ห้วงอวกาศ

ขั้นตอนการทำ
1. เริ่มต้นจากสร้างไฟล์ใหม่โดยเลือกเมนู FileNew กำหนด Mode เป็นแบบ RGB ที่ขนาด 15*15 cm และความละเอียดเป็น 200 ppi
2. สำหรับการจำลองดวงดาวจะเริ่มต้นจากใช้ทูล Gradient แบบแนวรัศมีที่ลวดลายแบบโครเมียมแล้วค่อยกำหนดแสดงแบบ Invert หรือกลับจากสีเดิม ในห้วข้อจะเริ่มจากใช้ทูล Gradient โดยคลิกเลือกทูลนี้จากทูลบ็อกซ์ เลือกสไสตน์จากออปชันบาร์เป็น Radial style และเลือกรูปแบบเป็นโครเมียม (Chrome) ในตอนนี้หากยังไม่ได้กำหนดให้แสดงไม้บรรทัด ให้เลือกเมนู ViewShow Rulers และคลิกจุดแรกใกล้ ๆ มุมบนซ้ายของภาพนี้ และแดร็กไปยังประมาณกึ่งกลางของภาพนี้
3. เลือกเมนู ImageAdijustInvert เพื่อกลับสีผลลัพธ์ข้างต้นนี้ จะปรากฏเป็นฉากหลังสีดำ และเป็นดาวที่มีรัศมีเป็นสีน้ำเงินสดใส





