อเล็กซานเดอร์ แกรแฮม เบลล์

ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์คนแรก ในปี 1876 อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบอล์ ได้ประดิษฐ์โทรศัพท์ ก่อนมีการประดิษฐ์โทรศัพท์มีการใช้โทรเลขไฟฟ้าเพื่อส่งข่าวสารไปตามสถานที่ห่างไกล เบลล์เป็นชาวสก็อตที่เกิดในเอดิเบิร์ก ในช่วงเวลาฝนการประดิษฐ์ของเขา เขาได้อพยพไปยังสหรัฐอเมริกาและเป็นศาสตราจารย์ที่มหาลัยบอสตัน ในช่วงเวลาการประดิษฐ์ของเขา เขาได้รับเครดิตในการผลิตไมโครโฟน เบลล์ยังมีความสนใจเป็นอย่างมากในการศึกษาของคนหูหนวก โทรศัพท์ของเบลล์เป็นเครื่องแบบง่าย ๆ เมื่อพูดเข้าไป ลิ้นของมันจะสั่นสะเทือนลิ้นดังกล่างตั้งอยู่ใกล้แม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเปลี่ยนการสั่นสะเทือนเข้าสู่กระแสไฟฟ้าต่าง กระแสจะไหลไปตามสายโทรศัพท์ไปยังผู้รับ แม่เหล็กสั่นสะเทือนลิ้นของโทรศัพท์ผู้รับ ทำให้ได้ยินเสียง ในการลองโทรศัพท์ในตอนต้นๆ ของเบลล์ มีแต่ได้ยินเสียงพึมพำเท่านั้น ในวันที่ 10 มีนาคม 1876 เบลล์สามารถผลิตคำที่ชัดเจน วัตสัน ผู้ช่วยของเขาซึ่งอยู่ห้องถัดไป ได้ยินคำของเบลล์อย่างชัดเจนจากโทรศัพท์ ต่อมาในปี 1876 เบลล์ได้สาธิตต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกกับโทรศัพท์ของเขาที่ Centenial Exposition ในฟิลาเดลเฟีย ผู้ส่งและผู้รับอยู่ห่างกันประมาณ 150 เมตร ในระหว่างปี 1877-1878 เบลล์เดินทางทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกาเพื่อส่งเสริมโทรศัพท์ของเขา เขายังได้แสดงให้พระนางวิตอเรียที่คฤหาสน์ของพระนาง พระราชินีทรงโปรดมากและได้รับสั่งให้เบลล์เอาโทรศัพท์ไปติดตั้งให้กับพระนาง การแลกเปลี่ยนการสนทนาได้เกิดขึ้นในปี 1878 ในนิวฮาเวน รัฐคอนเนคติคัท ในสหรัฐอเมริกา คนที่มีโทรศัพท์สามารถเชื่อมกับโอเปอเรเตอร์ที่นั่งอยู่ในแผงสายโทรศัพท์และเคลื่อนไหวคันโยกเพื่อติดต่อกับสายต่างๆ ในปี 1884 บริษัทโทรศัพท์ของเบลล์เองได้ติดตั้งสายทางไกลเป็นครั้งแรก จากบอสตัน สู่นิวยอร์ก ซึ่งมีระยะทางประมาณ 480 กม. ปัจจุบันมีโทรศัพท์มากกว่า 400 ล้านเครื่องในโลกและคนสามารถพูดคุยกันได้เกือบจะทันทีทันใด เครือข่ายของโทรศัพท์มีความสำคัญต่อประเทศธุรกิจและเอกัคตบุคคลเช่นเดียวกัน สายโทรศัพท์ปัจจุบันไม่เพียงแต่น้ำเสียงเท่านั้น แต่ยังนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ โทรสาร และโปรแกรมโทรทัศน์ อีกด้วยระบบได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยและขยับขยายอยู่เสมอและค้นหาการใช้ใหม่ๆ
--------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : ชุลีพร สุสุวรรณ, โลกน่ารู้ ชุด นักวิทยาศาสตร์, (กรุงเทพมหานคร : อักษราพิพัฒน์)


โดย : นาย angkhana pakwan, สถาบันราชภัฏเพรชบุรี, วันที่ 29 มกราคม 2545