header

เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสไปเสวนากับกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนที่มาเข้าค่ายอบรมเพศศึกษา ที่กรมสามัญศึกษาจัดร่วมกับองค์การยูนิเซฟ แล้วก็ได้รับทราบปัญหาของวัยรุ่นเกี่ยวกับความไม่รู้ในเรื่องเพศ... ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์หลายสิ่งหลายอย่าง และทำให้สามารถบอกข่าวกับพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายว่า เยาวชนของเราที่มีความประพฤติดีนั้น ยังมีอยู่มาก มากกว่าที่ท่านทั้งหลายคิด...
อย่างน้อยเยาวชนกลุ่มนี้ ก็เป็นแบบอย่างของเยาวชนที่ดีที่ตั้งใจว่าจะนำเอาความรู้ และทักษะในการดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้องและดีงามเหมาะสมกับวัฒนธรรมของไทย ไปบอกกล่าวกับเพื่อนที่ไม่มีโอกาสได้เข้าค่ายรับการศึกษาอบรมในแบบที่ดีและเป็นประโยชน์ ซึ่งก็น่าจะต้องขอบคุณคณะครูและผู้ที่มีสวนร่วมในการจัดการครั้งนี้ด้วย
มาลองดูปัญหาของวัยรุ่นหญิงชาย...และแนวทางในการแก้ปัญหากันบ้างน่าจะดีนะครับ
 ทำอย่างไรอวัยวะแห่งความเป็นชายจึงจะเป็นมังกรผงาด
เป็นปัญหาคาใจอันดับแรกๆ ของวัยรุ่นและผู้ชายเกือบจะทุกคนจริงๆ เลย... เรื่องของขนาดนี่ ที่จริงแล้วขนาดนั้นมันไม่สำคัญอะไรเลย ถ้าเทคนิคการใช้งานดี เหมือนที่มีคำกล่าวเสมอๆ ว่า ขนาดของเรือเดินสมุทรน่ะ ไม่สำคัญหรอก ...สำคัญอยู่ที่กัปตันจะสามารถพาเรือเดินสมุทร แล่นผ่านพ้นปากอ่าวเจ้าพระยาออกไปได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง
แต่วิธีการรักษาขนาดของอวัยวะแห่งความเป็นชายให้มีขนาดคงตัวหรืออาจจะเพิ่มขยายได้ ตามขนาดของร่างกายนั้น อยู่ที่การฝึกออกกายบริหารอวัยวะส่วนนั้นเป็นประจำสม่ำเสมอด้วย การนวดให้มีเลือดมาคั่งและขยายขนาดเป็นประจำก็จะช่วยให้มีขนาดสมตัวได้ และไม่จำเป็นจะต้องขวนขวายหาน้ำมันจิ้งเหลนมานวดแต่ประการใดด้วย รวมทั้งไม่จำเป็นจะต้อง ซื้อเครื่องดูดสูญญากาศมาดูดให้เปลืองเงินทองเช่นกัน
จำไว้เลยนะครับว่า สองมือนี้ที่สร้าง (เจ้า) โลก ไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรอีก และเมื่อกระตุ้นให้ตื่นตัวขึ้นมาแล้วให้พยายามคงสภาพอยู่แบบนั้นสัก 5 นาทีก็จะยิ่งดี ขอเรียนนะครับว่า ไม่จำเป็นจะต้องไปจัดการต่อเนื่องจนจบกระบวนความหรอก ปล่อยให้น้องชายหดตัวเองก็ได้รับรองว่าไม่มีอะไรคั่งอยู่ภายในจนกลายเป็นบ้า เหมือนตามข่าวลือกันหรอก และยังเป็นวิธีการฝึกฝนช่วยชะลอการหลั่งอีกด้วย


 ผู้ชายหรือผู้หญิงที่ช่วยตนเองบ่อยๆ จะทำให้เกิดอันตรายอย่างไรไหม
ความจริง การบริการตนเองเมื่อเกิดความต้องการทางเพศตามธรรมชาตินั้น เป็นสิ่งปกติธรรมดา ที่สามารถเกิดกับใครก็ได้ อายุเท่าใดก็ได้ ไม่เลือกชนชั้นวรรณะและไม่มีการแบ่งเชื้อชาติด้วย เพียงแต่เรื่องการช่วยเหลือตนเองนั้น มักจะมีข่าวลือต่างๆ มากมาย เนื่องจากผู้ใหญ่มักไม่อยากให้ บุตรหลานของตนเองหมกมุ่นกับเรื่องทางเพศมาก เพราะเกรงว่าจะเกิดการเสียสุขภาพร่างกาย จนไม่เป็นอันเรียนหนังสือเสียมากกว่า เลยหาเรื่องขู่ต่างๆ จนกลายเป็นข่าวลือมาในทุกยุคทุกสมัย
