สตรีที่โลกไม่เคยลืม


ท่านคงเคยได้ยินได้ฟังคำพังเพยที่ว่า “เปลก็ไกว ดาบก็แกว่ง”นั่นเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความสามารถทั้งการบ้านและการเมืองของสตรี อยู่บ้านก็เป็นแม่บ้าน ทำงานบ้านดูแลลูก ยามเกิดศึกสงครามก็ไม่ยอมแพ้ลุกขึ้นจับดาบช่วยผู้ชายต่อสู้กับข้าศึกที่รุกรานประเทศชาติ ในประวัติศาสตร์ได้มีการบันทึกวีรกรรมของท่านเหล่านั้นไว้มากมาย ซึ่งเป็นสิ่งเตือนใจไทยรุ่นหลังให้มีความสำนึกว่าเอกราชของชาติเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต พร้อมที่จะเสียสละชีพเพื่อชาติได้ตลอดเวลาสตรีผู้นั้นก็คือ ท้าวสุรนารี แห่งเมืองโคราชนั้นเอง


ท่านเป็นสตรีผู้มีความชาญฉลาดในกลวิธีการศึก สามารถรวมกำลังชาวนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยเอาชนะทัพจากเวียงจันทน์ รวมกำลังเพื่อทำให้แผ่นดินไทยส่วนที่ติดกับลาว รอดพ้นจากเงื้อมมือของข้าศึกได้ ท่านได้รับความทุกข์เวทนายิ่งนักในขณะที่เดินทาง แต่จิตใจท่านแข็งแกร่ง และความคิดที่ เฉลียวฉลาด ท่านได้สลัดความทุกข์ยาก คิดสู้ข้าศึกโดยวางแผนที่แยบยล ยากที่จะมีผู้ใดเสมอเหมือน คุณหญิงโมได้ปลอบประโลมชาวไทยให้พร้อมใจกัน สามัคคีกัน เสียสละเพื่อแผ่นดิน ซึ่งท่านมีหลานสาวคนหนึ่งชื่อบุญเหลือ เป็นผู้ช่วยต่อต้านข้าศึกในครั้งนั้น คุณหญิงโมคุมการรบจนกระทั่งเกือบรุ่งสาง และในที่สุดก็สามารถเอาชนะข้าศึกได้สำเร็จ
วีรกรรมที่คุณหญิงโมและชาวนครราชสีมาได้เป็นที่เลื่องลือ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้คุณหญิงโม เป็น ท้าวสุรนารี วีรสตรีของชาติ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดนานมาแล้วกว่า 165 ปี แต่ความดีของสตรีผู้นี้ก็ยังดังก้องอยู่ในใจคนไทยตราบจนวันนี้ เรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้คนไทยทั่วไปได้ระลึกอยู่เสมอว่า ชีวิตคนเรานั้นสิ่งที่ยังคงเหลือไว้ประดับโลกก็คือความดีงามเท่านั้น
ดังโคลงโลกนิติของกรมพระยาเดชาดิศร ที่ว่า
โคควายวายชีพได้ เขาหนัง
เป็นสิ่งเป็นอันยัง อยู่ไซร้
คนเด็ดดับสูญสัง ขารร่าง
เป็นชื่อเป็นเสียงได้ แต่ร้ายกับดี

สรุปความจากนารีผู้มีคุณ เล่ม 6 ของ สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ


โดย : นาง สวิน ยมหา, วัดป่าประดู่, วันที่ 15 มกราคม 2545