Traffy Fondue – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Wed, 28 Jun 2023 05:05:02 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png Traffy Fondue – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 Traffy fondue ร่วมเวที “ขับเคลื่อนภาครัฐด้วยข้อมูล” เดินหน้าค้นหาพันธมิตรที่ SITE 2023 https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/site2023-traffy-fondue.html Sat, 24 Jun 2023 05:04:19 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=33541

กลุ่มนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับเมือง (TFCB) สวทช. ร่วมงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023 (SITE 2023) ภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP – TOGETHER WE GROW โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการทำงานร่วมกัน ยกระดับความร่วมมือทางนวัตกรรมจากทุกภาคส่วน ให้เกิดการยกระดับขีดความสามารถทางนวัตกรรม สร้างโอกาสและส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มตัน และผู้ประกอบการฐานนวัตกรรมให้แข็งแกร่ง ก่อให้เกิดผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และขยายเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจ และนวัตกรรมในระดับสากล จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งจัดแสดงผลงานในโซนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ภายในงานยังมีกลุ่ม startup หลากหลายทั้งภาครัฐ และเอกชนมาร่วมจัดแสดงผลงาน ซึ่งได้รับความสนใจมากมายจากผู้เข้าร่วมงานทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ

ทีเวทีเสวนาหัวข้อ ขับเคลื่อนภาครัฐด้วยข้อมูล Better Data, Better Dicision ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยอาวุโส กลุ่มนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับเมือง (TFCB) ได้บรรยายในหัวข้อ “Smart City จบปัญหาเมืองในแพลตฟอร์มเดียว ด้วย Traffy Fondue” ซึ่งผลงาน Traffy fondue ถือเป็นหนึ่งใน Core Business เพิ่มศักยภาพให้งานวิจัยของ สวทช. เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566

Traffy Fondue แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง จัดว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ออกมาตอบโจทย์การแก้ปํญหาของเมือง โดยสามารถใช้งานง่าย ประชาชน ที่เพียงแค่แอดไลน์ @TraffyFondue ก็สามารถแจ้งปัญหาได้ถึง 16 เรื่อง เช่น น้ำท่วม ความสะอาด ไฟฟ้า ประปา ทางเท้า ถนน การทุจริต จราจร สัตว์ เสียง ฝุ่นควันกลิ่น ต้นไม้ อาคารสถานที่ชำรุด การเผาในที่โล่ง จุดเสี่ยง ควันดำ ยาเสพติด สุขภาพบัตรทอง ฯลฯ ปัจจุบัน Traffy fondue รับแจ้งเรื่องแล้วมากกว่า 4 แสนกว่าเรื่อง มีหน่วยงานราชการเข้าร่วมแล้วกว่า 10,000 หน่วย และ Traffy fondue ได้ขยายครอบคลุมทั่วประเทศ โดยทั้งนี้มีจังหวัดที่เข้าร่วมทุกหน่วยงานราชการแล้วถึง 12 จังหวัด ส่วนของเจ้าหน้าที่สามารถรับแจ้งปัญหาได้ถึง 2 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางแอพ Traffy fondue หรือจะเป็นทางเว็บไซต์ citydata.traffy.in.th ทำให้การเข้าไปแก้ปัญหาต่างๆ ทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับผู้บริหาร สามารถใช้ข้อมูลเมืองเพื่อเข้ามาบริหารจัดการได้ง่ายๆ โดยผ่าน Dashboard ในการติดตามแก้ปัญหา ตรวจสอบได้ทุกที่ ทุกเวลา

]]>
สปสช. ผนึกความร่วมมือ สวทช. รุกพัฒนา “นวัตกรรมบริการสุขภาพระบบบัตรทอง” https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/healthcare-coverage.html Fri, 24 Mar 2023 04:40:47 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=33251

สปสช. ผนึกความร่วมมือ สวทช. รุกศึกษา วิจัยพัฒนา และประยุกต์ใช้นวัตกรรม 5 ประเด็น มุ่งเพิ่มศักยภาพบริการด้านสุขภาพในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและวัตกรรมใหม่ในประเทศ

วันที่ 23 มีนาคม 2566 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ลงนามความร่วมมือเพื่อดำเนินการศึกษา การวิจัยพัฒนา และการประยุกต์ใช้นวัตกรรม เพื่อการให้บริการด้านสุขภาพของภาครัฐในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 หน่วยงานเข้าร่วม ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 2 อาคาร B แจ้งวัฒนะ กทม.

ภายใต้ความร่วมมือนี้ เบื้องต้นกำหนดการดำเนินการใน 5 ประเด็น ประกอบด้วย 1.การส่งข้อมูลสำหรับเบิกจ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e-Claim Gateway) 2.การรับเรื่องร้องเรียนระดับเขต และระดับจังหวัด (Traffy Fondue) และจับคู่ความต้องการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาล 3.การให้ปรึกษาด้านการออกแบบคลาวน์ (Cloud Computing) 4.การใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมากและปัญญาประดิษฐ์ (Big Data & AI) รวมทั้ง Dashboard สำหรับการบริหารจัดการ และ 5.การพัฒนา Roadmap สำหรับการวิจัยพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์และอวัยวะเทียมในรายการสิทธิประโยชน์ มีระยะเวลาความร่วมมือ 2 ปี นับจากนี้

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สปสช. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับ สวทช. ครั้งนี้ หนึ่งในนโยบายที่ สปสช. ให้ความสำคัญ คือการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่นำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนวัตกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ซึ่ง สวทช. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทและมีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมืออันดีในวันนี้ จะยังให้เกิดประโยชน์กับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองทั่วประเทศอย่างแน่นอน

สำหรับบทบาทและหน้าที่ของ สปสช. ภายใต้ความร่วมมือนี้ อาทิ การร่วมกำหนดโจทย์การวิจัยที่ต้องการศึกษาและพัฒนา การสนับสนุนข้อมูลและเปิดช่องทางการวางข้อมูล การร่วมพัฒนาหรือปรับปรุงระบบสารสนเทศหรืออุปกรณ์ทางด้านการแพทย์ตามที่เห็นร่วมกัน รวมทั้งร่วมจัดหาทรัพยากรเพื่อดำเนินการ การมอบหมายผู้รับผิดชอบและผู้ประสานงานเข้าร่วมดำเนินการ รวมถึงอำนวยความสะดวกทีมผู้เชี่ยวชาญของ สวทช. เพื่อดำเนินการตามประเด็นที่ได้กำหนดร่วมกัน

“การศึกษา การวิจัยพัฒนา และการประยุกต์ใช้นวัตกรรมทั้ง 5 ประเด็นนี้ ได้ผ่านการหารือและกลั่นกรองและวิเคราะห์ร่วมกันระหว่าง สปสช. และ สวทช. ซึ่งจะเป็นส่วนในการเพิ่มศักยภาพการดำเนินการและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ ทั้งเป็นการต่อยอดระบบ A-MED Telehealth ระบบบริการทางการแพทย์ทางไกล ในการบันทึกข้อมูลบริการเพื่อส่งเบิกจ่าย และการรับเรื่องร้องเรียนผ่าน ทราฟฟี่ ฟองดูว์ ที่เพิ่มเติมในส่วนของไลน์” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. เห็นความสำคัญของการทำงานร่วมกับ สปสช. ในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ไปใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในวงกว้างและเป็นรูปธรรม สำหรับบทบาทและหน้าที่ของ สวทช. ภายใต้ความร่วมมือนี้ สวทช. จะนำพลังความรู้ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและนักวิจัยเข้ามาช่วยสร้างและพัฒนานวัตกรรมร่วมกับ สปสช.