ที่จริง เรื่องที่ผู้ใหญ่กังวลก็มีส่วนที่เป็นจริงบ้างเหมือนกัน ในเรื่องของการติดอกติดใจจนเสียการเรียน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า สมองของคนเรานั้น เวลาใช้งานจะกินพลังงานของร่างกายไปมากกว่าอวัยวะอื่นใด ทีนี้เวลาที่จะช่วยเหลือตนเองนั้น ต้องอาศัยจินตนาการมาเพิ่มสีสันและบรรยากาศ... การใช้สมองคิด ในเรื่องที่วาบหวามนี้ก็จะต้องเสียพลังงานออกไป แม้ว่าจะเกิดการสุขสมในบั้นปลายก็ตาม การช่วยเหลือตนเองก็ย่อมทำให้เกิดการอ่อนเพลียตามมา ทีนี้ถ้าใครหมกมุ่นแต่ในเรื่องนี้ ก็จะสูญเสียพลังงานออกไปมาก จนนานเข้าย่อมทำให้สุขภาพเสื่อมตาม การเรียนย่อมเสียไปเป็นธรรมดา
เมื่อถามเยาวชนที่เข้าค่ายอบรมเพศศึกษาในครั้งนี้แล้ว คำตอบของพวกเขาว่าจะทำให้ผู้ใหญ่ และผู้ปกครองชื่นใจได้ไม่มากก็น้อยครับ เพราะพวกเขาตอบว่า วิธีการป้องกันไม่ให้หมกมุ่นในเรื่องเพศก็คือ หางานอื่นทำให้มีความสุข เช่น การออกกำลังกายที่ตนเองชื่นชอบ การสันทนาการและ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม รวมทั้งการร้องเพลงก็เป็นอีกทางออกหนึ่งที่พวกเขาเสนอมา น่าชื่นใจแทนพ่อแม่และครูบาอาจารย์ของพวกเขาจริงๆ ที่สามารถอบรมบ่มนิสัยที่ดีงามให้แก่พวกเขา
 ทำไมเวลามีประจำเดือนใหม่ๆ ประจำเดือนจึงมาไม่สม่ำเสมอ
เชื่อไหมว่า ปัญหาเรื่องเกี่ยวกับประจำเดือนนั้น เป็นปัญหายอดฮิตติดอันดับแรกๆ ของวัยรุ่นหญิงที่มารับการอบรมในครั้งนี้ ความจริงแล้วถ้าคุณพ่อคุณแม่มีลูกที่มีปัญหาดังกล่าว อย่าได้กังวลใจไปเลย เพราะเมื่อรังไข่เริ่มทำงานใหม่ๆนั้น ก็เหมือนกับเด็กที่เพิ่งเริ่มเดินนั่นแหละ มักจะเดินก้าวเท้าไม่เท่ากันและเดินไม่ตรงทางบ้าง เป็นธรรมดา ดังนั้นประจำเดือนในระยะ 3 ถึง 4 ปีแรก อาจจะยังไม่มาสม่ำเสมอ ก็เป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ
และลูกสาวของใครที่ประจำเดือนมาช้า ถ้าไม่เกินอายุ 18 ปีแล้ว ไม่ต้องตกใจ จนรีบพาไปหาหมอหรอกนะครับ แต่ถ้าอายุ 18 ปี แล้วประจำเดือนไม่มา ต้องรีบพาไปตรวจรักษาหาสาเหตุ นิ่งนอนใจต่อไปไม่ได้
นอกจากนี้ ถ้าลูกสาวของใครมีประจำเดือนมาเร็วกว่าอายุ 12 ปี แล้วละก็ พอเห็นเลือดประจำเดือนออกมาครั้งแรกรีบพาไปพบสูตินรีแพทย์ที่ชำนาญในระบบฮอร์โมนทันทีเลย เพื่อที่จะได้หาทางเลื่อนการมีประจำเดือนครั้งแรกออกไป มิฉะนั้นลูกสาวไม่สูงต่อไม่รู้ด้วยนะครับ แต่ถ้ารีบพาไปปรึกษาแพทย์แต่เนิ่นๆ ละก็ พอจะมีทางยืดระยะเวลาการมีประจำเดือนครั้งแรก ออกไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
 ปวดประจำเดือนจ้ะ...ปวดประจำเดือน
