Thai School Lunch – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Wed, 14 Feb 2024 02:42:32 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png Thai School Lunch – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 เนคเทค หารือ CEA แสวงหาแนวร่วม นำเทคโนโลยี สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/cea-250124.html Sat, 27 Jan 2024 09:45:14 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=35590

เนคเทค หารือ สำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มุ่งแสวงหาแนวร่วม นำเทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย

25 มกราคม 2567 ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. ดร.กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมทีมนักวิจัย และฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ฯ ให้การต้อนรับ คณะผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์กรมหาชน) เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิด แนวทางร่วมสร้างอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิทยาการ ตามความถนัดของแต่หน่วยงาน มาช่วย ภาคชุมชน ผู้ประกอบการ และ ภาคการศึกษา ช่วยเสริมเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ

โดย คุณวัชชิรา บูรณสิงห์ ผู้ช่วยนักวิจัย นำเสนอผลงาน นวนุรักษ์: แพลตฟอร์ม ระบบบริหารจัดการ “คลังข้อมูลวัฒนธรรม” และ “ความหลากหลายทางชีวภาพ” โดยใช้เครื่องมือในแพลตฟอร์ม มาช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำเข้าข้อมูลสู่ระบบ และสามารถนำข้อมูลจากระบบ ด้านวัฒนธรรมมาช่วยสร้างมูลค่าให้กับผลผลิตของชุมชน ช่วยบริหารจัดการข้อมูลท้องถิ่น อย่างเป็นระบบ และสามารถนำมาใช้ในเกิดประโยชน์ในการสร้างสื่อ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวด้านวัฒนธรรมให้ยังคงสามารถดำเนินอยู่ได้อย่างยั่งยืน และสามารถนำไปประยุกต์ต่อยอดทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมได้อย่างสร้างสรรค์

ดร. ละออ โควาวิสารัช นำเสนอ Museum Pool: ระบบจัดการข้อมูลพิพิธภัณฑ์แบบเครือข่าย สามารถสร้างสื่อนำชมพิพิธภัณฑ์ โดยการออกแบบข้อมูลโครงสร้าง และระบบนำชมในพิพิธภัณฑ์ มีการนำไปใช้งานพิพิธภัณฑ์หลายๆแห่ง ในประเทศ

ดร.ชัยอนันต์ ดำรงรัตน์ และ ดร.อภิสิทธิ์ ตันตระวรศิลป์ นำเสนอและนำชมผลงาน Sontana: Service Robot และแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์เชิงสนทนาพร้อมอวทาร์ (Conversational Avatar AI) โดย ทีมวิจัยกลุ่มวิจัยปัญญาประดิษฐ์ และกลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ข้อมูลการจัดกิจกรรม นิทรรศการ และข้อมูลขององค์กร

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์กรมหาชน) นำเสนอภาพรวมและแผนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมทั้งตัวอย่างการนำเอาผลงานวิจัยไปพัฒนาต่อยอดเชิงสร้างสรรค์ อาทิเช่น “Lunch and Learn” และเกม “Match and Meal ถาดหลุมสุ่มเมนู” ที่ประยุกต์จากผลงาน Thai School Lunch ของเนคเทค เป็นต้น จากนั้นทั้งสองฝ่ายร่วมแลกแลกเปลี่ยนแนวคิดการต่อยอดเทคโนโลยีที่สำคัญ ที่จะช่วยนำมาใช้ร่วมกัน บนพื้นฐานการสั่งสม การใช้การสร้างสรรค์ องค์ความรู้ในรูปแบบดิจิทัล และนำนวัตกรรมเนคเทค มีอยู่ไปประยุกต์ใช้เพื่อช่วยขยายความสามารถในการพัฒนาธุรกิจ การผลิตสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 5 กลุ่ม 15 สาขา ตามเป้าหมายของประเทศ (https://www.cea.or.th/th/about) ต่อไป

]]>
ผนึกกำลัง 4 หน่วยงาน จับมือร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP หวังยกระดับสินค้าเกษตรไทย สร้างรายได้ ขยายตลาด ด้วยฐานข้อมูล https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/mou-market-organization.html Tue, 14 Feb 2023 18:31:17 +0000 https://nectec.or.th/?p=32022