ที่ผ่านมา สวทช. ได้นำผลงานงานวิจัยและพัฒนามาสนับสนุน ได้แก่ แอปพลิเคชัน ทราฟฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue) : Dashboard สปสช. เพิ่มช่องทางรับข้อเสนอแนะสิทธิบัตรทอง ในการรับแจ้งเรื่องร้องเรียนและปัญหาการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ระหว่าง สปสช. กับประชาชนให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนเรื่องที่ร้องเรียน 766 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิบัตรทอง 470 เรื่อง (61.36%) ซึ่งดำเนินการแก้ไขเสร็จสิ้นแล้ว 463 เรื่อง และอยู่ระหว่างดำเนินการ 7 เรื่อง ไม่เกี่ยวข้องและส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 296 เรื่อง (38.64%) เช่น แจ้งเรื่องฝุ่น จราจร และคนทิ้งขยะ เป็นต้น และในปัจจุบัน สปสช. กำลัง เปิดให้ ไลน์ทราฟฟี่ ฟองดูว์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางใหม่ที่เพิ่มความสะดวกให้ประชาชนในการให้ความคิดเห็นต่อ “กองทุนบัตรทอง” ปี 2566 อีกด้วย

นอกจากนี้ สวทช. ยังได้ร่วมกับ สปสช. ในการขยายการทำงานร่วมกันจากแพลตฟอร์ม A-MED Telehealth ไปสู่การออกแบบและพัฒนาระบบ e-Claim Gateway ร่วมกัน ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญภายใต้ความร่วมมือนี้ โดยมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการทำงานเพื่อให้เกิดความคล่องตัว ความรวดเร็ว และความถูกต้องในการเบิกเคลมของโรงพยาบาลกับ สปสช.

นอกจากระบบ e-Claim Gateway แล้ว สวทช.ยังได้ร่วมมือกับ สปสช. และ สภาเภสัชกรรม ต่อยอดแพลตฟอร์ม A-MED Telehealth ไปสู่ A-MED Care ระบบบริการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยทั่วไป (Common illnesses) ใน 16 อาการ สำหรับผู้ถือสิทธิบัตรทอง สามารถขอรับยาได้ทันที ปัจจุบันให้บริการมากกว่า 900 ร้านยาคุณภาพ ให้บริการสะสมแล้วมากกว่า 1 แสนครั้ง โดยในปี 2566 ตั้งเป้าหมายขยายผลการให้บริการครอบคลุมร้านยาคุณภาพ 1,500 ร้านยา

“ความร่วมมือของ 2 หน่วยงานในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการนำ วทน. ไปใช้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะช่วยนำมาสู่คุณภาพและบริการสุขภาพที่ดีขึ้นไทยในอนาคต” ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวทิ้งท้าย 

]]>
Traffy Fondue โชว์ศักยภาพงานวิจัยไทยสู่การพัฒนาประเทศ ในงาน BTFP showcase by NBTC https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/traffy-fondue-btfpshowcase2022.html Thu, 24 Nov 2022 04:43:23 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=31145

21 พฤศจิกายน 2565 ดร.ชัย  วุฒิวิวัฒน์ชัย  ผู้อำนวยการ เนคเทค สวทช. ในฐานะกรรมการบริหารกองทุน กทปส. ร่วมพิธีเปิดกิจกรรมประชาสัมพันธ์กองทุนวิจัยและพัฒนาฯ BTFP showcase by NBTC   พร้อมด้วย ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (ITS) กลุ่มวิจัยการสื่อสารและเครือข่าย (CNWRG) เนคเทค สวทช  นำทีมพัฒนาโชว์ผลงาน Traffy Fondue แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง  ในงาน BTFP showcase by NBTC  กทปส.  เชื่อมโยง ณ ลานโปรโมชั่น ชั่น 1 เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว

งาน BTFP showcase by NBTC   จัดโดยกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.)   โดยศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ให้เกียรติเปิดงานฯ  ภายในงานจัดแสดงมีผลงานที่ได้รับทุนกว่า 17 โครงการ โดยคัดเลือกผลงานที่มีความโดดเด่น เน้นผลงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ เศรษฐกิจ สังคม และสาธารณะ เพื่อเชิญชวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนากิจการโทรคมนาคม  เทคโนโลยีสารสนเทศ มุ่งให้เกิดการต่อยอดพัฒนาผลงาน ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่สังคม หวังดันนักวิจัยไทยลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ Traffy Fondue  เป็นตัวอย่างโครงการได้รับทุนสนับสนุน จาก กทปส. ที่พร้อมต่อยอดเพื่อขยายผลโครงการทั้งเชิงพาณิชย์ และเชิงประโยชน์สาธารณะ  Traffy Fondue เป็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม รับเรื่องแจ้งและบริหารจัดการปัญหา ช่วยลดขั้นตอน และลดค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา ผ่าน Line Application ด้วยเทคโนโลยี Chatbot อีกทั้งใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยจำแนกปัญหาเพื่อส่งต่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และโปร่งใส ซึ่งผู้บริหารหน่วยงานหรือท้องถิ่นสามารถเห็นภาพรวมของปัญหา โดยแสดงข้อมูลทางสถิติเพื่อใช้วางแผนและพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Smart Government)

Traffy Fondue ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2565  รางวัลบริการภาครัฐ ระดับดีเด่น ประเภทนวัตกรรมการบริการ  จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับหน่วยงานของรัฐที่มีผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเพื่อประชาชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม และเป็นที่พึงพอใจ มอบให้กับหน่วยงานที่มีผลการดำเนินการที่เป็นเลิศ ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐ การพัฒนาคุณภาพการบริการจัดการภาครัฐ และเปิดระบบราชการให้ภาคส่วนอื่นเข้ามามีส่วนร่วม  เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565  ที่ผ่านมา

]]>
ส่องฟีเจอร์ใหม่ ! Traffy Fondue 2023 ง่าย สะดวกกว่าเดิม เพิ่มเติมประสิทธิภาพการใช้งาน https://www.nectec.or.th/news/news-article/traffy-fondue-2023.html Mon, 07 Nov 2022 09:04:00 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=30701

