ทำไมเสือจึงมีลาย ช้างจึงตาเล็ก

ในอดีตกาลสมัยที่ป่าไม้ยังอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์นานาชนิด และเป็นทีรู้กันว่ามนุษย์นั้นคือสัตว์ฉลาดเฉลียวที่สุดในโลก แต่มีเจ้าเสือตัวหนึ่งอวดกำแหงว่าตัวมันคือเจ้าป่า ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ตัวใดก็ไม่มีใครที่จะยิ่งใหญ่หรือมีอำนาจเหนือกว่ามันได้อีกแล้ว อยู่มาวันหนึ่งเจ้าเสือออกหาอาหาร เผอิญพบช้างตัวหนึ่งยืนกินหญ้าอยู่ที่ชายทุ่ง มันนึกกระหยิ่มในเหยื่อชิ้นใหญ่ทำท่าจะกระโจนตะครุบ เจ้าช้างหันมาเห็นเข้าจึงร้องว่า "ช้าก่อนเจ้าเสือ เอ็งจะกินข้าไม่ได้ เพราะตอนนี้ข้าอยู่ในฐานะเชลยของมนุษย์" เสือไม่เชื่อ คิดว่าช้างโกหก "อะไรกัน ตัวเอ็งออกใหญ่โต ทำไมถึงถูกมนุษย์ตัวเล็กจับเป็นเชลยได้ จะหลอกข้าไม่ให้กินเอ็งใช่ไหมล่ะ" "ไม่ใช่อย่างที่เอ็งเข้าใจหรอก ลองดูที่ขาของข้าซิ" เจ้าช้างใช้งวงชี้ให้ดูปลอกโซ่ที่คล้องขาของมันเอาไว้ "เห็นไหมล่ะ ข้าถูกมนุษย์ใช้ปัญญาจับเอาไว้ใช้งาน ไปไหนไม่รอด" "ไอ้ตัวปัญญาของมนุษย์นี่มันเป็นยังไง" เสือชักสงสัย "ข้าอยากจะเห็นเหลือเกินเอ็งช่วยข้าหน่อยได้ไหมล่ะ" "สบายมากเจ้าเสือเอ๋ย" เจ้าช้างรับคำ "เอ็งจะมาช่วยแก้ปลายโซ่ที่ผูกกับต้นไม้ให้ข้าหน่อยซิ แล้วจะพาไปดูตัวปัญญาของมนุษย์ ว่ามันเก่งกาจสักขนาดไหน" เจ้าเสืออยากเห็นตัวปัญญาของมนุษย์เต็มที่ จึงช่วยแก้โซ่ให้เจ้าช้าง พอเจ้าช้างเป็นอิสระนึกดีใจที่ไม่ถูกเสือกิน รีบเดินนำเจ้าป่าไปยังบ้านของทิดอ่ำผู้เป็นเจ้านาย พร้อมส่งเสียงร้องเป็นสัญญาณเรียกทิดอ่ำกำลังกินข้าวอยู่ในครัว ครั้นได้ยินก็จำได้ว่าเป็นเสียงช้างของตนที่ผูกเอาไว้ชายทุ่ง แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงมาร้องอยู่แถวบ้าน จึงรีบลงบันไดมาดู ทันใดนั้นเจ้าเสือซึ่งรอทีอยู่ก่อนแล้วก็รีบตะครุบคร่อมร่างทิดอ่ำเอาไว้ทันที "อะฮ้า...เจ้ามนุษย์ตัวเล็ก" เสือกล่าวอย่างลำพอง "ไหนเจ้าช้างเพื่อนข้าบอกว่าเอ็งมีปัญญาเก่งกล้านักหนายังไงล่ะ แค่ข้ากระโจนครั้งเดียวก็สามารถจับตัวเอาไว้ได้แล้ว ไม่เห็นปัญญาของเอ็งมันจะได้เรื่องได้ราวอะไร" ทิดอ่ำเมื่อได้ฟังดังนั้นก็พอจะเดาเรื่องราวได้ออก จึงตอบไปว่า "เจ้าเสือเอ๋ย เอ็งไม่บอกข้าเสียแต่แรกนี่หว่าว่าอยากเห็นเจ้าตัวปัญญา ข้าจะได้หยิบติดมือมาด้วย" "อะไรนะ" เจ้าเสือเอียงคอจ้องหน้าเขม็ง "เอ็งเอาไอ้ตัวปัญญาเก็บไว้ในบ้านเรอะ ปัดโธ่ ทำไมไม่เอาออกมาด้วยล่ะวะ ข้าอยากเห็นนัก" "เอ็งอยากเห็นก็ปล่อยข้าก่อนซิ จะไปหยิบมาให้ดู" ทิดอ่ำต่อรอง "อ้อ...แต่ไอ้ตัวปัญญามันน่ากลัวมาก ถ้าเอ็งเห็นอาจจะวิ่งเข้าป่าไปเลยก็ได้ ทางที่ดีให้ข้ามันเอ็งไว้ก่อนดีกว่า" เจ้าเสืออยากเห็นตัวปัญญาของมนุษย์เต็มแก่จึงยอมให้มันแต่โดยดี ทิดอ่ำเดินหายไปในบ้านแล้วคว้าหวายเส้นหนึ่งออกมาฟาดใส่ร่างเจ้าเสือเต็มแรงนับครั้งไม่ถ้วน "โอ๊ย...โอ๊ย...เจ้ามนุษย์ขี้โกง" เสือร้องลั่น "เอ็งเอาหวายมาเฆี่ยนข้าทำไม" "นี่แหละโว้ยตัวปัญญา" ทิดอ่ำยังคงกระหน่ำเฆี่ยนเจ้าเสือชนิดไม่มีการยั้งมือ "เอ็งยังไม่เข้าใจอีกหรือไง" ฝ่ายเจ้าช้างเห็นเจ้าเสือเสียรู้ปัญญามนุษย์ ถูกหวายเฆี่ยนกระโดดโหยง ๆ ก็หัวเราะร่วนไม่หยุด ทั้งขำทั้งสมน้ำหน้าที่บังอาจมาอวดดี เจ้าช้างหัวเราะติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ดวงตาของมันค่อย ๆ หรี่เล็กลงจนเหลือเท่าที่เห็นในปัจจุบันส่วนเจ้าเสือนั้นมันดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดจนเชือกที่มัดไว้ขาด พอเป็นอิสระก็รีบกระโจนหนีเข้าไปในป่าอย่างไม่คิดชีวิต และนับตั้งแต่นั้นตัวของมันก็มีลายสืบมาจนถึงปัจจุบัน


ทำไมเสือจึงมีลาย ช้างจึงตาเล็ก . 2545 . [Online] . เข้าถึงได้จาก www.thai.net/nitan/pooh/nitan.html



โดย : นางสาว จีระนันท์ ขลุ่ยกระโทก, ripw คลองหลวง ปทุมธานี 13180, วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2545