14 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ: กระทรวงมหาดไทย โดย องค์การตลาด และกรมพัฒนาชุมชน  ร่วมด้วย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บริษัท ดาร์วินเทค โซลลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมลงนามความร่วมมือด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP มุ่งยกระดับสินค้าเกษตรของไทย ผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าชุมชน สินค้าโอทอป ผลผลิตทางการเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ประชาชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกษตรกร สถาบันการเกษตร สหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเปราะบาง ด้วยฐานข้อมูลทางการเกษตร และฐานข้อมูลการตลาดจากความต้องการซื้อขายสินค้าเกษตร  โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี

นายภาณุพล  รัตนกาญจนภัทร รองประธานกรรมการองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตามกลุ่มเป้าหมาย SDGs เพื่อให้ประชาชน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มเปราะบาง กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรและผู้ประกอบการรายย่อยมีรากฐานการดำรงชีวิตและพัฒนาสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง จึงเป็นที่มาของแนวทางความร่วมมือร่วมกันระหว่าง 4 หน่วยงาน ในการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP เพื่อเพิ่มศักยภาพในการจำหน่ายสินค้า การกระจายสินค้าเกษตร เพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ โดยระบบดังกล่าว สามารถเชื่อมโยงข้อมูลความต้องการผลผลิตจากโรงเรียน และข้อมูลผลผลิตทางการเกษตร/ เกษตรกร พร้อมด้วยระบบ Logistic ในการติดตามสินค้า ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการซื้อขายในพื้นที่ต่าง ๆ  เพื่อให้เกษตรกรมีโอกาสจำหน่ายผลผลิตในราคายุติธรรม ช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ สินค้าล้นตลาด และมุ่งพัฒนาตลาดขององค์การตลาดให้เป็น Marketing and Trading ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตรเครือข่าย เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ให้เป็นคนดี คนเก่ง ประกอบอาชีพสุจริต สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

ดร.ชัย วุฒิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวถึงความร่วมมือ ในฐานะหน่วยงานที่พร้อมเป็นฐานรากทางด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นสูงให้กับประเทศ ที่ได้สะสมองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดูแลโภชนาการและสุขภาพของเด็กและเยาวชน รวมทั้งการทำ Demand-supply matching ของโรงเรียนและหน่วยบริการของรัฐ กับผู้ให้บริการเกษตร อาหารและขนส่ง ในความร่วมมือครั้งนี้ เนคเทค สวทช. ได้ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อยกระดับศักยภาพการบริการดิจิทัลของหน่วยงานพันธมิตร ด้วยการต่อยอดนวัตกรรมพร้อมใช้ 3 ผลงาน โรงเรียน สู่การพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP ได้แก่ Thai School lunch หรือ ระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ ที่ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ สามารถประมาณการค่าใช่จ่ายและวัตถุดิบล่วงหน้า ซึ่งระบบนี้จะเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ระบบ KidDiary ที่ครอบครัวสามารถเข้าถึงข้อมูลภาวะทางโภชนาการ และพัฒนาการของเด็ก ๆ

รวมถึงการเชื่อมโยงร่วมกับระบบ Farm to School เพื่อจับคู่ความต้องการสินค้าทางการเกษตรของโรงเรียนกับเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ และกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับที่ได้มาตรฐานเพื่อบริหารจัดการผลผลิต โดยร่วมขับเคลื่อน 2 กลไก คือ 1) การวิจัยและพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเพื่อติดตามและส่งเสริมการมีสุขภาพดีของคนไทยด้วยการใช้ข้อมูลและนวัตกรรมการวิเคราะห์ข้อมูล โดย ทีมวิจัยการวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ (HBA) กลุ่มวิจัยวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์ (DSARG) และ 2) การพัฒนาให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มสู่การใช้ประโยชน์ต่อสาธารณะ โดย บริษัท ดาร์วินเทค โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็น NECTEC Start up ล่าสุด ที่มีความเชี่่ยวชาญเรื่อง AI และ Big Data Analytics ในการดูแลสุขภาพของคนไทย

นายพงษ์ศักดิ์ ติยานันทิ กรรมการบริษัท ดาร์วินเทค โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในฐานะบริษัท Start up ที่นำผลงานวิจัยศักยภาพสูงของเนคเทค มาขยายผลสู่เชิงพาณิชย์สู่การใช้งานจริง พร้อมเป็นพันธมิตรร่วมทำงานกับทั้ง
3 หน่วยงาน ในการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของความร่วมมือ โดยมุ่งพัฒนาใน 2 ส่วน ประกอบด้วย

