ขี้ตะกรันทองคำบนท้องถนน

ขี้ตะกรัน หรือสะแหลกดีบุก เกิดจากน้ำแร่และกากแร่ธาตุต่างๆที่ยังถลุงออกไม่หมดเนื่องจากแร่ธาตุเหล่าไม่อาจหลอมละลายภายใต้อุณหภูมิเดียวกันกับดีบุก จึงถูกคัดทิ้งเมื่อเย็นลงจะจับตัวแข็งเกาะเป็นก้อน มีรูปทรงสีสันต่างๆกัน ขี้ตะกรันหรือสะแหลกดีบุกเหล่านี้มีแร่แทนทาไลต์ ( Tantalite ) ผสมอยู่ ซึ่งเป็นแร่ยุทธปัจจัยที่ใช้สำหรับทำยานอวกาศหรือหัวจรวดนำวิถีและขีปนาวุธต่างๆ ด้วยมีคุณสมบัติพิเศษตรงที่ทนต่อความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้เสียดสีของอากาศได้สูงมาก จึงมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 60-70 บาท สมัยที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ( คอซิมบี้ ) ได้กะเกณฑ์ให้เจ้าของเหมืองทำถนนหนทางแลกเปลี่ยนกับการสัมปทานขุดแร่ บรรดาเหมืองต่างๆได้ขนสะแหลกดีบุกที่กองทิ้งเกะกะบริเวณเตาหลอมมาถมถนน



หรือเอาไปถมที่สำหรับปลูกบ้านเรือน บ้านโบราณหลังใหญ่ๆและถนนแถบทุกสายในเมืองภูเก็ตหรือเมืองตะกั่วป่าจึงสร้างทับสะแหลกดีบุกไปโดยปริยายเหตุนี้ราวปี พ.ศ. ๒๕๒๑ บรรดานายทุนต่างๆจึงได้ยื่นประมูลต่อทางการขอขุดถนนเก่าทุกสายภายในตัวเมืองภูเก็ต โดยมีข้อตกลงว่าเมื่อขุดเสร็จแล้วจะสร้างถนนใหม่ชดไช้ให้ นับเป็นการประมูลที่แปลกประหลาด หรือบ้านที่สร้างอยู่บนถลุงที่มีขี้ตะกรันฝังอยู่มาก ก็จะถูกรื้อหรือถูกทุบทิ้งเพื่อขุดเอาขี้ตะกรันดังกล่าว ปรากฏการณ์แตกตื่นขี้ตะกรันทำให้คนภูเก็ตแห่กันขุดถนน หรือแม้แตุขุดพื้นบ้านของตัวเองเป็นการใหญ่ ถึงกับทำให้ถนนทรุดบ้านถล่มจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ว่ากันว่าขี้ตะกรันทำให้คนภูเก็ตรวยไปตามๆกัน มีทั้งที่ขุดขายเองหรือรับจ้างขุด กรรมกรรับจ้างขุดขี้ตะกรันได้ค่าแรงวันละ ๑๘๐ บาท ต่อมามีการประท้วงและเผาโรงงานแทนทาลั่ม และขุดหาขี้ตะกรันได้น้อยลง ปรากฏการณ์แตกตื่นจึงน้อยลงไปในที่สุด

ที่มา : หนังสืออดีตของภูเก็ต



โดย : นาย ณัฐกร พินโน, โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย, วันที่ 1 มกราคม 2545