บทความ : ปาลิตา โคนเคน
ภาพประกอบ : ปาลิตา โคนเคน, ศศิวิภา หาสุข
ถ่ายภาพ : กรรวี แก้วมูล

ที่งานประชุมวิชาการของเนคเทค ประจำปี 2565 หรือ NECTEC-ACE 2022 ที่ผ่านมา นอกจากจะมีการนำเสนอผลงานวิจัยและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีเกษตรดิจิทัลแล้ว ยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยที่น่าสนใจของเนคเทคอีกจำนวนมาก และขาดไปไม่ได้กับผลงานที่กำลังได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก “Traffy Fondue” แพลตฟอร์มรับการแจ้งและบริการจัดการปัญหาเมือง โดยประชาชนสามารถแจ้งปัญหา รวมถึงการติดตามความก้าวหน้าการทำงานต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ผ่านทาง LINE Application ด้วยเทคโนโลยีแชตบอท รวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยจำแนกปัญหาและส่งต่อเพื่อนำมาสู่การแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว โปร่งใส ทำให้ผู้บริหารหน่วยงาน หรือ ท้องถิ่น สามารถเห็นภาพรวมของปัญหา โดยจะแสดงข้อมูลทางสถิติเพื่อใช้วางแผน และพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเรียกว่า Smart Government

การเสวนาหัวข้อ “เปิดตัว Traffy Fondue 2023 และมุมมองประสบการณ์การใช้งานเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาเมืองน่าอยู่” ได้รับเกียรติจากผู้บริหารหน่วยงานที่ได้นำไปประยุกต์ใช้งาน มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองการใช้งาน เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาเมืองน่าอยู่ ร่วมเป็นวิทยากร ดังนี้

  • ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม
    หัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ
    กลุ่มวิจัยการสื่อสารและเครือข่าย เนคเทค สวทช.
  • นายชรินทร์ ทองสุข
    รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
  • คุณศนิ จิวจินดา
    ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
  • คุณศานนท์ หวังสร้างบุญ
    รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร 
  • พันตำรวจเอก สุกิจ  อรุณฤกษ์ถวิล
    รองผู้บังคับการตำรวจจราจร
    กองบังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล
  • คุณไกลก้อง ไวทยาการ
    ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายท้องถิ่น มูลนิธิคณะก้าวหน้า
    ร่วมด้วย  ดร. กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวยการ เนคเทค สวทช. เป็นผู้ดำเนินรายการ

จุดเริ่มต้น! Traffy Fondue แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาสุดล้ำ !

ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจัยผู้พัฒนา Traffy Fondue เล่าถึงจุดเริ่มต้นของแพลตฟอร์มว่ามาจากการทำ Smart City ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อปี 2558 จากการเรียกร้องเรื่องการบริหารจัดการปัญหาขยะโดยประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขอย่างดี เมื่อปัญหาขยะสามารถแก้ไขได้ ปัญหาอื่นๆ ก็สามารถแก้ไขได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้จุดประสงค์ของ Traffy Fondue คือ การใช้แพลตฟอร์มลดช่องว่างระหว่างผู้ประสบปัญหากับหน่วยงาน เพื่อลดระยะเวลา ค่าใช้จ่าย ช่วยให้เจ้าหน้าที่เห็นข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนในขณะนั้น และพร้อมที่จะไปแก้ไขทันที อีกทั้งยังช่วยให้ผู้บริหารมีข้อมูลภาพรวมของปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา เพื่อนำมาบริหารจัดการเมืองให้ดีขึ้น 

คุณศนิ จิวจินดา กล่าวเสริมว่า หลังจากรองศาสตราจารย์ ชัชชาติสิทธิพันธุ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ Facebook เชิญชวนให้ประชาชนแจ้งปัญหาผ่านทาง Traffy Fondue โดยมีผู้เข้ามาแจ้งปัญหามากถึง 15,000 รายการ  ภายในหนึ่งสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร  รวมถึงสำนักงานเขตย่อย ได้ติดต่อเข้าร่วมการใช้ Traffy Fondue  ปัญหาหลากหลายได้รับความร่วมมือจากหลายองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ  เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ทางตำรวจ ทางการไฟฟ้า ทางการประปา เป็นต้น โดย ผู้ว่าฯ ชัชชาติเป็นเจ้าภาพประสานงานกับองค์กรต่างๆ รวมทั้งในกรุงเทพมหานคร 

โดย ดร. วสันต์ ให้ข้อมูลว่าหลังจากมีการเริ่มใช้วันที่ 29 พ.ค. 2565 กรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพการแก้ปัญหาเป็นอย่างมาก โดยจะนำผู้บริหารเขต ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เข้ามาช่วยกำกับและติดตามผล หลังจากเกิดกระแสทำให้ประชาชนในเขตพื้นที่อื่นให้ความสนใจมากขึ้น จึงขยายผลต่อยอดไปยังจังหวัดต่างๆ คือ นครราชสีมา อุบลราชธานี ยโสธร เชียงราย และเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีขยายไปยังเทศบาลต่างๆ หน่วยงานที่เข้ามาสมัครใช้ทั้งหมด 8,000 หน่วยงาน สถิติหน่วยงานที่ใช้งานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหมด 2,378 หน่วยงาน แบ่งได้เป็น เทศบาล 298  อบต. 223 หน่วยงาน ใน 166 อำเภอ 58 จังหวัด*

จากทุนสนับสนุนของ กสทช. ทำให้สามารถขยายผลการใช้งาน Traffy Fondue ไปยังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ นอกจากนี้ มีการตั้งศูนย์ประสานงานประจำภูมิภาคอีก 4 แห่ง คือ เชียงราย เพชรบุรี พิษณุโลก และนครราชสีมา สำหรับการอบรมให้คำปรึกษา โดยได้จัดอบรมผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และประชาชนไปแล้ว 16 รุ่น 785 หน่วยงาน 1,714 คน

(*ข้อมูลจากเวทีเสวนา 8 กันยายน 2565)

ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจัยผู้พัฒนา Traffy Fondue
คุณศนิ จิวจินดา ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

การแก้ไขปัญหาบนพื้นที่จริงด้วย Traffy Fondue

ปัจจุบันมีการใช้งาน Traffy Fondue ในหลายเมือง ทั้งจังหวัดภูเก็ต อุบลราชธานี นครราชสีมา และอื่นๆ เทศบาลทั่วประเทศ 357 แห่ง องค์การบริหารส่วนตำบล 350 แห่ง หน่วยงานด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 96 หน่วยงาน นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ 12 แห่ง รวมทั้งส่วนของกรุงเทพมหานคร 50 เขต

