สืบค้นข้อมูลกันอย่างไรให้เร็ว


ในโลกยุคปัจจุบันที่อะไรๆล้วนรวดเร็ว กระชับ ฉับไวนั้น คำว่า "ข้อมูล" ดูจะเป็นคำที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่าหมายถึง สารสนเทศ หรือสารนิเทศอันเป็นศัพท์บัญญัติของคำว่า Information ซึ่งราชบัณฑิตสถานกำหนดให้ใช้ได้ทั้งสองคำ คือ ในวงการคอมพิวเตอร์ การสื่อสารและธุรกิจ นิยมใช้คำว่าสารสนเทศ แต่ในวงการบรรณารักษ์และสารนิเทศศาสตร์ใช้คำว่าสารนิเทศ โดยความหมายกว้างๆหมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ต่างๆที่มีการบันทึกอย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ การบริหาร การแพทย์ การสาธารณสุข การศึกษา การคมนามคม การทหาร และอื่นๆ

และด้วยเหตุที่ข้อมูลเหล่านี้อยู่ในเครือข่ายที่ส่งผ่านถึงกันได้ทั่วโลก คนที่ไม่ยอมตกยุคคงต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้รู้จักอินเทอร์เน็ต การสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และยอมรับคำๆนี้เข้ามาปะปนอยู่ในชีวิตประจำวันเสียก่อน

ในอินเทอร์เน็ตมีสิ่งที่เป็นข้อมูลฯ หรือสารสนเทศอยู่มากมายมหาศาล ชนิดไร้ขอบเขต ไร้ขีดจำกัด คนที่ใช้อินเทอร์เน็ตอยู่เป็นปกติก็คงคุ้นเคยดีกับการเสาะหา สืบค้นข้อมูลข่าวสาร แต่บางคนที่ยังไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตยุ่งเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากนัก ก็มักจะคิดประมาณว่าเครื่องนี้คงเป็นเครื่องมือเทวดา สงสัยอยากรู้อะไรก็กดปุ่มแล้วคำตอบก็ไหลออกมา ส่วนอีกหลายๆคนที่เป็นประเภทมือใหม่ใช้คอมพิวเตอร์ได้ดี แต่นึกไม่ออกว่าจะหาข้อมูลที่ต้องการให้ออกมาจากคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร ก็คงจะกำลังหาวิธีการกันอยู่

การหาข้อมูลด้วยอินเทอร์เน็ตนั้น หากต้องการให้ได้ข้อมูลที่ดี หรือตรงจุดที่ต้องการจะต้องอาศัยหลายๆวิธีรวมกัน โดยปกติแล้ว เราจะเริ่มจากการใช้ Search engine หรือ Web directory เช่น www.yahoo.comหรือ www.sanook.comซึ่งมักจะให้ข้อมูลออกมามาก เกินกว่าที่จะเปิดดูได้หมด หรือถึงเปิดเข้าไปดูก็จะเป็นข้อมูลชนิดที่เรียกว่า "ผิวๆ"เนื้อเรื่องไม่ละเอียดเพียงพอ บางทีก็ไม่ตรงจุดที่ต้องการรู้ หากพบสิ่งที่ ต้องการจากจุดทีเริ่มต้นนี้ ก็นับว่าโขคดีเหลือหลาย แต่ปกติแล้วมักยากที่จะได้มาง่ายๆขนาดนั้น

การหาหน้า ลิงค์ (link) หรือเว็บบอร์ด (web-board) หรือแช็ตรูม (chat-room)ในเว็บไซต์ที่เราพบก็เป็นวิธีที่ประหยัดเวลาได้ดี เพราะหน้าลิงค์มักรวมเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บต้นทางนั้นๆ ดังนั้น หากเราเข้ามาถูกเรื่องแล้ว ลิงค์ก็จะเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะหากลิงค์เป็นคนละเรื่องกับเรื่องที่เราหา ก็แปลว่าเว็บไซต์นี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราอยากรู้มากสักเท่าไร เราไม่ต้องเสียเวลา โบกมือลาจากได้เลย

อันที่จริงแล้วสิ่งที่ต้องการค้นหานั้นมักจะอยู่ที่เว็บบอร์ด กับ แช็ตรูมนี่เอง เพราะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากอย่างหนึ่งตรงที่คนที่เป็นขาประจำเว็บบอร์ด หรือแช็ตรูมในหัวข้อกระทู้ใดๆ มีไม่น้อยทีเดียวที่มักจะเป็น "ตัวจริง" ในเรื่องนั้นๆด้วย เรื่องของเรื่องก็คือ หาคนให้เจอ จากนั้นก็ถามคนๆนั่นแหละ ซึ่งเว็บบอร์ดหรือแช็ตรูมก็มีไว้เพื่อการนี้อยู่แล้ว ด้วยคำถามกระทู้ง่ายๆ เช่น "ใน กทม. มีโรงเรียนอะไรบ้างที่เป็นโรงเรียนชายล้วน" หรือ "อยากสอบเทียบภาษาอังกฤษ ไม่ทราบว่ามีอะไรแนะนำ" เราก็จะได้คำตอบๆดีชนิดคาดไม่ถึงเลยทีเดียวเชียว

ปัจจุบันเว็บบอร์ด แทบจะเกี่ยวกับทุกประเด็นในโลก เพียงแต่ต้องหาจุดตั้งต้นให้พบ บางครั้งจุดตั้งต้นอาจะเป็นเว็บไซต์ ประเภทรวมเว็บบอร์ด เช่น www.pantip.comแต่จากเว็บบอร์ดรวม ถามไปถามมามันก็จะนำไปสู่เว็บบอร์ดเฉพาะกลุ่มความสนใจซึ่งสามารถช่วยให้เราได้ข้อมูลที่ละเอียดขึ้น จากนั้น ทางอยู่ที่ปาก ถามเอาในบอร์ด คำแนะนำที่ได้อาจจะเป็นชื่อหนังสือ ชื่อเว็บไซต์เฉพาะทางหรือบางทีอีกฝ่ายก็ช่วยตอบ จนหายสงสัยได้เลยทีเดียว รวมทั้งอาจได้เพื่อนใหม่ๆที่มีความสนใจเรื่องเดียวกันนั้นอีก

ดังนั้นตอนนี้ ที่ที่มีข้อมูลให้หาได้รวดเร็วที่สุดจึงเป็นที่ การตั้งกระทู้ การถามหากับคนด้วยกันที่สื่อกันด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตจึงไม่ใช่แหล่งข้อมูลวิเศษที่จะให้ทุกอย่างที่ต้องการ หากแต่เป็นเพียงสื่อที่ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ และที่สำคัญได้เสาะแสวงหาอย่างอิสระ เสรี เท่าที่คนต้องการและอยากจะทำกับคนด้วยกันต่างหาก



โดย : นาง พรรณี ชุติวัฒนธาดา, โรงเรียนศรีพฤฒา, วันที่ 22 มีนาคม 2545