ปัญหาต่อมาของสาวแรกรุ่นก็คือ การปวดประจำเดือน บางรายปวดมากเสียจนไม่สามารถ ไปเรียนหนังสือได้ ทำให้เสียการเรียน
การปวดประจำเดือนของสาวรุ่นนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการบีบรัดตัวของมดลูกที่รุนแรง จนเกิดการปวดมดลูกเวลามีประจำเดือน การปวดประจำเดือนแบบนี้จะปวดเหมือนมีอะไรมาบีบ บริเวณท้องน้อยตรงกลาง ปวดเป็นพักๆ เมื่อประจำเดือนหมดก็จะหายไปได้เอง
บางคนอาจจะมีอาการท้องเสีย เป็นลม หน้ามืด และมีอาการหงุดหงิดร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งเป็นอาการที่ฮอร์โมนเพศหญิงเกิดการไม่สมดุลในช่วงเวลาดังกล่าว
การแก้ไขหรือ...ง่ายมาก เพียงหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอเท่านั้น ก็จะมีการหลั่งสารที่เรียกว่า "เอ็นโดฟิน" ออกมา สารตัวนี้จัดเป็นยาแก้ปวดที่ดีมาก และสามารถแก้ปวดได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะปวดศีรษะไมเกรนหรือปวดกล้ามเนื้อ ปวดประจำเดือน การออกกำลังกายนี้สามารถออกได้ตลอดเดือน ไม่ต้องเว้นตอนมีประจำเดือน และออกกำลังกายแบบใดก็ได้ที่ชื่นชอบ
ถ้าไม่หายจริงๆแล้ว คงจะต้องไปพึ่งคุณหมอเสียแล้วละครับ เมื่อคุณหมอตรวจแล้วพบว่า ไม่ได้มีสาเหตุอื่นอีก ก็จะได้ยาแก้การปวดประจำเดือนโดยเฉพาะมารับประทาน และถ้ารักษาด้วยยาแก้ปวดเฉพาะแล้วยังไม่หายปวดประจำเดือนก็อาจจะได้ยาเม็ดคุมกำเนิด ชนิดเม็ดรวมมารับประทานแทน
เนื่องจากการปวดประจำเดือนนั้น มักจะปวดในรอบเดือนที่มีการตกไข่ การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดจะไปยับยั้งการตกไข่ ทำให้การปวดประจำเดือนน้อยลงมาก หรืออาจจะหายไปก็ได้ แต่ไม่ควรซื้อหามารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาคุณหมอก่อน และไม่ควรจะรับประทานนานเกินไป จะนานเท่าใดควรจะอยู่ในดุลพินิจเป็นรายๆ ไป
ที่จริงการปวดประจำเดือนเป็นปัญหาของลูกผู้หญิงอยู่แล้ว
 ปัญหาของความรักในวัยเรียน
ที่จริงปัญหาของความรักในวัยเรียน ดูเหมือนจะเป็นปัญหาของพ่อแม่มากกว่าปัญหาของวัยรุ่น เพราะพ่อแม่ทั้งหลายมักจะกลัวว่าลูกๆจะไปทำอะไรที่เกินงาม ก่อนที่จะถึงเวลาอันควร น่าชื่นใจที่วัยรุ่นส่วนใหญ่นั้น ยังคงคิดถึงความรักของพ่อแม่ที่มีต่อพวกเขา และตั้งใจว่ามีอะไรจะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ก่อนเสมอ รวมทั้งไม่คิดจะชิงสุกก่อนห่าม
เพียงแต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายอย่าลืมว่า คุณเป็นแบบอย่างที่ลูกจะประพฤติปฏิบัติตาม ดังนั้นคุณพ่ออย่าลืมทำตัวเป็นสุภาพบุรุษและคุณแม่ทำเป็นสุภาพสตรีด้วย นะครับ
เนื่องจากการสอนด้วยการกระทำ ย่อมดีกว่าคำพูดเสมอ
น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์
ที่มา : www.clinicrak.com



โดย : นาง บุญเมฆ ภมรสิงห์, โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ, วันที่ 27 เมษายน 2545