จากสถิติการใช้งาน พบว่า ปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดคือ ปัญหาถนนและทางเท้า รองลงมาคือน้ำท่วม และอื่นๆ เช่น ปัญหาขยะ สุนัขจรจัด รวมทั้งหมดกว่า 140,000 เรื่อง มีการบริหารจัดการคือ จำแนกให้เขตและสำนักต่างๆ รวมถึงหน่วยงานภายนอกร่วมกันรับเรื่องโดยใช้ Traffy Fondue และประสานหน่วยงานภายนอกมาช่วยเหลือ โดยกระจายอำนาจให้ผู้อำนวยการเขต กระจายงบประมาณให้มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเขตที่อยู่ใกล้ประชาชน เข้าถึงการแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น

นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า นครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย มีประชากรกว่า 2.7ล้านคน มีความยากลำบากในการบริหารพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงต้องมีหน้าที่ในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาเช่นกัน 

จังหวัดนครราชสีมาพยายามที่จะพัฒนา แก้ไขปัญหา ตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากการใช้แอปพลิเคชัน Traffy Fondue ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเป็นแอดมินดูแลปัญหา ประกอบไปด้วยส่วนราชการภูมิภาค 35 หน่วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตําบล และองค์การบริหารส่วนตำบล 334 แห่ง ปัจจุบันมีหน่วยงานแอดมินในจังหวัดมากกว่า 400 หน่วย 

แม้จะมีปัญหาและอุปสรรคจำนวนมาก แต่จังหวัดนครราชสีมาก็ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา โดยมีความตั้งใจนำความรู้ไปใช้ ปัจจุบันยังคงมีปัญหาเชิงระบบส่วนราชการ และปัญหาส่วนจังหวัดในการแบ่งเขตพื้นที่ รวมถึงการแจ้งเตือนให้แก่สถานีตำรวจ สถิติการใช้งานหนึ่งดือน ได้รับแจ้งปัญหาประมาณ 1,900 เรื่อง โดยมีสถานะรอรับเรื่อง กำลังดำเนินการ ส่งต่อ และเสร็จสิ้น โดยสัดส่วนของเรื่องที่เสร็จสิ้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

จังหวัดนครราชสีมามีระบบให้หัวหน้าหน่วยเข้ามาอบรม ในฐานะหน่วยงานราชการจังหวัด สำหรับมอบหมายและกำกับดูแลพื้นที่โคราช 32 อำเภอ รองผู้ว่าราชการจังหวัด 4 ท่าน กำกับดูแลคนละ 8 อำเภอ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเร่งรัดติดตาม โดยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลปัญหาให้มากขึ้น

วิธีการที่นครราชสีมาได้ดำเนินการร่วมกับกรุงเทพมหานคร คือ จัดการปัญหาที่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนก่อน โดยบางครั้งผู้ร้องเรียนกับผู้ตอบให้ความร่วมมือกัน โดยผู้ร้องเรียนสามารถประเมินความพอใจเป็นจำนวนดาวได้ เป็นความสุขระหว่างผู้ร้องกับผู้ช่วย  นี่คือข้อดีของ Traffy Fondue ที่สะท้อนปัญหาแล้วสามารถแก้ปัญหาให้เห็นผลไปพร้อมกัน

พ.ต.อ.สุกิจ  อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.จร.

พ.ต.อ.สุกิจ  อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.จร. กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมมือกับทางกรุงเทพมหานครแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงในสถานที่อื่นๆในอนาคต ปัจจุบันสถานีตำรวจในกรุงเทพมหานคร ตัวแทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ประกอบด้วยสถานีตำรวจจำนวนทั้งสิ้น 88 สถานีที่มี Traffy Fondue นอกจากนี้ ยังมีหน่วยบังคับบัญชากองบังคับการ 9 กองบังคับการ หน่วยงานจราจร 10 หน่วยงาน ที่ใช้ Traffy Fondue เป็นแนวทางในการบริหารจัดการ

ทางสถานีจะมีการแจกแจงงานให้สอดคล้องกับบทบาทของแต่ละส่วนงาน เช่น การร้องเรียนเรื่องบัตรประชาชน หรือ เหตุก่อความเดือดร้อนรำคาญ จะแจ้งหน่วยป้องกันปราบปราม การร้องเรียนเรื่องอบายมุข การพนัน จะแจ้งฝ่ายสืบสวน เป็นต้น เพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว Traffy Fondue เป็นประโยชน์อย่างมาก ในการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ข้อมูลข่าวสารในการทำงานของตำรวจได้อย่างดีโดย 85 -90 เปอร์เซนต์ เป็นเรื่องการจราจร ซึ่งแก้ไขแล้วจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 80 เปอร์เซนต์ ระดับความพึงพอใจของประชาชนเกือบ 4  ถือว่าพอใช้ได้ในระดับหนึ่ง 

Traffy Fondue ตอบโจทย์ในด้านการติดตามเรื่อง รู้สถานะการดำเนินการ หรือเสร็จสิ้นการดำเนินการแล้วหรือไม่ เทศบาลแรกเริ่มใช้เดือนพฤษภาคม 2564 หลังจากมีการเลือกตั้งเทศบาลครั้งแรกในรอบ 7 ปี ปัจจุบันมีเทศบาล 15 แห่ง และระดับองค์การบริหารส่วนตำบล.อีก 11 แห่ง ที่เปิดใช้งาน ส่วนใหญ่ระดับเทศบาลจะเป็นเทศบาลตำบล ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพของหน่วยงานที่นำ Traffy Fondue ไปใช้งาน ทำให้เห็นปัญหาได้รวดเร็วขึ้น ลดระยะเวลาการร้องเรียน สำหรับขนาดของหน่วยงานที่มีข้อจำกัดทางด้านบุคลากร อุปกรณ์ และงบประมาณ จึงต้องบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด

Traffy Fondue 2023 กับรูปลักษณ์และฟีเจอร์ใหม่ น่าใช้งานมากขึ้น !

