เลือกใช้ยาแก้แพ้ให้ถูกกับโรค

สุรเกียรติ อาชานานุภาพ.”เลือกใช้ยาแก้แพ้ให้ถูกกับโรค”. หมอชาวบ้าน. 22,263 (มีนาคม 2544) : 22 - 23.
ยาแก้แพ้หรือทางภาษาหมอ เรียกว่า แอนติฮิสตามีน (Antihistamine) เป็นกลุ่มยาที่มีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการที่เกิดจากภูมิแพ้ ยากลุ่มนี้มีอยู่หลายชนิด สามารถจัดรวมเป็น 2 กลุ่มย่อย ได้แก่ กลุ่มยาแก้แพ้ที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน พวกนี้มักจะออกฤทธิ์สั้นต้องกินวันละ 2 ถึง 4 ครั้ง กลุ่มยาแก้แพ้ที่ไม่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน พวกนี้มักจะเป็นยาที่ออกฤทธิ์นาน กินวันละครั้งเดียว มีข้อดีที่ไม่ง่วง และกินสะดวก คือไม่ต้องกินหลายครั้งต่อวัน แต่เนื่องจากเป็นยาใหม่ที่มีราคาแพงกว่ากลุ่มแรก ยาแก้แพ้ทุกชนิด มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการแพ้ได้คล้าย ๆ กัน นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์แก้อาการ คลื่นไส้ อาเจียน เมารถหรือเมาเรือ ได้อย่างอ่อน ๆ พอ ๆ กันอีกด้วยยาแก้แพ้ในกลุ่มที่สอง คือยาแก้แพ้กลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน นอกจากทำให้มีอาการง่วงนอนหรือมึนงงแล้ว ยังอาจทำให้อาการปากคอแห้ง คอขม ตาพร่า เสมหะเหนียว ถ้าใช้เกินขนาดมาก ๆ อาจทำให้กระตุ้นประสาทนอนไม่หลับ และเด็กเล็กอาจมีอาการชักได้ ยาแก้แพ้เป็นยาที่ใช้ได้ค่อนข้างปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายร้ายแรง ยกเว้นถ้าใช้เกินขนาดมาก ๆ หรือในกรณีการใช้ยาแอสตีมิโซลและเทอร์เฟนาดีนร่วมกับยาอื่น อย่างบไรก็ตาม ยากลุ่มนี้บางครั้งก็อาจเป็นต้นเหตุกระตุ้นให้เกิดการแพ้ได้ ถ้ากินแล้วมีอาการลมพิษ ผื่นคัน ก็ควรจะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้แน่ใจ ยาราคาถูกไม่จำเป็นต้องมีคุณภาพต่ำกว่ายาราคาแพง และยาเก่าไม่จำเป็นต้องมีคุณภาพด้อยกว่ายาใหม่ ยาแต่ละตัวอาจมีข้อดีและข้อด้อยในบางด้านแตกต่างกันไป ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม ยาแก้แพ้สามารถใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ต้องปรับขนาดของยาให้เหมาะสม โดยทั่วไป สำหรับเด็กจำเป็นต้องคำนวณขนาดของยาตามน้ำหนักตัว



โดย : นางสาว นางสาวพนิดา ยิ้มแฉ่ง, ripw Klonglung Pathumthani 13180, วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2545