หยุดและคิด



เราคิดว่าคนรุ่นใหม่ไม่เคยสังเกตอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว
พวกเขาสังเกตอะไรมากกว่าพวกเราผู้ใหญ่มากนัก
และพวกเขาสังเกตและเข้าใจมากกว่าที่พวกเราจะยอมรับ
เด็กนักเรียนโคลัมเบียนเขียนข้อความที่น่าสนใจนี้....
คำพูดที่ขัดแย้งกันแต่เป็นความเป็นจริงในช่วงเวลาของเราในประวัติศาสตร์คือ
เราสร้างตึกที่สูงขึ้น แต่วัดที่เตี้ยลง
เรามีทางด่วนที่กว้างมากขึ้น แต่มีทัศนคติที่แคบลง
เราใช้จ่ายมากขึ้น แต่เรามีน้อยลง
เราซื้อมากขึ้น แต่เรามีความสุขกับของนั้นน้อยลง
เรามีบ้านที่ใหญ่มากขึ้น แต่มีครอบครัวที่เล็กลง
เราสะดวกสะบายมากขึ้น แต่มีเวลาน้อยลง
เรามีการศึกษามากขึ้น แต่มีสามัญสำนึกน้อยลง

เรามีความรู้มากขึ้น แต่มีการตัดสินน้อยลง
เรามีผู้ชำนาญการมากขึ้น แต่ก็มีปัญหามากขึ้น
เรามียามากขึ้น แต่ความ"อยู่ดี"น้อยลง
เราเพิ่มพูนสิ่งที่เราเป็นเจ้าของ แต่ลดค่าของมันลงไป
เราพูดมาก แทบจะไม่ให้ความรัก และก็เกลียดกันบ่อยเกินไป
เราเรียนรู้ว่าจะหาเลี้ยงชีวิตอย่างไร
แต่เราไม่ได้เรียนรู้ว่าชีวิตคืออะไร
เราทำให้การมีชีวิตยาวนานขึ้น แต่เราไม่ได้ใช้ชีวิตที่แท้จริง
เราเดินทางไปกลับถึงพระจันทร์
แต่เรามีปัญหาแค่จะเดินข้ามถนนไปทำความรู้จักกับเพื่อนบ้าน
เราชนะปัจจัยภายนอก แต่ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ภายใน
เราทำให้อากาศสะอาดขึ้น แต่เราทำให้วิญญาณของเราสกปรก
เราสลายอะตอม แต่ไม่ใช่ความลำเอียง
เรามีเงินเดือนมากขึ้น แต่ศีลธรรมน้อยลง
เรามีปริมาณมากขึ้น แต่คุณภาพน้อยลง
ยังมีช่วงเวลาของชายที่สูงใหญ่ แต่ไม่มีลักษณะเฉพาะตัว
มีกำไรมากมาย แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับผู้คน
ยังมีช่วงเวลาที่โลกสงบสุข แต่ยังมีสงครามภายใน
มีกิจกรรมมากขึ้น แต่สนุกน้อยลง
มีอาหารหลากชนิดมากขึ้น แต่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร
ยังมีช่วงเวลาที่คนแต่งงานกันมากขึ้น แต่ก็มีการหย่าร้างกันมากขึ้น
มีบ้านที่สวยงาม แต่ก็มีบ้านแตกสาแหรกขาด
มันคือช่วงเวลาที่มีอะไรมากมายโชว์อยู่ตรงหน้าต่าง
แต่ไม่มีอะไรอยู่ในห้องเก็บสต๊อกเลย
คือเวลาที่เทคโนโลยีสามารถนำจดหมายฉบับนี้มาสู่ท่านได้
และนี่ก็คือเวลาที่คุณจะเป็นผู้เลือกที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง


โดย : นาย kirapak pakongsap, ripw klongluang patumani 13180, วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2545