นกแร้ง

เรื่องนกแร้ง

คนเฒ่าคนแก่เคยเล่านิทานเรื่องนกแร้งให้ฉันฟังครั้งยังเป็นเด็กอยู่ แกเล่าว่านกแร้งกับงูเหลือมนั้นเคยเป็นเพื่อนเกลอกันมา งูเหลือมนั้นแรกเริ่มเดิมที่เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมาก เขาว่างูเหลือมแลเห็นสัตว์อะไรเดินผ่านมาใกล้ๆ งูเหลือมจะใช้ปากชกกัดลงไปที่เงาของสัตว์นั้น สัตว์นั้นก็จะต้องตายทันที การที่ต้องทำเช่นนั้นเป็นเพราะว่า พิษที่งูเหลือมมีอยู่นั้นมนมาก จะต้องระบายพิษออกเสียบ้างไม่เช่นนั้นงูเหลือมจะต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะพิษที่มีอยู่มันจะทำให้งูเหลือมร้อนไปทั่วทั้งตัว จะเลื้อยผ่านไปทางไหนต้นไม้ใบหญ้าจะเหี่ยวแห้งเป็นทางไป ถ้าขืนปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอันตรายกบตัวเอง เพราะจะเป็นที่สังเกตของสัตว์อื่นๆ เช่น สัตว์มนุษย์ เป็นต้น
อยู่มาวันหนึ่ง มีสัตว์มนุษย์ตนหนึ่งออกไปเที่ยวหาอาหาร เมื่อได้อาหารพอกับความต้องการแล้วเดินกับที่พัก ขณะที่เดินเรื่อยมาและเดินผ่านมาที่งูเหลือมแอบซ่อนตัวอยู่นั้น เพราะตนไม่ได้สังเกตดูว่าที่ตนเดินมานั้นเป็นทางที่งูเหลือมเลื้อยผ่านมาก่อน เขาเล่าว่าเมื่องูเหลือมจะเลื้อยผ่านไปไหนจะเป็นว่ามีสัตว์ร้ายซึ่งจะอยู่ข้างหน้าหรือตามมาข้างหลัง ขณะที่กำลังเลื้อยอยู่นั้น เขาเรียกว่า “เดื่อย” หรือ “ขอ” มีอยู่ข้างสะดือของงูเหลือมจะออกมาเกาะกับพื้น เพื่อไม่ให้งูเหลือมเลื้อยต่อไป นี่ก็เช่นกันงูเหลือมในเมื่อเดือยออกมาเกาะจำเป็นตัวเองก็ต้องหยุดแน่นิ่งอยู่กับที่ คอยทีอยู่ครั้นแลเห็นสัตว์มมมนุษย์เดินผ่านมาเช่นนั้นและบังเอิญเงาของสัตว์มมมนุษย์ผ่านาทางตนตนจึงเอาปากฉกลงไปที่เงาสัตว์มนุษย์ สัตว์มนุษย์ก็ล้มลงขาดใจตายทันที่
งูเหลือมเมื่อเห็นสัตว์มนุษย์ล้มลงตายเช่นนั้น ครั้นจะกินก็ไม่ได้เพราะตนเองมีอาหารอยู่เต็มท้องเสียแล้ว งูเหลือมนี้มีลำตัวใหญ่เท่ากับต้นไม้ เมื่อมันทอดตัวนิ่งอยู่ใครไม่สังเกตจะเข้าใจว่าต้นไม้ทาบกับดิน เมื่อมีสัตว์อะไรหลงเข้ามาใกล้มันจะใช้หางตวัดรัดตัวแล้วกินเป็นอาหาร ที่มันไม่กินสัตว์มนุษย์ เพราะมันกินสัตว์อื่นอิ่มเสียแล้ว มันจึงไม่กิน เขาเล่าว่ามันมีมนต์อาถรรพ์ มากกว่า ขณะที่มันนอนและเดื่อยที่หางของมันยังเกาะติดอยู่กับดินนั้น เขาเล่าว่า หากมีกวางหลงเขามาเห็นเข้า เขาว่ากวางตัวนั้นจะมีอาการตกใจมาก และผลหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่งเสียงลั่นป่าและวิ่งไปจนรู้สึกเหนื่อยมากแล้วหยุด ในเมื่อหยุดแล้วแทนที่จะอยู่นิ่งหรือเดินไปทางอื่นกลับเดินมาทางเก่า เมื่อถึงที่ที่งูเหลือมนอนอยู่แล้วชะโงกหน้าเข้าไปมองดูงูเหลือมที่นอนคอยอยู่นั้นแล้วก็ออกวิ่งร้องออกไปอีก พอเหนื่อยก็กลับมาอีก กวางจะวิ่งอยู่อย่างนี้จนหมดแรง การวิ่งแต่ละครั้งการกลับมาแต่ละครั้งกวางจะเข้าไปมองดูงูเหลือมใกล้เข้าไปทุกครั้งเข้าไปจนถึงตัวงูเหลือม งูเหลือมซึ่งนอนคอยอยู่นั้น พอได้จังหวะก็ใช้หัวตวัดลัดกวางตัวนั้นกินเป็นอาหาร ความตัวมันใหญ่โต มันจึงกินกวางได้ทั้งตัว เขาว่างูเหลือมมันมีแววตาอาถรรพ์มาก เมื่อมองไปซบตากับใครเข้าสัตว์ที่ซบตากับมันจะหลงและมึนงงไปหมดจะเข้าไปให้มันกินโดยที่มันไม่ต้องออกแรงไล่ขับเลย อาหารหลักของงูเหลือมมี