สมบัติชาเขียว


ชาเขียวมีดีตรงไหน
ชาเขียวเป็นที่นิยมดื่มมาตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวจีนดื่มชากันอย่างแพร่หลายกว่าพันปี จนปัจจุบันได้เป็นที่รู้จักและนิยมดื่มกันทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์พบว่าคนที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำมีโอกาสป่วยเป็นโรคหัวใจ มะเร็ง และความดัน น้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มเป็นประจำ อาจารย์สมศรี เจริญเกียรติกุล จากสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในชาเขียวมีสารสำคัญอยู่หลายตัวทั้ง คาเทซิน คลอโรฟิลล์ คาเฟอีน เบตาแคโรทีน แต่ที่มีความสำคัญคือ คาเทซิน เพราะว่ามีความสามารถในการต้านการออกซิเดชั่น ซึ่งจะลดความเสี่ยงในการเกิดอนุมูลอิสระซึ่งจะเข้าไปทำลายเซลล์ในร่างกาย และเมื่อเซลล์ถูกทำลายจะส่งผลทำให้เกิดโรคหัวใจ มะเร็ง รวมถึงความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ

แต่ถึงจะมีการศึกษาวิจัยต่างๆ มากมายที่ระบุว่าชามีสมบัติในการต้านการเกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง เช่น ที่สถาบันวิจัยในประเทศจีนพบว่า สาร EGCG ซึ่งเป็นส่วนประกอบในคาเทซิน สามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งในหนูทดลอง ที่ฉีดสารกระตุ้นให้เป็นมะเร็งถึง 50% แต่การทดลองอีกแห่งหนึ่งพบว่าการ EGCG เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในสัตว์อีกชนิดหนึ่ง เพราะความสลับซับซ้อนของเอมไซม์และฮอร์โมนของสัตว์ที่แตกต่างกัน ซึ่งทางวงการวิทยาศาสตร์ต้องพยายามหาข้อสรุปผลที่จะเกิดกับมนุษย์ต่อไป

ส่วนสารสกัดจากชาเขียวที่ผสมลงในขนมหรือเครื่องดื่มต่างๆ นั้น จะมีฤทธิ์ในการควบคุมน้ำหนักเพราะสารคาเฟอีนที่อยู่ในชาจะกระตุ้นให้รู้สึกสดชื่น และใช้พลังงานมากขึ้น ขณะที่ EGCG จะช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด ยับยั้งการสร้างไขมันบางชนิด หรือ LDL ในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตันในเส้นเลือดซึ่งจะนำไปสู่โรคกล้ามเนื้อหัวใจและเซลล์สมองตาย

นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยอื่นๆ ที่พบว่าสาร EGCG มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เจ็บคอและท้องเสีย และยังพบว่าชาเขียวมีฟลูออไรด์ซึ่งทำให้ฟันแข็งแรงมากขึ้น และยังลดกลิ่นปากที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในปากได้อีกด้วย

แม้ว่าชาเขียวจะมีข้อดีอยู่มาก แต่อาจารย์สมศรีได้เตือนว่า การดื่มชามาเกินไปจะมีผลต่อโภชนาการ เพราะชาเขียวจะขัดขวางในการดูดซึมธาตุเหล็ก จึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง หญิงตั้งครรภ์ เด็กในวัยเจริญเติบโต และคาเฟอีนในชาเขียวก็ยังมีผลทำให้นอนไม่หลับด้วย


--------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : สาระสุข, หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ.2545, หน้า 9 /www.viboon.com


โดย : นาง นางมนัสนันท์ เหิรอดิศัย, โรงเรียนวัดนาคนิมิตร, วันที่ 4 มิถุนายน 2545