รู้จักยาสีฟัน

ปัจจุบันการใช้ยาสีฟันบรรจุหลอดเพื่อทำความสะอาดและดูแลรักษาฟันให้มีสุขภาพดีนั้นเป็นที่ รู้จักกันอย่างแพร่หลาย มนุษย์มีการใช้ยาสีฟันมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ หรือ 1500 ปีก่อนคริสตกาล (1500 B.C.)

ยาสีฟันในสมัยนั้นเป็นผงของหินเหล็กไฟ สนิมเขียว โคลนเขียว ผงธูป และน้ำผึ้ง ส่วนในสมัยกรีกและโรมันโบราณนั้น เชื่อกันว่ายาสีฟันทำมาจากเขากวางป่น เถ้าจากกระดูกสัตว์ ผงจากหินภูเขาไฟและหินอ่อน น้ำผึ้ง และสมุนไพรหลากหลายชนิด ซึ่งใช้มาจนถึงสมัยยุคกลาง สำหรับยาสีฟันในรูปแบบที่ใช้กันอยู่ขณะนี้ได้มีการเริ่มใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โดยยาสีฟันชนิดแรกที่บรรจุในหลอด ได้แก่ยาสีฟันเชฟฟิลด์ (Sheffield) ซึ่งวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1850 (1) จนกระทั่งประมาณปี ค.ศ. 1960 จึงได้มีการเริ่มใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ขึ้นและเป็นที่นิยมโดยทั่วไปในเวลาต่อมา ส่วนผสมในยาสีฟันที่ใช้ในปัจจุบันเพื่อขัดฟัน เช่น ซิลิกา (silica) แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate) หรือ แคลเซียมคาร์บอเนต (calcium carbonate) ก็เป็นส่วนประกอบของหินที่ใช้ในการแปรงฟันในสมัยโบราณนั่นเอง

สำหรับประเทศไทยนั้น คนในสมัยโบราณดูแลรักษาฟันโดยใช้เกลือ หรือสมุนไพรต่างๆ เช่น ข่อย พิมเสน กานพลู ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูแลสุขภาพฟัน และลดการเกิดกลิ่นปาก ในปัจจุบันยาสีฟันบรรจุหลอดซึ่งอยู่ในรูปกึ่งแข็งกึ่งเหลว (paste) หรือเจล (gel) เป็นที่คุ้นเคยกันดีทั่วทั้งโลก และเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพฟันและช่องปากที่นิยมใช้มากที่สุด ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เริ่มมีการจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ราวๆปี ค.ศ. 1970 การแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เป็นวิธีที่สะดวก ประหยัดและปลอดภัยที่สุดในการเสริมฟลูออไรด์ให้กับฟัน และช่วยให้ช่องปากได้มีโอกาสสัมผัสกับฟลูออไรด์บ่อยมากขึ้น ยาสีฟันอาจอยู่ในรูปแบบอื่นๆก็ได้ เช่น ผง ผงเปียก และของเหลว
แหล่งที่มา
www.sofino.co.th









โดย : นางสาว ่manapat janopast, 4/3klonglaung pratumtane13180, วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2545