1) การเชื่อมโยงข้อมูล  ได้แก่ ข้อมูลความต้องการของลูกค้า 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มโรงเรียนที่ต้องการวัตถุดิบเพื่อตอบโจทย์อาหารกลางวันในโรงเรียน, กลุ่มลูกค้าเดิมขององค์การตลาด เช่น กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลกลุ่มลูกค้าทั่วไป และการลงทะเบียนเกษตรกร ผู้ประกอบการและเจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP  ที่ เป็นคู่ค้าขององค์การตลาด (อต.) และกรมการพัฒนาชุมชน (พช.)

2) Platform พร้อมจ่าย ได้แก่ 

ฝั่งผู้ซื้อ : จะเป็นรูปแบบเว็บไซต์ และ รูปแบบ Mobile Application สำหรับสั่งซื้อสินค้า รองรับการเชื่อมโยงบัญชีผู้ใช้งานบุคคลทั่วไป และลูกค้าหน่วยงาน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ผู้ประกอบการรับจัดอาหาร

ฝั่งผู้ขาย : (คู่ค้าของ อต.และผู้จำหน่ายสินค้า OTOP จากกรมการพัฒนาชุมชน) : มีการลงทะเบียนสินค้าที่จะขายใน platform โดยหากเป็นผลผลิตทางการเกษตรจะมีลงทะเบียนยืนยันตัวตน เพื่อจัดเก็บตำแหน่งที่ตั้งแปลงเกษตรและมาตรฐานการผลิต เพื่อรองรับกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ

ฝั่งผู้บริหารจัดการตลาด : สามารถบริหารจัดการการขาย อาทิ จัดการคู่ค้า จัดการราคา จัดการ stock สินค้า จัดการการจัดส่งสินค้า การชำระเงิน ส่งเสริมการขาย กระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)

เป้าหมายของความร่วมมือในครั้งนี้ มุ่งหวังพัฒนาให้แพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลที่สำคัญของประเทศ ในการยกระดับเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลผลิตทางการเกษตร และสินค้าเกษตรของไทย รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกร ผู้ประกอบการ และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมที่เกิดจากข้อมูล ผลักดันให้เกิดระบบนิเวศน์ของการเชื่อมโยงข้อมูลที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงได้อย่างครบวงจร ที่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาบริการดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐที่ช่วยตอบโจทย์ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งในด้านสร้างการมูลค่าเพิ่มของสินค้า สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนอย่างแท้จริง

]]>
15 คำถามที่พบบ่อยการใช้งาน Thai School Lunch ระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/thai-school-lunch-faq.html Wed, 07 Dec 2022 09:16:59 +0000 https://nectec.or.th/?p=31079

ขณะนี้ระบบ Thai School Lunch และ KidDiary เปิดให้ลงทะเบียน เฉพาะโรงเรียนและสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ก่อน หน่วยงานหรือโรงเรียนในสังกัดอื่นๆ จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนในวาระถัดไป

หากสถานศึกษา ไม่พบ “รายชื่อโรงเรียนหรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก” ในระบบลงทะเบียน ให้ท่านทำการติดต่อไปยังหน่วยงานของสังกัดของท่าน (สพฐ. หรือ อปท.) เพื่อเพิ่มชื่อ ที่อยู่ และรหัสสถานศึกษาของท่านเข้าไปในระบบ DMC หรือ LEC เพื่อที่ทีมงานจะได้ดึงข้อมูลของสถานศึกษาของท่านเพื่อใช้ในการลงทะเบียนขอชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านใหม่ต่อไป

สถานศึกษาเริ่มลงทะเบียนเพื่อขอชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านใหม่

เมื่อ ลงทะเบียนสำเร็จในขั้นตอนที่ 1 แล้วท่านจะได้รับ บัญชีชื่อผู้ใช้งานพร้อมรหัสผ่านตัวใหม่ ซึ่งขั้นตอนการ Upload เอกสารจะมีการสอบถามรหัสชื่อผู้ใช้งานตัวใหม่ซึ่งเป็นเลข 10 ตัว (ดังภาพ) และเลขประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน หากข้อมูลดังกล่าวถูกต้องก็จะสามารถ Upload ได้

