น้ำตา


กฤษณา ชุติมา.สุญญากาศ.”รู้ไว้ใช่ว่า ประสาวิทยาศาสตร์ เล่ม 2”.กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2541.

ไม่มีใครไม่เคยร้องไห้เลยตั้งแต่เกิดเด็กบางคนร้องไห้บ่อย ๆ เขาเรียกว่าเด็กขี้แย คนโตแล้วที่ร้องไห้เก่ง มักถูกล้อเลียนว่าเหมือนเด็กขี้แยเรื่องร้องไห้นี่ต่างกันไปแต่ละคน บางคนร้องไห้ยากถึงแม้จะมีเรื่องสะเทือนใจก็ยังไม่ร้อง แต่บางคนร้องไห้ง่ายมีเรื่องอะไรนิดหน่อยก็ร้องไห้ เวลาร้องไห้จะมีน้ำตาไหลจากดวงตา น้ำตานี้มาจากไหน น้ำตาเป็นของเหลวที่หลั่งออกมาจากต่อมน้ำตา ซึ่งอยู่ใต้เปลือกตา ทางเหนือตาใต้ขมับต่อมน้ำตาปล่อยน้ำตาออกมาทางท่อต่อมน้ำตาซึ่งเป็นท่อเล็ก ๆ รวมหลายท่อ แต่ละครั้งทีเปลือกตากระพริบ จะมีของเหลวขับออกมาจากต่อมน้ำตาเล็กน้อย น้ำตาจึงเป็นของเหลวที่หล่อเลี้ยงลูกนัยน๋ตาอยู่ตลอดเวลาอย่างสม่ำเสมอ น้ำตาทำให้ดวงตาไม่แห้ง มิฉะนั้นตาอาจจะบอดได้ และน้ำตาช่วยทำให้นัยน์ตาสะอาดปราศจากฝุ่นธุลี ผง ดวงตาจึงปลอดจากเชื้อโรค เพราะในน้ำตามีเอนไซม์ที่สามารถทำลายจุลินทรีย์บางชนิด เมื่อน้ำตาไหลหล่อ ลื่นลูกนัยน์ตาแล้ว ก็จะออกไปทางรูปิดเล็ก ๆ สองรูตรงมุมนัยน์ตาด้านจมูก เข้าท่อไปสู่ถุงตา แล้วไหลต่อไปตามท่อน้ำตา ท่อนี้ยาวลงมาตามรูจมูก และในที่สุดน้ำตาก็ออกมาทางช่องจมูกชุ่มชื้น น้ำตาหลั่งออกมาจากต่อมน้ำตามากขึ้นเมื่อมีแสงแดดจ้า ลมแรง ฝุ่นเข้าตา เชื้อโรคเข้าตา เป็นต้น และที่ทราบกันดีก็ คือ เมื่อมีอารมณ์บางอย่าง เช่น เศร้าเสียใจรุนแรง หรือดีใจเต็มที่ กล้ามเนื้อรอบ ๆ ต่อมน้ำตา จะรีบรัด ทำให้น้ำตาไหลออกมามากผิดปกติ จนล้นขอบตาไหลลงมาบนใบหน้า และน้ำตาส่วนหนึ่งวิ่งผ่านทางท่อน้ำตาออกทางจมูกมาก ทำให้เกิดมีน้ำมูกออกมาเวลาร้องไห้ น้ำตามีรสเค็ม ทั้งนี้เพราะ มีเกลือโซเดียมคลอไรด์ หรือที่เรียกกันว่าเกลือแกง เกลือโซเดียมไบาร์บอเนต และยังมีสารอื่นอีก เช่นโปรตีน โปรตีนบางชนิดช่วยให้ นัยน์ตามีภมิคุ้มกันการติดเชื้อ และบางชนิดก็เกิดขึ้นมาเมื่อมีความกดดันทางอารมณ์ ได้เคยมีนักวิทยาศาสตร์ (ดร.วิลเลียม เอช เฟรย์) ทำการตรวจสอบ น้ำตาที่ไหลออกมาเมื่อมีเรื่องเศร้า สะเทือนใจ พบว่ามีโปรตีนมากกว่า น้ำตาที่ไหลออกมาเพราะหัวหอมเป็นเหตุถึง 21 %


โดย : นางสาว chaowanee thammakhankaew, สถาบันราชเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2545