศที่ใช้ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐผ่านโครงการ/การดำเนินงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยเชื่อมโยงโครงการทั้งหมดที่ได้รับงบประมาณจากภาครัฐว่าแต่ละโครงการถูกเอาไปใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายในใดบ้าง กลุ่มใดที่ได้ประโยชน์ เป็นศูนย์รวมที่ประเทศจะได้เห็นภาพโครงการ แผนงาน การใช้จ่ายงบประมาณและความก้าวหน้าโครงการอยู่ที่ระบบนี้ที่เดียว

]]>
งานประชุมวิชาการและนิทรรศการ ประจำปี 2566 | NECTEC-ACE 2023 https://www.nectec.or.th/news/news-nectec-ace/ace2023.html Mon, 21 Aug 2023 08:58:49 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=33885

ชวนสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่จะทำให้มุมมองเกี่ยวกับ “ข้อมูล” ของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ที่งาน NECTEC-ACE 2023

เพราะ “โลกแห่งข้อมูล” เป็นได้มากกว่าที่คุณคิด
12 กันยายน นี้ ร่วมปลดปล่อย ‘พลังแห่งข้อมูล” เพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทย ที่งาน NECTEC-ACE 2023
เนคเทค สวทช. และเครือข่ายพันธมิตร ชวนร่วมงานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทค ประจำปี 2566 หรือ “NECTEC-ACE 2023” ภายใต้แนวคิด“ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” โดยมุ่งเน้นนำเสนอเทคโนโลยีด้านข้อมูล “Data for Thai Data for all” 
 

ปลดปล่อยพลังแห่งข้อมูล เพื่อคนไทย

]]>
เนคเทค สวทช. ผนึกกำลังพันธมิตร โชว์ศักยภาพความก้าวหน้าเทคโนโลยีด้าน DATA “ปลดปล่อยพลังแห่งข้อมูล เพื่อคนไทย เพื่อประเทศไทย” ในงาน NECTEC-ACE 2023 https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/press-nectec-ace2023.html Mon, 21 Aug 2023 08:25:02 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=33864

18 สิงหาคม 2566: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค สวทช. ร่วมกับ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชน ผนึกกำลังจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทค ประจำปี 2566 หรือ NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2023 (NECTEC–ACE 2023) ภายใต้แนวคิด “ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” ที่มุ่งเน้นนำเสนอด้าน “Data for Thai Data for All” ในวันที่ 12 กันยายน 2566 ณ โรงแรม อีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพมหานคร

ชูศักยภาพ และความพร้อมเทคโนโลยีด้านข้อมูล เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิต

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า เนคเทค สวทช. ในฐานะองค์กรวิจัยของประเทศ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าต่อกับภารกิจในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ เปรียบเสมือนเป็น “เครื่องจักรสำคัญเพื่อสร้างฐานรากทางเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับประเทศ” โดยให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ่ายทอดรวมทั้งการสร้างแพลตฟอร์มหรือเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญให้กับประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย พร้อมทั้งเทคโนโลยี สร้าง สรรค์ผลงานวิจัยให้ตอบโจทย์การใช้งานภายในประเทศ เพื่อสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ผลักดัน และใช้ประโยชน์จากงานวิจัยพัฒนาไปสู่ผู้ใช้งานจริงได้อย่างยั่งยืน

การจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทค หรือ NECTEC-ACE ถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งมอบผลงานให้กับประเทศ เป็นเวทีนำเสนอผลงานวิชาการ ผลงานวิจัย ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์จากผู้ทรงคุณวุฒิที่จะนำเสนอเทรนด์ทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และสนับสนุนภารกิจของเครือข่ายพันธมิตรที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานวิจัยให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ โดยปีนี้นับเป็นครั้งที่ 16 ของการจัดงาน ซึ่งในปีที่ผ่านๆ มาได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยความพิเศษในแต่ละปีจะมีการนำเสนอแนวคิดหลักของการจัดงานที่แตกต่างกันออกไป โดยในปีนี้มุ่งเน้นนำเสนอวิทยาการความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทางด้านข้อมูล ภายใต้แนวคิด “Data for Thai Data for All” เพื่อเชิญชวนภาครัฐ เอกชน มาร่วมกันปลดปล่อยพลังแห่งข้อมูล พร้อมทั้งร่วมกันผลักดันให้เกิดระบบนิเวศของการแลกเปลี่ยน และใช้ข้อมูลร่วมกันในการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศในทุกมิติ

สำหรับความน่าสนใจงานประชุมวิชาการและ NECTEC–ACE 2023 ทุกท่านจะได้พบกับ

  • 12 หัวข้อสัมมนาวิชาการ รวบรวมกูรู ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิจัย นักวิชาการ กว่า 50 ท่าน ที่จะมาร่วมนำเสนอความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานจริง ในด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้านข้อมูล 3 Themes ที่สำคัญ ได้แก่ Data Platform, Big Data & AI, Data Governance + Security
  • 30 บูธนิทรรศการ ผลงานวิจัยจากเนคเทค และหน่วยงานพันธมิตร ที่แสดงถึงตัวอย่าง การใช้ประโยชน์จากข้อมูล, Data Solution, Core Technology และการใช้ข้อมูล ต่อยอด เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กร และธุรกิจ โดยมีตัวอย่างผลงานวิจัย อาทิ

TPMAP ระบบบริหารจัดการข้อมูลและพัฒนาคนแบบชี้เป้า
เครื่องมือช่วยในการกำหนดนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดภายใต้บริบทในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความยากจน ซึ่งเป็นปัญหาหลักของประเทศ

“ในเมือง”
ผลงานสุดท้าทายที่บูรณาการข้อมูล จาก 7 แกนเทคโนโลยีหลักที่ใช้ขับคลื่อนการพัฒนา Smart City เมืองไทย อาทิ สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) การบริการภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) และพลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) เพื่อวิเคราะห์ วางแผนรัมมือให้สามารถการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย และแก้ปัญหาในระยะยาว

การสร้างแผนที่ 3 มิติด้วยเทคโนโลยี LiDAR
เทคโนโลยีสร้างแผนที่ 3 มิติ ด้วยการใช้แสงเลเซอร์ย่านอินฟราเรดวัดระยะทาง ณ ตำแหน่งต่างๆ ของวัตถุที่สนใจ เหมาะสำหรับการสำรวจพื้นที่ การเกษตร การวิเคราะห์โครงสร้างอาคาร หรือการสร้างแผนที่ภายนอกและภายในอาคาร เป็นต้น

สามารถลงทะเบียนร่วมงานตั้งแต่วันนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ได้ที่ www.nectec.or.th/ace2023

]]>