สามารถให้หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือผู้มีอำนาจลงนามเซ็นเอกสารแต่งตั้งได้

เอกสารที่ได้มีการเซ็นลงนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถบันทึกภาพในรูปแบบไฟล์นามสกุล .jpg หรือ .pdf เพื่อนำส่งเข้าสู่ระบบลงทะเบียนได้ค่ะ เงื่อนไขคือภาพจะต้องชัดเจน สามารถอ่านได้

หลังจากที่สถานศึกษาได้ลงทะเบียนและได้ส่งเอกสาร Upload เข้ามาที่ระบบลงทะเบียนจนเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบเอกสารที่ส่งมาว่าข้อมูลถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วว่าถูกต้องครบถ้วน ระบบจะทำการส่ง SMS ยืนยันการเข้าใช้งานระบบทางมือถือที่ลงทะเบียนอีกครั้งหนึ่ง

ในการตรวจสอบเอกสารจะพิจารณาจากข้อมูลลงทะเบียนที่มีการนำเข้าและสมบูรณ์ที่สุดอันสุดท้าย ดังนั้นบุคคลที่จะได้รับ SMS คือบุคคลที่ลงทะเบียนสมบูรณ์ล่าสุด

  1. กรณี ได้ SMS แล้ว ต้องรอเปิดสิทธิแก้ไขเอกสารในระบบ KidDiary ก่อนจึงจะขอแก้ไขข้อมูลได้  
  2. กรณียังไม่ได้ SMS ให้ทำการแก้ไขเอกสารแต่งตั้งและแนบไฟล์เข้าระบบลงทะเบียนใหม่ได้

ให้สถานศึกษาตรวจสอบชื่อผู้ใช้งานว่าถูกต้องหรือไม่ (ชื่อผู้ใช้งานใหม่นี้หาได้จากเอกสารการลงทะเบียนสำเร็จในขั้นตอนที่ 1 และรหัสสถานศึกษาในเอกสารหนังสือแต่งตั้ง) กรณีหากลืมรหัสผ่าน สามารถเข้าไปขอรหัสผ่านใหม่ได้ที่ https://register.kiddiary.in.th/school/recovery

ข้อมูลรายชื่อเด็กในระบบ KidDiary School กำลังจะทยอยใส่เข้าไปในระบบให้ เป็นรายชื่อนักเรียนที่เหมือนกับที่โรงเรียนส่งเข้าไปที่ระบบ LEC หรือ DMC ส่วนข้อมูลน้ำหนักส่วนสูงเก่าของเด็กจะทยอยใส่เพิ่มให้หลังจากนั้น

ระบบ Thai School Recipes จะเปิดให้ดำเนินการเพิ่มเมนูอาหารในวาระถัดไป เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการเชื่อมระบบ Thai School Lunch และ KidDiary School ก่อน

ท่านสามารถเข้าไปศึกษาคู่มือการลงทะเบียน ได้ที่ https://bit.ly/3uxDe7a

]]>
การเคหะแห่งชาติ จับมือ “เนคเทค สวทช.” เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการเกษตรและ ปศุสัตว์ ในโครงการ “บ้านเคหะสุขประชา” มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยในชุมชน https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/nectec-nha-mou-2022.html Thu, 28 Apr 2022 11:42:56 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=25768

การเคหะแห่งชาติ ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ เนคเทค  สวทช.จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการบูรณาการความร่วมมือทางวิชาการจากการพัฒนาเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมทางการเกษตรและปศุสัตว์เพื่อใช้ในโครงการบ้านเคหะสุขประชา ระหว่าง นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ร่วมลงนามในครั้งนี้ โดยมี ดร.จเรรัฐ ปิงคลาศัย กรรมการ การเคหะแห่งชาติ กล่าวแสดงความยินดีกับทั้งสองหน่วยงาน เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร 5 สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ คลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง ตลอดจนพัฒนาชุมชนของการเคหะแห่งชาติให้มีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงฟื้นฟูชุมชนเมืองให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี และพัฒนาเมืองใหม่ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเมือง ประกอบกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ได้มอบนโยบายให้การเคหะแห่งชาติ ดำเนินโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย “บ้านเคหะสุขประชา” ในรูปแบบบ้านเช่าพร้อมอาชีพ เพื่อยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจครัวเรือน โดยการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนแบบครบวงจรตามบริบทสังคมและศักยภาพเชิงพื้นที่ ภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจสุขประชา” ผ่านการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และปศุสัตว์ เป็นต้น

ความร่วมมือทางวิชาการจากการวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อพัฒนาด้านเกษตรกรรมและปศุสัตว์ ส่งเสริมการบูรณาการองค์ความรู้ในด้านการเกษตรและปศุสัตว์ และถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน ในโครงการเศรษฐกิจสุขประชา ภายใต้โครงการ “บ้านเคหะสุขประชา” รวมถึงเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาและถ่ายทอดต่อไป โดยความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นความร่วมมือทั้งด้านระดับนโยบาย กลยุทธ์และระดับปฏิบัติการ เพื่อสานพลังเชิงบวกสู่เป้าหมายในทิศทางเป็นไปอย่างต่อเนื่อง 

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า ในส่วนของเนคเทคจะให้การส่งเสริมสนับสนุนเทคโนโลยีหรือระบบเกษตรอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตให้กับประชาชนในโครงการเศรษฐกิจสุขประชา ภายใต้โครงการ “บ้านเคหะสุขประชา” ตลอดจนความร่วมมือด้านอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายเชิงนโยบายระหว่าง 2 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ชุมชนและสังคม เพื่อความสำเร็จและมีประสิทธิภาพของการดำเนินงาน

ในระยะแรกเนคเทค สวทช.ได้นำผลงานวิจัยหลักที่นำมาร่วมกับโครงการ “บ้านเคหะสุขประชา”ได้แก่

1.HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ ผนวกเทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแวดล้อมทางการเกษตรและระบบควบคุมการทำงานอัตโนมัติได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่ายทนทานต่อสภาพแวดล้อม

2.ชาวเกษตร โมบายแอปพลิเคชั่นที่แนะนำวิธีการเพาะปลูกที่ถูกต้องตามกรอบเวลา (crop calendar) และวิธีปฏิบัติงานในแปลงอย่างถูกต้องและเหมาะสมแก่เกษตรกร อาทิ การบริหารจัดการน้ำ ปุ๋ยหรือยารักษาโรคพืช การบันทึกพิกัดแปลง การจดบันทึกบัญชีฟาร์ม การแจ้งเตือนภัยโรคและศัตรูพืช เฝ้าดูสภาพภูมิอากาศใกล้เคียง การแจ้งราคาตลาดรับซื้อสินค้าเกษตรใกล้ตําแหน่งแปลงเพาะปลูก

และ 3) Farm To School ระบบเชื่อมโยงผลผลิตเพื่ออาหารกลางวัน ตอบโจทย์ข้อจำกัดของการเชื่อมโยงข้อมูลสินค้าเกษตรเพื่ออาหารกลางวันในโรงเรียนหรือหน่วยงาน เหมาะสำหรับโรงเรียน เครือข่ายเกษตรกร และผู้จัดหาผลผลิต ระบบถูกออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ สนับสนุนให้เกิดการซื้อขายผลผลิตและวางแผนการผลิตแบบล่วงหน้าระหว่างโรงเรียนหรือหน่วยงาน และเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ ร่วมกับความสามารถของระบบในการเชื่อมโยงข้อมูลความต้องการผลผลิตของโรงเรียน/หน่วยงานแบบอัตโนมัติจากระบบ Thai School Lunch และการจัดสรรผลผลิตเพื่อป้อนให้กับโรงเรียน/หน่วยงานตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ต่อยอดใช้ในครัวเรือนและชุมชน ในโครงการบ้านเคหะสุขประชาได้ 

โดยบูรณาการงานวิจัย 3 เรื่องข้างต้นเพื่อพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงความต้องการของผู้บริโภค/ผู้ค้า กับความสามารถในการผลิตของเกษตรกร รวมถึงบริหารจัดการ market place และ logistics เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการสร้างอาชีพและรายได้ ให้กับผู้เช่า รวมถึงวิสาหกิจชุมชน ในโครงการเคหะสุขประชา เพื่อส่งเสริมการทำการเกษตร ยกระดับผลผลิต ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร คุณภาพชีวิต และรายได้ แก่ผู้เช่าในโครงการฯ เกษตรกร และผู้ประกอบการเทคโนโลยีการเกษตรไทยได้อย่างยั่งยืน  รวมทั้งการนำ Aqua IoT – นวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อฟาร์มสัตว์น้ำ และ Eco Plant factory – โรงงานผลิตพืช ยกระดับการปลูกพืชสู่เกษตรแม่นยำ มาร่วมโครงการในระยะต่อไปด้วย

