รูปปั้นเทพเจ้าซีอุส

ที่มีขึ้นในปัจจุบันนี้ถือกำเนิดในประเทศ กรีซ โดยชาวกรีกจัด Olympic Games ให้เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่เทพเจ้า Zeus โดยที่ในระหว่างที่ประเทศสงบไม่มีสงครามนั้นจะมีนักกีฬามาจาก Sicily,Syria, Asia Minor และ Egypt มาร่วมแข่งขันและร่วมบูชาเทพเจ้า Zeus ซึ่งกษัตริย์แห่งเทพทั้ง ปวง ปัจจุบัน รูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Olympia ในประเทศ Greece ชาวกรีกมีปฏิทินเป็นของตัวเองตั้งแต่ 776 ปีBC ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ Olympic games ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยรูปปั้นของเทพเจ้า Zeus นั้นถูกออกแบบโดย สถาปนิกนาม Libon และสร้างเสร็จเมื่อ 450 BC แต่ต่อมารูปแบบของรูปปั้นที่สร้างขึ้นในตอนแรกไม่ดีพอจึงมีการสร้างขึ้นใหม่โดย ช่างแกะสลักชาวกรีก Pheidias โดย Pheidias ได้คิดวิธีแกะสลักแบบใหม่ขึ้นมาโดยใช้ไม้เป็นโครงและใช้แผ่นงาและแผ่นโลหะ ปิดที่ผิวนอก โดยเมื่อสร้างเสร็จแล้ว มีความสูงถึง 13 m (ประมาณตึก 4 ชั้น)ซึ่งเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายแต่ต่อมาเมื่อมีการยกเลิก Olympic Games ทำให้วิหารที่เก็บรูปปั้นแห่งนี้ถูกปิดไปในปี AD 391



วิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพธิดาแห่งการล่าและสัตว์ป่า "Artemis" วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง
Euphesus ประเทศ Turkey วิหารแห่ง artemis ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 550 BC ในสมัยของกษัตริย์ Croesus แห่ง Lydia และออกแบบโดย สถาปนิกชาวกรีก Chersiphron โดยภายในตกแต่งด้วยรูปปั้นทองแดง ซึ่งแกะสลักโดยนักแกะสลักชื่อดังในสมัยนั้นได้แก่ Pheidias,Polycleitus, Kresilas และ Phradmon โดยวิหารแห่งนี้เป็นทั้งสถานที่ชุมนุมและสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา วิหารแห่งนี้ถูกเผาโดยชายคนหนึ่งนามว่า Herostratusซึ่งเขาต้องการจารึกชื่อของเขาในประวัติศาสตร์
ซึ่งวันวันนั้นเป็นวันเดียวกับที่ Alexander เกิด (21 กรกฎาคม 356BC) โดยมีนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกชื่อว่า Plutarch กล่าวว่าเทพธิดา Artemis กำลังยุ่งอยู่กับการเกิดของ Alexander จึงไม่สามารถไมไปดับไฟที่วิหารได้ ซึ่งต่อมาวิหารก็ได้ถูกบูรณะขึ้นแต่หลังจากที่ศาสนาคริสต์แพร่หลายใน Euphesus ชาวเมืองก็เลิกเลื่อมใสใน เทพธิดา Artemis จึงทำให้วิหารทรุดโทรมและล่มสลายไปในที่สุด




ปัจจุบันตั้งอยู่ในเมือง Giza ประเทศ Egypt ตามความเข้าใจของคนทั่วไปแล้วอาจจะคิดว่าเป็นพีระมิดทั้ง 3 ปิระมิด (Khufu, Khefre และ Menkaure) ที่อยู่ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แต่ในความเป็นจริงแล้วเฉพาะ Great pyramid of Khufu (Cheops)เท่านั้นที่อยู่ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ปิระมิดเป็นสิ่งที่เก่าแก่ที่สุดและยังอยู่มาถึงปัจจุบันอีกด้วย โดย Pharoah Khufu แห่งอียิปต์ได้สร้างไว้เพื่อไว้เก็บศพของตนเองเมื่อตายไปโดยเป็นประเพณีของชาวอิยิปต์ที่จะสร้างปิระมิดไว้เพื่อให้กษัตริย์ของพวก
เขากลับมาเกิดในปิระมิดอีกครั้งเมื่อตายไป การสร้างปิระมิดนั้นคาดว่าใช้เวลาสร้างแต่ละปิระมิดถึง 20 ีมีหลายแนวความคิดในการสร้างปิระมิดโดยมีทั้งการใช้พื้นเอียงแล้วทาโคลนลงไปเพื่อให้ขนย้ายได้สะดวก หรือแม้กระทั่งใช้คานในการขนส่ง ในตอนแรกที่สร้างนั้น มีความสูงถึง145.75 m แต่หลายปีต่อมาก็ถูกกัดกร่อนและมีความสูงลดลงเหลือประมาณ 135 m ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกอยู่ถึง 4300 ปี ด้วยกันจำนวนหินทั้งหมดที่ใข้ในการก่อสร้างคาดว่ามีถึง 2 ล้านก้อนด้วยกันซึ่งแต่ละก้อนก็มีน้ำหนักมากกว่า 2 ตันซึ่งมีการคาดว่าจำนวนหินทั้งหมดที่ใช้ในการสร้างปิระมิด 3 ปิระมิด สามารถนำมาสร้างกำแพงสูง 3 m หนา1 ft รอบประเทศฝรั่งเศสได้ทีเดียว




น้ำตก ผัก ผลไม้ สัตว์ต่างๆ นี้อาจจะเป็นภาพในความคิดของคนหลายๆคนเกี่ยว สวนลอยแห่งนี้แต่ในความเป็นจริงแล้วมันอาจเป็นเพียงแค่จินตนาการของกวีและนักประวัติศาสตร์ ! สาเหตุที่ผู้คนส่วนใหญ่คิดดังนี้ นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่ให้ความเห็นว่า ทหารของกษัตริย์ Alexander ได้มาถึง Mesopotamia และมาถึงอาณาจักร Babylon ที่รุ่งเรือง เมื่อพวกเขากลับไปก็ไปเล่าให้ผู้คนฟังถึง สวนลอยที่สวนงาม ต้นปาลม์ พระราชวัง หอบาเบล ทำให้กวีและนักประวัติศาสตร์จินตนาการไปต่างๆนาสวนลอยแห่งนี้ตั้งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำ Euphrates ซึ่งอยู่ห่างจากเมือง Baghdad เมืองหลวงของประเทศ อิรัก ประมาณ 50 Km อาณาจักร Babylon เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยของกษัตริย์ Hammurabi (ประมาณ 1750 ปีBC) แต่นั่นยังไม่ใช่สุดสูงสุดของอาณาจักรนี้ ในสมัยของกษัตริย์ Naboplashar(ประมาณ 625 ปีBC) ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของอาณาจักรนี้อย่างแท้จริง โดยลูกชายของกษัตริย์ Naboplashar ที่ชื่อว่า Nebuchadnezzar ที่ 2 เป็นผู้ก่อสร้างสวนลอยแห่งนี้ โดยมีการกล่าวกันว่า สร้างให้กับ ราชินี หรือ นางสนมของเขา เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

แหล่งที่มา
www.sanook.com


โดย : นางสาว ่manapat janopast, 4/3klonglaung pratumtane13180, วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2545