ลิงกับกวาง นี่แหละ ลิงก็วิ่งหนีอย่างกวางวิ่งไปวิ่งมาและก็วิ่งกลับมาให้งูเหลือมกินอย่างสบาย ในท้องของงูเหลือมมีลิงนอนสงบอยู่สองตัวมันจึงไม่กินสัตว์มนุษย์ที่โดนพิษของมันนอนอยู่ตรงนั้น แต่มันก็หวนคิดถึงนกแร้งเพื่อนของมันว่า ป่านนี้จะได้อาหารหรือยัง เมื่อคิดถึงนกแร้งแล้วมันเลื้อยออกจากที่ที่นั้นในใจคิดว่าจะไปบอกให้นกแร้งมากินสัตว์มนุษย์ การที่งูเหลือมมาผูกเป็นมิตรกับนกแร้งนั้น เพราะนกแร้งเป็นสัตว์ที่ไม่คิดฆ่าสัตว์อื่นมาเป็นอาหารจะกินเฉพาะสัตว์ที่ตายแล้วเท่านั้น
บางครั้งนกกาบินขึ้นไปเกาะบนหลังนกแร้งแทนที่นกแร้งจะใช้จะงอยปากจิกกลับวิ่งไปเพื่อจะให้นกกาตอลงจากหลังของตน เมื่องูเหลือมเลื้อยมาได้สักพักตาก็มองเห็นนกแร้งบินล่อนอยู่ยนท้องฟ้าจึงใช้หางของตนยกชูขึ้นทำสัญญาให้นกแร้งเห็น เมื่อนกแร้งแลเห็นงูเหลือมทำสัญญาเรียกดังนั้นนกแร้งก็บินล่อนลงมาหางูเหลือม เมื่อนกแร้งบินลงมาแล้วก็เดินเข้าไปหางูเหลือม ทักทายตามประสาเพื่อนฝูง แล้วงูเหลือมก็บอกกับนกแร้งว่า “นี่แน่ สหายของเรา วันนี้มีสัตว์มนุษย์ตนหนึ่งได้ถูกพิษของเราถึงกับความตาย และได้นอนตายอยู่ท้ายป่าแห่งโน้นแน่ เราขอให้สหายจงไปกินได้ตามสบายเถิด” นกแร้งเมื่อได้ยินเพื่อนบอกให้อาหารดังนั้นก็ดีใจ จึงบินไปยังที่ที่สัตว์มนุษย์นอนตายอยู่นั้น ครั้งไปถึงที่ที่สัตว์มนุษย์นอนตายอยู่นั้น จึงเดินวนเวียนพิจารณาดูตามนิสัยของนกแร้ง คือ ก่อนจะกินอะไรต้องพิจารณาก่อนทุกครั้ง ไม่ใช้ความหิวหรือ ตะกะตะกรามกิน จะกินอย่างผู้มีสมาธิ มีขันติ อดทน มีสันโดด ไม่โลภมากเห็นแก่ตัว เมื่อพิจารณาดูถ้วนถี่แล้วจึงเห็นว่าท้องสัตว์มนุษย์มีการเคลื่อนไหวคล้ายยังมีลมหายใจอยู่ จึงไม่จิกกิน และนึกในใจว่า ถูกงูเหลือมหรอกเสียแล้ว ที่ท้องสัตว์มนุษย์มีความเคลื่อนไหวนั้น คือ ปูที่สัตว์มนุษย์จับมาและเหน็บไว้ที่ท้อง ปูยังไม่ตาย จึงดิ้นกะดุกกะดิก จึงทำให้นกแร้งเข้าใจผิดคิดว่าสัตว์มนุษย์ยังไม่ตาย นกแร้งจึงบินเที่ยวหางูเหลือมจนพบ เมื่อพบแล้วก็ร้องต่อว่างูเหลือมโกหก หรอกให้ไปกินเนื้อสัตว์มนุษย์ที่ยังไม่ตาย งูเหลือมได้ยินนกแร้งร้องว่าอย่านั้นก็ตกใจเป็นอย่างมากและเสียใจเรื่องพิศของตนเสื่อมลง และน้อยใจเป็นอย่างมากจึงออกเที่ยวประกาศว่า สัตว์อะไรอยากได้พิษของตนบ้าง ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงมารับพิษจากงูเหลือม สัตว์ทุกชนิดที่มีพิษต่างได้รับพิษจากงูเหลือมได้ไปมากบ้างน้อยบ้างตามแต่จะได้ไป เขาว่างูสามเหลี่ยม นั้นได้ไปมากหน่อย ถ้าสัตว์อะไรถูกงูสามเหลี่ยมกัดละก็ จะไปไม่ได้ไกลจากที่โดนกัด เขาเรียกว่า นอนตายทับทางเลยทีเดียวเชียวละ สัตว์ที่ได้น้อยกว่าสัตว์อื่นก็พวกมด คือตัวเจ้าเล็กกว่าสัตว์อื่นวิ่งเลาะวนเวียนจนเอวกิ่วเอวคอด ผลทีสุดก็ใช้ตูดจุ่มมาได้หน่อย เพราะพิษใกล้จะหมด
ส่วนต้นไม้ที่อยู่บริเวณนั้นก็พลอยได้รับไปกับเขาด้วย เพราะพิษซึมลงใต้ดินรากไม้ดูดเอา พอถึงฤดูฝน ฝนตกลงมาชะหน้าดินไหลลงสู่แม่น้ำ น้ำก็ไหลพาเอาพิษลงสู่แม่น้ำ สัตว์บางชนิดก็เลยพลอยได้รับพิษไปด้วยเหมือนกัน
ติดตามต่อตอนที่ 2

โดย นายสะอาด มีกุล



โดย : นางสาว Laddawan Meegul, คลองหลวง ปทุมธานี 13180, วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2545