ทำไมต้องฝึกโยคะ

http://www.simplemag.com/health/yoga/whyyoga.html

ทำไมต้องฝึกโยคะ

กระนั้นสิ่งที่ตรงข้ามกันจึงไม่ทำร้ายกัน

ข้อความข้างต้นมาจากปธังชลี โดยอธิบายผลการฝึกอาสนะได้อย่างชัด เจนและกระชับที่สุด คำถามคือสิ่งที่ตรงข้ามกันที่ว่านั้นหมายถึงอะไร

สิ่งเหล่านี้มีทั้งความสุขและความเจ็บปวด ร้อนและเย็น ความปรารถนาและความชัง ฯลฯ ซึ่งแสดงถึงสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ความเครียด และความขัดแย้ง วิกฤตและการเผชิญหน้า การดิ้นรนเพื่อให้ได้มา ความปรารถนาที่จะหลีกหนี และสมรภูมิแห่งอารมณ์ จิตใจ และกายที่เราเผชิญในชีวิต ดังนั้น ผลแห่งการ "คุกคาม" เหล่านี้จึงแสดงออกในหลายๆ ด้าน เช่น ความเจ็บปวดเรื้อรัง การบีบรัดตัวของกล้ามเนื้อและข้อ ความเหนื่อยล้า การขาดสมาธิ ความเศร้า ความเครียด ความกังวล ฯลฯ ผลเหล่านี้จะฝังลึกอยู่ในจิตของกาย ซึ่งทำให้ความไม่สบายเหล่านี้ยังคงอยู่ แม้ว่าสาเหตุที่มากระทบจะผ่านไปแล้วเป็นเวลานานก็ตาม

ในบทความเรื่องหัตถโยคะจากศตวรรษที่ 14 ที่ชื่อว่า หัตถโยคะปฏิบัติ ระบุว่า อาสนะ "ควรฝึกเพื่อให้เกิดท่าทางอันคงที่ สุขภาพ และความเบาแห่งกาย" (1.19) พลังในการรักษาและเสริมสร้างสุขภาพของการฝึกโยคะนั้นเป็นที่รู้กันมานานแล้ว แม้กระทั่งในโลกตะวันตกที่มีความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์เป็นอย่างมาก ก็ยังเห็นได้ชัดว่ามนุษย์ยังประสบปัญหาด้านสุขภาพกาย ใจ และอารมณ์อยู่ ดังนั้นในช่วงปีที่ผ่านๆ มาจึงเกิดความนิยมเรื่องการฝึกโยคะ สมาธิ และพลังจาก "ภายใน" ต่างๆ มากชึ้น

นอกจากจะมีประโยชน์มากมายแล้ว โยคะยังเป็นสิงที่ฝึกได้ง่าย ผู้คนทุกเพศทุกวัย สามารถฝึกโยคะได้ทั้งนั้น แม้ว่าการฝึกท่าโยคะจะเพื่อสร้างพื้นฐานอันมั่นคงในการฝึกโยคะชั้นสูง แต่ก็ยังมีข้อดีในการสร้างจิตของกายที่เข้มแข็ง มีสุขภาพดี และผ่อนคลาย



โดย : เด็กชาย รุ่งโรจน์ ดาพรม, ราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์, วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2545