4. ปรับโทนสีน้ำเงินของดาวด้วยการเลือกเมนู ImageAdjustHue/Saturation กำหนดค่าดังแสดงในไดอะล็อกบ็อกซ์ Hue/Saturation ในรูปถัดไป โดยเลือกปรับที่ EditBlues
5. ใส่หมอกควันของก๊าซที่พวยพุ่งอยู่ในบรรยากาศเข้าไป ด้วยการใช้ฟิลเตอร์ Render เริ่มต้นจากกำหนดสีฉากหน้า จากในแพลเล็ต Color ที่ R=95, G=85, B=75
6. เลือกเมนู FilterRenderClouds เพื่อใส่หมอกควันตามสีฉากหน้าที่ได้กำหนดไว้
7. ในตอนนี้หมอกควันจะลงทึบบังรูปดาวไปจนหมด ให้ปรับลดความทึบโดยเลือกเมนู EditFade Clouds ให้เหลือค่าโดยประมาณการเอา ในที่นี้เลือกเป็น 30%
8. สร้างกลุ่มหมอกควันใหม่ที่หมุนเป็นเกลียว โดยใช้ฟิตเตอร์ Twirl เริ่มต้นจากสร้างเลเยอร์ใหม่โดยคลิกปุ่ม Create a new layer ในแพลเล็ต Layers
9. กำหนดสีฉากหน้าจากในแพลเล็ต Color ที่ R=145, G=160, B=195 จะได้เป็นสีน้ำเงินหม่น ๆ ไปทางสีเทา
10. เลือกเมนู FilterRenderClouds เพื่อใส่หมอกควันตามสีฉากหน้าที่ได้กำหนด
11. เช่นเดียวกับในข้อที่ 6 ผลลัพธ์จะทึบบังภาพบนเลเยอร์ Background ไปจนหมด แต่ในที่นี้จะปรับด้วยการกำหนด Blend mode จากในแพลเล็ต Layers ไปที่ Soft Light
12. ใช้ฟิลเตอร์ Twirl โดยเลือกเมนู FilterDistortTwirl จำนวนรอยบิดเกลียวจะแปรตามค่ามุมใน Angle ในที่นี้ใช้ค่า 720
13. สร้างกรอบการเลือกรูปวงรีที่จุดศูนย์กลางของเกลียวหมอกควันนี้ โดยคลิกทูล Elliptical Marquee บนออปชันบาร์กำหนดค่า Feather=30px เพื่อให้กรอบที่เลือกมีความฟุ้งเบลอ และกดคีย์ Alt ไว้ (เพื่อจะเลือกจากจุดศูนย์กลาง) คลิกจุดแรกที่จุดศูนย์กลางของเกลียวนี้ และแดร็ก ออกไปขนาดโดยประมาณ
14. เพื่อที่จะลบส่วนนอกกรอบที่เลือกไว้นี้ จึงเลือกเมนู SelectInvert เพื่อสลับส่วนที่เลือกไว้ไปยังพื้นที่ที่อยู่นอกกรอบที่เลือกไว้แต่แรก แล้วกดคีย์ Backspace เพื่อลบออก
15. ยกเลิกการเลือกกรอบโดยกดคีย์ Ctrl+D หรือเลือกเมนู SelectDeselect
16. บิดมุมของเกลียวหมอกควันนี้ โดยใช้ฟิตเตอร์ Shear เริ่มต้นจากเลือกเมนู FilterDistortShear กำหนด Undefined Areas ไว้ที่ Repeat Edge Pixels และแดร็กเส้นจากแนวตั้งให้เฉียง
17. สร้างให้เกลียวหมอกควันดูมีมิติความลึกเข้าไป โดยทำให้ส่วนบนดูจางลง โดยสร้างเลเยอร์มาสก์ (Layer Mask) และลง Gradient แบบ Black, White ทแยงจากมุมบนซ้ายลงมาทางมุมล่างขวา เริ่มต้นจากคลิกปุ่ม Add a mask ในแพลเล็ต Layers แล้วคลิกทูล Gradient ที่ Linear Gradient แบบ Black, White แล้วคลิกจุดแรกที่มุมบนซ้ายของเกลียวหมอกควันนี้ และแดร็กทแยงมุมลงไปทางมุมล่างขวา
18. รวมเลเยอร์ทั้งหมด โดยเลือกเมนู LayerFlatten Image
19. เติมแสงวาบกับที่ขอบเยื้องไปทางด้านบนของดาว ทำได้โดยเลือกเมนู FilterRenderLens Flare กำหนด Brightness=120% และ Lens Type=35mm Prime และคลิกกำหนดตำแหน่งในช่องภาพตัวอย่าง แล้วคลิก OK
20. ผลลัพธ์ที่ได้ในตอนนี้ ยังมีแสงวาบบดบังเกลียวหมอกควันด้วย สำหรับการแก้ไขเพื่อเอาเฉพาะส่วนนี้ออก โดยยังคลผลการใช้ Lens Flare ทำได้จากการใช้ความสามารถของ History Brush เริ่มต้นจากบนแพลเล็ต History ให้คลิกเลือกที่รายการ Flatten Image เพื่อเป็นจุดบอกว่าจะย้อนกลับมาที่จุดนี้ แล้วคลิกเลือก History Brush และแดร็กไปบนส่วนที่ต้องการจะลบออกนี้
21. หลังจากนั้นเราจะสร้างภาพเบลอให้เหมือนมีรถวิ่งออกมาจากหมอกควัน เริ่มต้นจากเปิดไฟล์ car.jpg โดยเลือกเมนู FileOpen
22. หลังจากนั้น คลิกทูล Polygonal Lasso เพื่อสร้างกรอบการเลือกในส่วนที่เราต้องการคือตัวรถ
23. เลือกเมนู SelectInverse หรือกดคีย์ Shift+Ctrl+l เพื่อกลับส่วนของภาพที่เลือกไว้ หลังจากนั้นเลือกเมนู EditCopy หรือ Ctrl+C เพื่อคัดลอกส่วนของภาพที่เลือกไว้ในคลิปบอร์ด
24. กลับไปยังไฟล์ SciFi.jpg เลือกเมนู EditPaste เพื่อวางภาพที่เลือกไว้ หลังจากนั้นเลือกเมนู SelectFeatherg เพื่อให้ขอบการเลือกมีความฟุ้งเบลอออกไปอีก กำหนด Feather Radius=3 pixels
25. เลือกเมนู LayerNewLayer via cut เพื่อนำภาพในกรอบการเลือกนี้ย้ายไปยังเลเยอร์ใหม่ (Layer1)
26. คัดลอกเลเยอร์ Layer1 ขึ้น โดยแดร็กไปที่ปุ่ม Create a new layer ในแพลเล็ต Layers และ แดร็กย้ายลำดับชั้นของเลเยอร์ใหม่ (Layer 1 copy) ให้อยู่ใต้เลเยอร์ Layer 1
27. เลือกเมนู EditFree Transform แล้วแดร็กเลื่อนตำแหน่งภาพให้สูงขึ้นและแดร็กที่ขอบใดขอบหนึ่ง เพื่อหมุนปรับทิศทางสักเล็กน้อยและลดขนาดมุมภาพเล็กน้อย คลิกเครื่องหมายถูกบนออปชันบาร์
28. ทำซ้ำข้อ 26 และ 27 เพื่อสร้างเลเยอร์ของภาพขึ้นอีก 4 เลเยอร์
29. คลิกแอกทีฟเลเยอร์ Layer 1 copy และปรับ Opacity=80% ทำซ้ำกับเลเยอร์ Layer 1 copy 2, Layer 1 copy 3, Layer 1 copy 4 และ Layer 1 copy 5 Opacity เป็น 60%,40%,30% และ20%ตามลำดับ
30. คลิกแอกทีฟเลเยอร์ Layer 1 copy เลือกเมนู FilterBlur Motion Blur กำหนดใช้ Angle=50 , Distance=25
31. ทำซ้ำข้อ 30 กับเลเยอร์ Layer 1 copy 2, Layer 1 copy 3, Layer 1 copy 4 และ Layer 1 copy 5 โดยคลิกเลือกเลเยอร์ที่ต้องการนี้
32. ขั้นตอนต่อไปนคลิกเลือกเลเยอร์ Layer 1 เราจะใช้ฟิลเตอร์ Wind สร้างเอฟเฟ็กต์ใฟ้ด้านบนของรถมีแนวของเปลวน้ำแข็งเริ่มต้นจากหมุนภาพในทิศตามเข็มนาฬิกาไป 90 องศา โดยเลือกเมนู ImageRotate Canvase90CW
33. เลือกเมนู FilterStylizeWind เลือก Method=Wind และ Direction=From the Left (ลมพัดจากทางซ้าย) กดคีย์ Ctrl+F เพื่อใช้ฟิลเตอร์นี้ซ้ำอีกครั้ง ให้เปลวน้ำแข็งยาวขึ้นอีก
34. หมุนภาพกลับทิศทางเดิม โดยเลือกเมนู ImageRotate Canvas90CCW
35. ใช้ฟิลเตอร์ Diffuse เพื่อให้แนวเส้นจากฟิลเตอร์ Wind ดูคล้ายเปลวน้ำแข็งยิ่งขึ้น โดยเลือกเมนู FilterStylizeDiffuse กำหนด Mode=Normal
36. ปรับภาพให้เบลอโดยเลือกเมนู FilterBlurGaussian Blur กำหนด Radius=2 pixels เมื่อเสร็จแล้วทำการ Save ชื่อ SciFi.jpg จะได้รูปดังตัวอย่างข้างบน



โดย : นางสาว วาสนา หมื่นศักดา, วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี, วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2545