มีรักในวัยเรียนเหมือนจุดเทียนใ

มีรักในวัยเรียนเหมือนจุดเทียนในพายุ
ดูเป็นเหตุผลยอดฮิตที่นำมาเป็นข้ออางของนักศึกษาที่คบหากันและชวนกันไปสร้างครอบครัวเล็กเล็กภายในห้องสี่เหลี่ยม ทั้งที่ยังแบมือขอเงินพ่อแม่มาจับจ่ายใช้สอยอยู่ มันสมควรแล้วหรือกับการประพฤติตนแบบนี้
การที่นักศึกษาจากบ้านไปเพื่อศึกษาหาความรู้แล้วทดลองใช้ชีวิตคู่ผัวตัวเมีย มีให้เห็นโดยทั่วไปตามหอพัก นับวันยิ่งเพิ่มขึ้น ปรากฏให้เห็นกลาดเกลื่อนจนดุเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา มองดูแล้วเป็นภาพที่น่าสะท้อนใจ เพราะเป็นผลสะท้อนที่แปรเปลี่ยนไปของค่านิยมอันดีงามที่มีมายาวนาน สังคมไทยกำลังถูกครอบงำด้วยค่านิยมตะวันตกที่แพร่เข้ามาในกลุ่มวัยรุ่น ถือปฏิบัติตามโดยเด็ดขาดวิจารณญาณในการแยกแยะถึงความถูกต้องเหมาะสม
แม้ปัจจุบันสังคมไทยมีการเปิดกว้างมากขึ้นเปิดให้วัยรุ่นรู้จักคบ หาเพื่อนต่างเพศ แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่มีผู้ปกครองคนไหนรู้สึกยินดี มีความสุขที่เห็นลูกของตนเองไปสร้างครอบครัวระหว่างยังที่เรียนอยู่ เพราะเป็นวัยที่ยังไม่พร้อมในการใช้ชีวิตคู่
เราจะเห็นว่าน้อยนักที่จะไปได้ตลอดรอดฝั่งจนกระทั่งลงเอยด้วยการแตงงาน โดยมากเห็นเลิกรากัน เมื่อต่างคนต่างเรียนจบ แยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน ที่ย่ำแย่กว่านั้น บางคู่ประสบปัญหาระหว่างยังศึกษาอยู่ เช่น ปัญหาการตั้งทอง ทำให้บางคนตัดสินใจทำแท้ง เนื่องจากขาดความพร้อมที่จะรับผิดชอบ และยังมีความต้องการจะศึกษาให้จบ วิธีแก้ปัญหาโดยการทำแท้งนั้นเป็นวิธีการที่เสี่ยง ก่อให้เกิดผลเสียกับผู้ทำแท้งทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งคงต้องใช้เวลานานในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย จิตใจให้เป็นปกติ
การคบหากันระหว่างอยู่ในวัยเรียนนั้นต้องอยู่ภายในกรอบที่เหมาะสม ไม่แปลกที่หนุ่มสาวในเครื่องแบบสถานบันจะเดินไปด้วยกันเพื่อดูหนังทานไอศกรีม นั่งอ่านหนังสือด้วยกันหรือหยอกล้อกันเล่น แต่ไม่ใช่การเดินออกมาจากห้องเดียวกัน
สุภาษิตโบราณที่ว่า ”มีรักในวัยเรียนเหมือนจุดเทียนในภาพยุ” ยังคงใช้เตือนสติเป็นอย่างดีกับสภาพสังคมปัจจุบัน ปัญญาชนทังหลายจึงควรตระหนัก มีจิตสำนึกในที่ความรับผิดชอบของตนเอง ยังมีเวลาอีกมากในเรื่องของความรักไม่ควรปล่อยให้อนาคตของตัวเองจบลง เพราะความรักที่ยังไม่เป็น เพราะผู้ที่เสียใจที่สุดคือพ่อแม่ผู้ปกครองและตัวเอง ก็จะสูญเสียอนาคตในการเรียน การมีงานที่ดี
ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรจึงควรใช้วิจารณญาณแยกแยะบ้าง เพื่ออนาคตที่ดีของตนเอง และความภาคภูมิใจของพ่อแม่

คัดลอกมาจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ของ น.ส.รัญชิดา บุญยาทา



โดย : นางสาว พิกุล ขวัญบาง, โรงเรียนเสนา"เสนาประสิทธิ์", วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2545