| 
         2.ผลในระยะยาว 
           มีอาการเกิดขึ้นหลังได้รับแสงแดดสะสมเป็นเวลานาน ได้แก่ ผิวหนังมีสีคล้ำขึ้น เกิดริ้วรอย เหี่ยวย่น เกิดกระ และกระเนื้อ เป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งในการก่อมะเร็งผิวหนัง 
               รังสีอุลตร้าไวโอเลต เอ (UV A) 
               รังสีอุลตร้าไวโอเลต บี  (UV B) 
               รังสีอุลตร้าไวโอเลต ซี (UV C) 
               รังสีอุลตร้าไวโอเลต เอ เป็นรังสีอุลตร้าไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ที่พบได้มากบนพื้นผิวโลก สามารถผ่านเข้าสู่ชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ของมนุษย์ได้ รังสีอุลตร้าไวโอเลต เอ มีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในชั้นหนังแท้ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนัง 
               รังสีอุลตร้าไวโอเลต บี เป็นรังสีจากแสงอาทิตย์ที่พบบนพื้นผิวโลกน้อยกว่ารังสีอุลตร้าไวโอเลต เอ รังสีอุลตร้าไวโอเลต บี นี้สามารถผ่านเข้าสู่ชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ของมนุษย์ได้ตื้น ถูกดูดซับได้น้อย แต่ก้มีผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ 
               รังสีอุลตร้าไวโอเลต ซี เป็นรังสีที่สามารถผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้ลึกมากกว่ารังสีอุลตร้าไวโอเลต เอ ซึ่งจะก่ออันตรายต่อผิวหนังมาก  
                         วิธีหลีกเลี่ยงแสงแดดทำได้ดังนี้ 
              1.หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในระหว่างเวลา 10.00 - 15.00 น. 
              2.เลือกสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม เช่น เสื้อแขนยาว เสื้อที่ไม่บางจนเกินไป 
              3.ควรใช้อุปกรณ์ช่วยกำบังแสงแดด เช่น กางร่ม  สวมหมวกปีกกว้าง 
              4.เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป 
                                      ---------------------------------------------------- 
   |