และในอนาคตมีแนวคิดนำ Eco Plant factory นวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ ตลอดจนแพลตฟอร์มบริหารจัดการเมืองและชุมชน  มาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ในโครงการบ้านเคหะสุขประชา ด้วย

สำหรับ “โครงการบ้านเคหะสุขประชา” การเคหะแห่งชาติมีเป้าหมายจัดสร้าง 100,000 หน่วย ภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2564 – 2568) กำหนดส่งมอบปีละประมาณ 20,000 หน่วย ด้วยแนวคิดการจัดสร้างที่อยู่อาศัยประเภทเช่าให้กับผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง ข้าราชการชั้นผู้น้อย ข้าราชการเกษียณ รวมถึงผู้บุกรุกในพื้นที่สาธารณะ อัตราค่าเช่าประมาณ 1,500 – 3,000 บาทต่อเดือน พร้อมทั้งส่งเสริม “เศรษฐกิจสุขประชา” 6 กลุ่มอาชีพ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการ ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้า ปลีก – ส่ง โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้อยู่อาศัยตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 โครงการ จำนวน 572 หน่วย ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้จัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 โดยการเคหะแห่งชาติถือหุ้น 49% ที่เหลือเป็นเงินลงทุนจากภาคเอกชน โดยเป็นธุรกิจอื่น
อีก 7 กลุ่มถือหุ้นในสัดส่วนรวมกัน 51% อาทิ ธุรกิจค้าปลีก เกษตร เฮลท์แคร์ ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง และอุตสาหกรรม ซึ่งแต่ละรายจะถือหุ้นได้ในสัดส่วนไม่เกิน 15%

]]>
เนคเทค-สวทช. คว้า 2 รางวัล TICTA 2019 ร่วมเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันในเวทีระดับเอเชียแปซิฟิก APICTA https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/nectec-ticta2019.html Mon, 11 Nov 2019 09:07:12 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=17990

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ดร. ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) ร่วมมอบดอกไม้แสดงความยินดีแก่ทีมวิจัยเนคเทค ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติ Thailand ICT Awards 2019 (TICTA 2019) เพื่อเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน Asia Pacific ICT Alliance Awards 2019 (APICTA 2019) ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก คุณฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ประธานในพิธีเป็นผู้มอบรางวัล ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์

TICTA 2019
TICTA 2019
TICTA 2019

โดยในปีนี้ เนคเทค คว้า 2 รางวัล ประกอบด้วย

1. Thai School Lunch: ระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ ได้รับรางวัล Winner Award Head Category สาขา Public Sector and Government
นำทีมโดย ดร. สุปิยา เจริญศิริวัฒน์ ทีมวิจัยการวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ (HBA) Thai School Lunch เป็นระบบที่ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ ทั้งยังสามารถประมาณการค่าใช่จ่ายและวัตถุดิบล่วงหน้า เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ.2555 ร่วมพัฒนาโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
TICTA 2019
2. Traffy Waste: ระบบจัดการการเก็บขยะอัจฉริยะ ได้รับรางวัล Winner Award สาขา Technology Award: Big Data Analytics
นำทีมโดย ดร. วสันต์ ภัทรอธิคม ทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (ITS) Traffy Waste เป็นระบบจัดการการเก็บขยะอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายของการจัดเก็บขยะในพื้นที่โครงการ โดยการบริหารและจัดการตั้งแต่จุดทิ้งขยะจากเซ็นเซอร์ ตรวจวัดปริมาณขยะและโมบายแอปพลิเคชัน รายงานขยะเกลื่อนกลาด รถขยะอัจฉริยะติดตั้งระบบติดตามความละเอียดสูง ระบบแดชบอร์ดแสดงภาพรวม พร้อมทำนายและจัดเส้นทางการเก็บขยะให้มีประสิทธิภาพ
TICTA 2019

การประกวดซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติ Thailand ICT Awards (TICTA) จัดโดยสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐด้านซอฟต์แวร์ไทย เพื่อให้มีแรงบันดาลใจ และมีโอกาสส่งผลงานเพื่อสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับภูมิภาคอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก

TICTA 2019
]]>