เปิดตัว Traffy Fondue 2023 และฟีเจอร์ใหม่ “Traffy Fondue Manager” แจ้งปัญหาง่ายขึ้น ติดตามเรื่อง ดูสถิติได้ พร้อมกับรูปลักษณ์ที่สวยขึ้น 

  • มีแถบเมนูด้านล่าง ประชาชนสามารถกดปุ่มสีเหลืองเพื่อแจ้งรายงานได้ทันที ส่วนไทม์ไลน์บอกสถานะปัญหา จะเพิ่มความสวยงาม และอ่านง่ายขึ้น 
  • กระบวนการแจ้งปัญหามีความชัดเจนมากขึ้น จากเดิมต้องปัดเลื่อนเพื่อหาหน่วยงานทีละหน้า ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นแถบแนวตั้ง สามารถเลื่อนหาได้สะดวกรวดเร็วในหน้าเดียว เช่นเดียวกับประเภทของปัญหาที่เพิ่มรูปภาพเข้าไป โดยแต่ละประเภทจะปรับแต่งตามแต่ละหน่วยงานได้
  • การยกเลิกการแจ้งปัญหา และการติดตามความก้าวหน้า

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว Fondue Manager เพื่อรับเรื่องและบริหารจัดการเรื่องโดยแจ้งผ่าน Chatbot ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดการปัญหาผ่านทาง Line Application ได้ทุกที่ทุกเวลา

  • จัดการสถานะปัญหา เพิ่มข้อความ รายละเอียดปัญหาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
  • แจ้งเตือนเมื่อมีเรื่องใหม่ เจ้าหน้าที่สามารถพูดคุยกับผู้ร้องเพื่อขอรายละเอียด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
  • ดูสถิติการแก้ปัญหาได้
  • ค้นหารายการแจ้งด้วยเลขเคส / พิกัดตำแหน่ง
    โดยเปิดให้บริการ เมื่อ 10 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา

Traffy Fondue รวดเร็ว โปร่งใส ประหยัดค่าใช้จ่าย

การส่งต่อข้อมูลหน่วยงานระหว่างหน่วยงานราชการยังคงใช้หนังสือราชการในการสื่อสาร ทำให้ความเร็วในการแก้ปัญหา หรือ ติดตามปัญหาล่าช้าโดยสะท้อนให้เห็นภาพในระดับมหภาค หากกระจายอำนาจให้หน่วยงานองค์กรท้องถิ่นได้แก้ปัญหาเบ็ดเสร็จจะทำงานได้เร็วขึ้น ซึ่ง Traffy Fondue สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี โดยมีข้อดีคือไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้งานง่าย จึงเป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานขนาดเล็กใช้งานได้ ทำให้เกิดรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-goverment) โดยมี Traffy Fondue เป็นจุดเริ่มต้น  

เมื่อมีข้อมูลมากขึ้น จะนำไปสู่การจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาที่ยั่งยืนต่อไป ซึ่งอาจต้องมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ฐานข้อมูลเป็นพื้นฐาน สำหรับการจัดการทรัพยากรเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว อีกทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชน และการประเมิน ITA หรือ การประเมินความโปร่งใสด้วยแชตบอท ดังนั้น Traffy Fondue จะเป็นแรงจูงใจให้หน่วยงานอื่นๆ เข้ามาใช้งานมากขึ้น และคะแนนความโปร่งใสจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ในด้านความโปร่งใสนั้น ผู้พัฒนาได้ปรับปรุงเว็บไซต์สำหรับให้ข้อมูลกับประชาชน และเปิดเผยข้อมูลคำร้องขึ้นเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเห็นภาพการทำงานได้ รวมไปถึงแผนที่แสดงมุมมองการบริหารเชิงพื้นที่ โดยแสดงให้เห็นพื้นที่ที่ร้องเรียนบ่อยซึ่งอาจมีปัญหาซ้ำซ้อน เช่น ปัญหาทางกายภาพของพื้นที่ หรือ ปัญหาอื่นๆ  Traffy Fondue อาจเป็นต้นแบบให้หลายๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก สามารถใช้ระบบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสดงสถิติให้เห็นถึงการแก้ปัญหา ช่วยให้การแก้ปัญหารวดเร็วขึ้น 

แนวทางขับเคลื่อน Traffy Fondue ควบคู่กับ Smart City อย่างยั่งยืน

คุณศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ ร่วมเสวนาผ่านระบบออนไลน์

รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ คุณศานนท์ หวังสร้างบุญ กล่าวถึงแนวทางในการขับเคลื่อน Traffy Fondue สำหรับเสริมการทำงานของกรุงเทพฯ ว่า …

การขับเคลื่อนบริหารราชการต้องตอบรับความต้องการของประชาชน สำหรับ Open Data, Open Contrac หรือ  Innovation ได้เข้ามาช่วยสร้างประสิทธิภาพให้กับกรุงเทพฯ โดยปัจจุบันมีการใช้แพลตฟอร์ม LINE เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้ตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์  Traffy Fondue เป็นต้นแบบแนวคิดในการเปลี่ยนวิธีการสร้างข้อมูลดิจิทัล รวมถึงการปรับฟีเจอร์ให้รองรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน 

เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่จะช่วยแก้ปัญหา แต่การมีส่วนร่วมในสังคมช่วยกันจัดการปัญหา ทำให้การบริหารการจัดการเมืองเร็วและดีขึ้น การนำเทคโนโลยีกับเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาผสมผสานกัน จะทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้น อีกทั้งการพัฒนาให้ Traffy Fondue เข้าถึงง่าย ใช้งานได้สะดวก ให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปแก้ไขได้โดยเร็ว ประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ 

ใจความสำคัญหลักของ Smart City คือ ประชาชนเป็นศูนย์กลาง คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนที่จะได้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบและวัดประสิทธิภาพได้ 

การนำเทคโนโลยีไปใช้สร้างเมืองน่าอยู่ หรือ Smart City ให้ประสบความสำเร็จ ด้วยการปรับปรุงวิธีการดูแลประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีให้เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ โดยจะแตกต่างไปตามแต่ละพื้นที่ ซึ่งต้องใช้เวลาในการค้นคว้าร่วมมือหาทางแก้ไขทิศทางของ Traffy Fondue กับการพัฒนาวิธีการสู่เป้าหมายในอนาคต

ฟีเจอร์ใหม่ Traffy Fondue Manager ได้เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ Traffy Fondue ยังได้รับรางวัลบริการภาครัฐระดับดีเด่น ประเภทนวัตกรรมบริการอีกด้วย

]]>
Traffy Fondue เข้าร่วมเวทีสัมมนา “Change Change Change เมืองเปลี่ยน ประเทศเปลี่ยน” โครงการเวทีท้องถิ่นไทย ครั้งที่ 8 https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/traffy-fondue-change8th.html Sat, 10 Sep 2022 08:57:25 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=29583

สถาบันพระปกเกล้า วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น ร่วมกับ สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย และมูลนิธิฟริดิช เนามัน แห่งประเทศไทย จัดโครงการเวทีท้องถิ่นไทย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2565 ภายใต้หัวข้อ “Change Change Change เมืองเปลี่ยน ประเทศเปลี่ยน” ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เมื่อ 9 กันยายน 2565 โดย ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยอาวุโสและหัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (ITS) เนคเทค สวทช. ได้เข้าร่วมสัมมนา “เมืองอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน” Traffy Fondue จบปัญหาเมืองในแพลตฟอร์มเดียว

