header


<< ผีตองเหลือง ?? >>;



เหตุใดผีตองเหลือง ถึงมีเลือดกรุ๊ปเดียวกันทั้งหมด ??



สวัสดีเจ้าค่ะ....

เป็นอย่างไรบ้างค่ะ ฮา..ฮา..บ๊วยหวานมาแล้วค่ะ !! ไม่รู้เป็นอะไรค่ะ

ช่วงนี้อารมณ์จะดีเป็นพิเศษ แต่ก็ดีนะค่ะสุขภาพจิตดีด้วยค่ะ หัวเราะวันละนิดจิตแจ่มใสค่ะ มาคราวนี้บ๊วยหวานก็ไม่ลืมที่จะนำสาระ ความรู้มาฝากเพื่อน ๆ เช่นเคยค่ะ อ้ะ..อ้ะ..เพื่อน ๆ ทราบมั้ยค่ะว่าเป็นเรื่องอะไรเอ่ย...อิอิ..ก็เรื่อง

"ผีตองเหลือง" ไงค่ะ

เพื่อน

ๆ ทราบมั้ยค่ะว่า ผีตองเหลืองนั้นจะเรียกตัวเองว่าเชื้อชาติ มลาบรี ก็มีความหมายว่า คนป่าค่ะ ส่วนคำว่า ผีตองเหลือง นั้นชาวบ้านคนไทยทางภาคเหนือเขาเรียกกันเองค่ะ เพราะชนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมเร่ร่อน หาแหล่งอาหารโดยการล่าสัตว์ และเก็บพืชผักผลไม้ตามที่ต่าง ๆ ในป่า





ที่พักก็สร้างเป็นเพิงหลังคามุงด้วยใบตอง

ใบหวาย หรือใบไม้ชนิดอื่น ๆ ที่มีใบใหญ่พอที่จะมุงเป็นหลังคาได้ค่ะ เป็นที่อยู่อาศัยในระหว่างหาอาหาร เมื่อแหล่งที่อยู่อาศัยนั้นมีอาหารไม่พอเพียง ก็จะย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อหาอาหารต่อไป เมื่อใบตองเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง ก็จะย้ายหนีไป โดยจะอาศัยอยู่ในแต่ละพื้นที่เป็นเวลา 5-10 วัน แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นที่มีอาหารเพียงพอ การอพยพอาจจะทำอีกรูปแบบหนึ่งคือ ย้ายไปแล้ววนกลับมาที่เดิมอีกในรัศมีประมาณ

30 ตารางกิโลเมตรซึ่งลักษณะนิสัยของผีตองเหลือง เมื่อได้พบกับคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักกัน

ก็อพยพหลบหนีทันที จึงถูกเรียกชื่อว่า ผีตองเหลือง นั่นเองค่ะ







โดยผีตองเหลืองมีถิ่นกำเนิดอยู่ในบริเวณแม่น้ำโขง ของแขวงไชยะบุรี ของประเทศลาว ค่ะ แต่ปัจจุบันผีตองเหลืองอาศัยอยู่ในสองจังหวัดของประเทศไทยเท่านั้นคือ แพร่และน่าน และมีประชากรโดยประมาณ 184 คน นับว่าเป็นชนเผ่าที่มีประชากรน้อยเผ่าหนึ่ง

และ เคยมีกลุ่มแพทย์ไปทำการตรวจสุขภาพ และเจาะเลือดชนกลุ่มนี้ ปรากฏว่าเป็นเลือดกรุ๊ปเอทั้งหมดค่ะ

เพื่อน ๆ แปลกใจกันมั้ยค่ะว่าทั้งเผ่าทำไมถึงมีเลือดกรุ๊ปเอทั้งหมด.... ก็ชนเผ่าผีตองเหลืองจะแต่งงานเฉพาะในเผ่าของตนเองเท่านั้นค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างค่ะ กับความเป็นมาเป็นไปเกี่ยวกับชนเผ่าของผีตองเหลือง เอาเป็นว่าถ้ามีข้อมูล ความรู้อะไรเพิ่มเติมอีกจะนำมาฝากเพื่อน ๆ อีกนะค่ะ คราวนี้บ๊วยหวานะต้องขอลาเพื่อน

ๆ ไปก่อนนะคะ แล้วมาเจอกันใหม่กับคอลัมน์ดี ๆ กับ Toonz Knowledge

นะคะ สวัสดีค่ะ....

ที่มา:(http://www.magcartoon.com/scoop/scoop_knowlage.php?knwid=knw2002031401)











โดย : เด็กชาย อลงกรณ์ ไร่นากิจ, โรงเรียนถิ่นโอภาสวิทยา, วันที่ 21 มีนาคม 2545