อันตรายจากยาสีฟัน

กระทรวงสาธารณสุข ๑๒ ก.ย. - พย.
เตือนผู้ปกครองให้ดูแลเด็กขณะแปรงฟัน และใช้ยาสีฟันอย่างถูกต้อง อย่าให้เด็กเผลอกลืนกินยาสีฟันเข้าไปเด็ดขาด เพราะอาจทำให้คลื่นไส้อาเจียน เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ควรให้คำแนะนำเด็ก อย่าหลงเชื่อโฆษณาที่สื่อให้เด็กอยากลิ้มลอง โดยเฉพาะภาพการ์ตูนผลไม้ที่สื่อถึงกลิ่นและรสของผลิตภัณฑ์เพื่อดึงดูดใจเด็ก
ภญ.อังกาบ เวสโกสิทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับการร้องเรียนว่า มีเด็กกินยาสีฟันเข้าไป จนเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ต้องนำส่งโรงพยาบาลเพื่อล้างท้อง อย.มิได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว ได้ตรวจสอบถึงสาเหตุของการกินยาสีฟัน พบว่าเด็กได้รับแรงจูงใจจากโฆษณาทางโทรทัศน์ เชิญชวนให้ใช้ยาสีฟันยี่ห้อนั้น ๆ ที่เน้นกลิ่นหอม สีสวย รสดี ไม่เผ็ด โดยใช้ภาพการ์ตูนผลไม้ต่างๆ สื่อถึงกลิ่นรสของผลิตภัณฑ์ที่กินได้ เพราะหากกินเข้าไปแล้วอาจเป็นอันตราย จนต้องนำส่งโรงพยาบาลดังตัวอย่างข้างต้น
รองเลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า การเลือกซื้อยาสีฟันเพื่อทำความสะอาดในช่องปาก และป้องกันฟันผุนั้น ควรเลือกยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ แต่ถ้าได้รับฟลูออไรด์เข้าสู่ร่างกายในปริมาณ ที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะเด็ก ๆ จะทำให้ฟันเป็นจุดกระดำกระด่างอย่างถาวรได้
ดังนั้น ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดในขณะที่เด็กแปรงฟัน แนะนำวิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง รวมทั้งวิธีใช้ ยาสีฟันอย่างเหมาะสมด้วย โดยเด็กอาจใช้ยาสีฟันหลอดเดียวกับพ่อแม่ได้ แต่ต้องใช้ในปริมาณที่น้อย เช่น ใช้ยาสีฟันขนาดเมล็ดถั่วเขียว หรือป้ายยาสีฟันเพียงบาง ๆ ลงบนแปรงสีฟันเด็ก สำหรับการเลือกซื้อ ยาสีฟันควรสังเกตฉลากก่อนทุกครั้งว่ามีสารควบคุมพิเศษ เกลือหรืออนุพันธ์ของฟลูออไรด์หรือไม่ ผ่านการขึ้นทะเบียนตำรับเรียบร้อยแล้ว ด้วยการมีเลขทะเบียนในกรอบเครื่องหมาย อย. ใกล้กับข้อความ “เครื่องสำอางควบคุมพิเศษ” รวมทั้งมีข้อความจำเป็นอื่น ๆ ครบถ้วน เช่น ชื่อ ชนิด ส่วนประกอบสำคัญ วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต ปริมาณสุทธิ เป็นต้น เพื่อให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และปลอดภัย.
............................................
สำนักข่าวไทย




โดย : นาย ไชยา ภักดีวงศ์, โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย, วันที่ 26 พฤศจิกายน 2544