เมืองอัจฉริยะ เป็นประเด็นที่มีความท้าทายกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง เพราะในยุคปัจจุบันมีความต้องการที่แตกต่างหลากหลาย อีกทั้งยังต้องสนองตอบด้วยความสะดวก รวดเร็วและทันใจ ดังนั้น ทิศทางการจัดบริการสาธารณะในปัจจุบันจึงมุ่งเน้นการออกแบบที่ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง ร่วมกับการประยุกต์เทคโนโลยีข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการจัดบริการสาธารณะ ภายใต้แนวคิดการพัฒนา เมืองน่าอยู่ เมืองทันสมัย ให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข อย่างยั่งยืน

การสัมมนาในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้แก่ ผู้บริหาร สมาชิกสภา และบุคลากรองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาเมืองและความท้าทายในศตวรรษที่ 21 ได้ตระหนักถึงวิธีการและแนวทางในการพัฒนาเมืองในมิติต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงเมืองในปัจจุบันสู่เมืองในอนาคต รวมถึงนวัตกรรมการบริหารจัดการเมืองสมัยใหม่ สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการบริหารจัดการเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

นอกจากกิจกรรมการปาฐกถาพิเศษ โดยผู้ว่า กทม. แล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมการสัมมนากลุ่มย่อยที่น่าสนใจโดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มที่ 1 “เมืองอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน” (Traffy Fondue)
  • กลุ่มที่ 2 “เมืองสร้างเงิน ด้วยพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์”
  • กลุ่มที่ 3 “เมืองการศึกษาเด่นเน้นการสร้างท้องถิ่นสู่เมืองแห่งการเรียนรู้” (Learning City)
  • กลุ่มที่ 4 “เมืองสิ่งแวดล้อมดีที่ท้องถิ่นทำได้ : น้ำสะอาด อากาศดี พื้นที่สีเขียว”
  • กลุ่มที่ 5 “เมืองเฮลตี้ด้วยกองทุน กปท. (ช่วยท้องถิ่นได้อย่างไรบ้าง)”
  • กลุ่มที่ 6 “เมืองเตรียมพร้อมไม่หวั่นแม้วันวิกฤต”
]]>
กฟผ. เยี่ยมชมเนคเทคและร่วมหารือนำ Traffy Fondue ขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ Digital Transformation Organization https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/traffy-fondue-egat.html Thu, 01 Sep 2022 13:41:21 +0000 https://nectec.or.th/?p=28864

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ต้อนรับคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าแม่เมาะ โรงไฟฟ้าน้ำพอง โรงไฟฟ้าวังน้อย จำนวน 15 ท่าน เยี่ยมชมเนคเทครับฟังการบรรยายเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ พร้อมหารือนำ Traffy Fondue มาใช้ในองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมทักษะ การปรับเปลี่ยนสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล เมื่อวันที่ 1 กันยายน 65 ณ อาคารวิจัย สวทช. (โยธี) โดยมี ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (ITS) ร่วมต้อนรับและนำเสนอ แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง Traffy Fondue แนะนำคู่มือการใช้งานเบื้องต้นสำหรับหน่วยงาน และตัวอย่างการขยายผลการใช้งานในหน่วยงาน เช่น กทม. อบต. เทศบาล อาคารสำนักงาน หรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ

กฟผ. ได้แชร์ข้อมูลการนำแพลตฟอร์มไปใช้ในหน่วยงาน เช่น แจ้งซ่อมอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัยของพนักงาน รวมถึงประชาชนที่อยู่ในรัศมีของโรงไฟฟ้า สามารถแจ้งปัญหาร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ เช่น เรื่องกลิ่น เรื่องเสียง ไฟดับ ผ่านแพลตฟอร์มโดยมีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่องพร้อมแก้ไขได้ทันที ไม่ต้องแจ้งผ่านเจ้าหน้าที่อำเภอ หรือผู้ใหญ่บ้านอีกต่อไป สามารถทำงานได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงหารือประเด็นที่สนใจเพิ่มเติมเพื่อหาโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือกันต่อไป

ดร.มลธิดา ภัทรนันทกุล นักวิจัยทีมวิจัยความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (SEC) เนคเทค สวทช.ได้ร่วมนำเสนอ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ผ่านระบบออนไลน์ (Webex) ยกตัวอย่างภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น การเจาะระบบคอมพิวเตอร์ การโจมตีโปรแกรมเรียกค่าไถ่ และแนะนำผลงานระบบลงเวลา Multi-Factor Authentication ระบบเลือกตั้งด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน และระบบ Vaccine Passport ในช่วงท้ายคณะได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้กับวิทยากร

]]>
ดาวน์โหลดฟรี ! คู่มือการใช้งาน Traffy Fondue แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/traffy-fondue-manual.html Fri, 05 Aug 2022 08:58:17 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=28374
Traffy Fondue ช่วยเพิ่มช่องทางใหม่ในการรับแจ้งและจัดการปัญหาประชาชนพบและแจ้งเข้ามาผ่าน LINE เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ และยกระดับการมีส่วนร่วมของพลเมือง (Citizen Engagement) เจ้าหน้าที่สามารถบริหารจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา และใช้งาน “ฟรี” ทุกหน่วยงานทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เทศบาล อบต. หน่วยงานภาครัฐ อาคารสำนักงาน นิติบุคคล เอกชน หรือหน่วยงานใด
 
สำหรับหน่วยงานที่สนใจใช้งาน สามารถดาวน์โหลดคู่มือการใช้งานได้แล้ว วันนี้ ! ที่เว็บไซต์ > https://www.traffy.in.th/
]]>
Traffy Fondue ได้รับตรวจประเมินขั้นตอนที่ 2 รางวัลเลิศรัฐ https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/2022traffy-opdc.html Thu, 07 Jul 2022 05:06:29 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=27871

แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมืองผ่านระบบพูดคุยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Traffy Fondue) ได้รับตรวจประเมิน ขั้นตอนที่ 2 รางวัลเลิศรัฐ  สาขาบริการภาครัฐ ในระดับดีเด่น ประเภทนวัตกรรมการบริการ โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. ต้อนรับคณะผู้ตรวจประเมินรางวัลเลิศรัฐ จากสำนักงาน ก.พ.ร. นำโดย นางอารีย์พันธ์ เจริญสุขร คณะอนุกรรมการกรรมการพัฒนาระบบราชการ ชี้แจงวัตถุประสงค์ในการตรวจประเมินครั้งนี้ รางวัลเลิศรัฐป็นผลงานที่ได้รับรางวัลที่ผ่านการกลั่นกรองต้องสามารถ Implement การแก้ปัญหาได้จริง พร้อมด้วยผู้ตรวจประเมินรางวัลฯ นายชัยณรงค์ โชไชย นายชัยยุทธ กมลศิริสกุล ผู้ตรวจประเมินรางวัลฯ และนายธนศักดิ์ มังกโรทัย ได้ตั้งคำถามในหลายประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ

  • ทำอย่างไรให้นวัตกรรมยั่งยืน
  • ผลสะท้อนจากหน่วยงาน : ความพึงพอใจ การแก้ปัญหา
  • สิ่งที่ประชาชนอยากรู้ : Tracking ความก้าวหน้า
  • ระบบรับเรื่องร้องเรียน ส่งต่อปัญหา อย่างไร
  • การส่งต่อ Traffy Fondue สู่ ท้องถิ่น อย่างไร
  • ปภ ใช้อย่างไร / ชี้วัดอย่างไร
  • การตีความ Dashboard : เสร็จสิ้น การตรวจสอบ SLA อย่างไร

โดย ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (ITS) ได้นำเสนอผลงานผ่านพรีเซนเทชัน และวีดิทัศน์

  • แนวคิด(Concept) “Platform Revolution” จาก Pipeline สู่ Platform: การเปลี่ยนแปลงแนวคิดและรูปแบบการบริหารจัดการด้วยเมือง Traffy Fondue
  • วิธีการใช้งานในภาค ประชาชน เจ้าหน้าที่ กทม. ผู้บริหาร
  • การขยายผลงานให้ยังผู้ใช้งานอื่นที่ๆที่รับผิดชอบในกรุงเทพมหานคร : หน่วยงานใหม่ที่เข้าใช้งาน Traffy Fondue (Active User)
  • นำเสนอตัวชี้วัดจากประชาชน
  • การขยายผลสู่หน่วยงานอื่นๆ ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น อาทิ สปน 1111 ปภ ทั่วประเทศ
  • ฟีเจอร์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเร็วๆ นี้ ที่ครอบคลุมมากขึ้น

ในโอกาสนี้นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม Traffy Fondue ได้ให้ข้อมูล Painpoint ของประชาชน ประโยชน์ การใช้งาน การตอบรับ รวมถึง KPI และการประสานงานไปยังหน่วยงานภายนอกที่รับผิดชอบ

]]>
พม. ร่วมกับ เนคเทค สวทช. มอบรางวัล Line Chatbot “เจอ แจ้ง แจ่ม แจ๋ว” เมืองใจดีเที่ยวทุกวัย พร้อมต่อยอดให้คนพิการใช้ชีวิตอิสระใช้ประโยชน์ได้จริง https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/jaideecity-traffy-2022.html Thu, 21 Apr 2022 11:29:17 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=25876

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ มูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล จัดทำฐานข้อมูลและภาพถ่ายสถานที่สาธารณะที่มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุในประเทศไทย Traffy Fondue ถูกนำมาต่อยอดเผยแพร่ในรูปแบบแพลตฟอร์ม Line Chatbot เมืองใจดีเที่ยวทุกวัย ภายใต้แนวคิด “เจอ แจ้ง แจ่ม แจ๋ว” พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้คนพิการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ (ทางลาด ที่จอดรถ ห้องน้ำ ป้ายและสัญลักษณ์ บริการข้อมูล อุปกรณ์ที่จำเป็น ผู้ให้บริการ) ได้อย่างเท่าเทียม โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา และมีกิจกรรมจัดประกวดแข่งขันชิงเงินรางวัลและโล่ประกาศเกียรติคุณ สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วม ซึ่งได้สิ้นสุดกิจกรรมฯ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 4,932 รายการ จากเป้าหมาย 1,500 รายการ ทั้งนี้ มีผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับรางวัลในระดับชมเชย ทั้งหมด 5 ท่าน

นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. ประกาศผลและมอบโล่รางวัลโครงการแพลตฟอร์มการขึ้นทะเบียนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ ในรูปแบบแพลตฟอร์ม Line Chatbot เมืองใจดี เที่ยวทุกวัย ภายใต้แนวคิด “เจอ แจ้ง แจ่ม แจ๋ว” โดยมี ผู้แทนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผู้แทนมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ผู้นำองค์กรคนพิการ คนพิการ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 65 ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กรุงเทพฯ 

ภายในงาน ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยอาวุโสและหัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (ITS) เนคเทค สวทช. ได้ร่วมอภิปรายในหัวข้อ มิติใหม่ในการร่วมสร้างและเข้าถึงข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ ร่วมกับวิทยากร 2 ท่าน ได้แก่ นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ นางศิริลักษณ์  มีมาก ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ ดร.วสันต์ กล่าวว่า แนวคิดขยายผลต่อยอดเพื่อประโยชน์กลุ่มเป้าหมายสูงสุด คือ ปรับปรุงอัปเดทและบำรุงรักษาข้อมูล โดยมีวัตถุประสงค์ 

1) ทำให้ข้อมูลมีชีวิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาด้วยความร่วมมือของทุกคน ทั้งผู้สูงอายุ คนพิการ ประชาชนทั่วไป

 2) คุณภาพของข้อมูลเมื่อมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นต้องมีการประเมินว่าสามารถใช้งานได้ดีแล้วหรือไม่ หรือควรปรับปรุงอย่างไร

โดยเนคเทค สวทช. มีแนวคิดจะช่วยผู้เชี่ยวชาญที่ต้องไปประเมินในแต่ละสถานที่ โดยใช้ AI นำภาพช่วยประเมินเบื้องต้นได้ว่าผ่านหรือไม่ หากถ้าไม่ผ่านต้องปรับปรุงอย่างไร ซึ่งขั้นต่อไปผู้เชี่ยวชาญจะเข้ามาให้คะแนนอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยทำให้ข้อมูลมีชีวิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ รวมถึงเพิ่มปริมาณและคุณภาพของข้อมูล 

เมื่อข้อมูลเริ่มมีคุณค่าแล้วขั้น ต่อไปจึงมุ่งผลักดันให้นำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ให้มากขึ้น เช่น ภาคธุรกิจที่มีหน้าเว็บไซต์หรือมีเครือข่ายอยู่แล้ว สามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อยอดธุรกิจได้ รวมถึงขอขอบคุณ สสส.ที่สนับสนุนทุนให้มีเครื่องมือนี้เกิดขึ้น และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการที่ช่วยให้เกิดการขยายผล

ทั้งนี้ จะมีการขยายผลและต่อยอดแพลตฟอร์มขึ้นทะเบียนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ โดยจะนำข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการมาประเมินจัดระดับ (Ranking Disabilities Friendly) สถานที่ที่มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ซึ่งแบ่งเป็น 7 ระดับ และกำหนดประเภทสถานที่ ที่จัดระดับการเข้าถึง อีก 11 ประเภท ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน หน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน สถานที่ท่องเที่ยว/สวนสาธารณะ ขนส่งสาธารณะ ศาสนสถาน สถาบันการศึกษา (ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย) โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ร้านอาหาร นอกจากนี้ กระทรวง พม.โดย พก. เตรียมกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนในระยะต่อไป 

1) ศึกษาวิจัยและพัฒนาข้อมูลและโมเดลการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ประเมินและคัดกรองความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุแบบอัตโนมัติในเบื้องต้น 

2) ศึกษาออกแบบและพัฒนาระบบให้บริการข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ และระบบแสดงผลข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเชิงพื้นที่ (Dashboard) ในรูปแบบข้อมูลที่เข้าใจง่าย ค้นหาและตรวจสอบข้อมูลได้อย่างโปร่งใส สำหรับให้ผู้บริหารนำไปใช้วางแผนและตัดสินใจได้ทุกที่ทุกเวลา 

และ 3) ศึกษาออกแบบและพัฒนาระบบฐานข้อมูลแบบเปิด (Open Data) และระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักเรียน นักศึกษาและพัฒนาเพื่อให้เกิด Application ใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัยและตรงต่อความต้องการยิ่งขึ้น โครงการฯ ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ประเทศไทยเราจะมีข้อมูลสถานที่ที่มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ เป็นข้อมูลประกอบการที่จะนำไปพัฒนาต่อยอดเพื่อให้คนพิการและทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จริง

“ร่วมสร้างฐานข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ” ไปด้วยกันได้ที่  https://www.traffy.in.th/?page_id=25496

jideecity-traffy-3
jideecity-traffy-2
]]>
“Traffy Fondue” รับรางวัลผลงานวิจัย Impact สูง ปี 2565 ในมหกรรม TRIUP Fair 2022 https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/traffy-fondue-triup.html Tue, 05 Apr 2022 03:59:25 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=25578

โดย | คุณอารีรัตน์ อภัยกุลชร และ คุณกรรวี แก้วมูล
งานพัฒนาองค์กรและสื่อสารภายใน (ODIC) เนคเทค สวทช.

เมื่อวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2565 ดร. กมล เขมะรังษี ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยการสื่อสารและเครือข่าย (CNWRG) ตัวแทนคณะผู้บริหาร ศอ. และ ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (ITS) เข้ารับรางวัล ผลงาน “แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมืองผ่านระบบพูดคุยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์” ระดับดี ในสาขา Appropriate Technology จากเวทีผลการประกวดรางวัลผลงานวิจัยแห่งชาติที่มีผลกระทบสูง ประจำปี 2565 (Prime Minister’s TRIUP Award for Research Utilization with High Impact 2022) มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย TRIUP Fair 2022 ภายใต้แนวคิด: ปลดล็อคความเป็นเจ้าของงานวิจัย สร้างศักยภาพไทยไร้ขีดจำกัด จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2565 ณ Mitrtown Hall 1-2 ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์

โดยมี ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) ให้เกียรติมอบรางวัล พร้อมด้วย พลอากาศเอก ดร. ประจิน จั่นตอง ประธานคณะกรรมาธิการ การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 16 หน่วยงาน ร่วมพิธีเปิดงานและถ่ายภาพบนเวที

แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมืองผ่านระบบพูดคุยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ได้รับรางวัล “ระดับดี” ในสาขา Appropriate Technology ได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากประธาน กสว. และเงินรางวัลจากกองทุนส่งเสริม ววน. จำนวน 100,000 บาท โดยมีรายนามคณะผู้วิจัย ดังนี้

  1. ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม (หัวหน้าโครงการ)
  2. นายณพงศ์ วาณิชยพงศ์
  3. นายอรรถพล ก้อมมังกร
  4. นายนพปฎล ชะฎิล
  5. นายสุเมธ ปานกวีรัตน์
  6. นายกมนัช พรหมบำรุง
  7. นายก้องเกียรติ คันทะศรี
  8. นายธนโชติ ทับทิม
  9. นายปิติภูมิ โพสาวัง
  10. นายภาณวิชญ์ หาญพินิจศักดิ์

***สามารถติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และรายละเอียดเพิ่มเติมของ Traffy Fondue ได้ที่ https://www.traffy.in.th

รางวัลผลงานวิจัยแห่งชาติที่มีผลกระทบสูง 2565 “รางวัล Prime Minister’s TRIUP Award for Research Utilization with High Impact 2022” เป็นกิจกรรมการประกวดผลงานวิจัยและนวัตกรรม ที่สร้างผลกระทบสูง โดยมีเป้าหมายเพื่อยกย่อง และสร้างความตระหนักในคุณค่าของผลงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งเป็นต้นแบบของผลงานที่สร้างผลกระทบสูง ต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และเพื่อกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย รวมถึงนักวิจัยให้มีการส่งเสริมและผลักดันผลงานวิจัยและนวัตกรรมทั้งที่เป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง (Deep Technology) และเทคโนโลยีที่เหมาะสม (Appropriate Technology) ไปใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาสำคัญ หรือ การพัฒนาประเทศเพิ่มขึ้น โดยการจัดทำรางวัลครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจและสื่อให้เห็นความสำคัญและลักษณะที่แตกต่างกันระหว่างเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง (Deep Technology) และเทคโนโลยีที่เหมาะสม (Appropriate Technology) รวมทั้งเป็นโอกาสในการนำเสนอผลงานที่มีคุณค่าให้สาธารณชนได้รับทราบ และเป็นการเปิดรับโอกาสการต่อยอดหรือการขยายผลกระทบให้มีระดับที่สูงขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564

รางวัลผลงานวิจัยแห่งชาติที่มีผลกระทบสูงประจำปี 2565 คัดสรรมาจากจำนวนผลงานที่ส่งเข้าประกวด 119 โครงการ ด้วยวิธีการลงคะแนนร่วมกับการอภิปรายความคิดเห็นของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ จำนวน 19 ท่าน เพื่อยกย่องและสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีจากงานวิจัยที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทย จนสามารถสร้างผลกระทบสูงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 รางวัล จาก 2 สาขา โดยผู้ได้รับรางวัลจะได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินสดมูลค่า 5 แสนบาท และยังมีรางวัลดีเด่น สาขาละ 2 รางวัล รวมเงินรางวัลทั้งสิ้นมูลค่า 1,400,000 บาท


การพิจารณารางวัลแบ่งออกเป็น 2 สาขา ได้แก่

1. สาขาเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Technology) เป็นผลงานงานวิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม หรือทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดจากการพัฒนาองค์ความรู้ขั้นสูงด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ลอกเลียนแบบได้ยาก และมีหลักฐานการใช้งานจากผู้ใช้ประโยชน์ สามารถระบุกลุ่มผู้ใช้ประโยชน์ ขนาดของการสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน
2. สาขาเทคโนโลยีที่เหมาะสม (Appropriate Technology) เป็นงานวิจัย เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมที่มีความง่ายในการใช้งานในระดับที่สามารถบริหารจัดการเทคโนโลยีได้ด้วยตนเองในระดับท้องถิ่น มีความสอดคล้องกับประสบการณ์และความรู้ความสามารถของผู้ใช้ในระดับท้องถิ่นมีหลักฐานการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พัฒนาสภาพความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน หรือยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชน และสร้างผลกระทบอย่างชัดเจนในวงกว้าง

 

]]>