การเคลื่อนไหวของพืช

การเคลื่อนไหวของพืชในพืชเราจะไม่พบการเคลื่อนที่จากตำแหน่งหนึ่งไปอีกตำแหน่ง หนึ่ง แต่ก็จะพบว่ามีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. การเคลื่อนไหวเนื่องจากการเจริญเติบโต (growth movement) ในขณะที่พืชมีการเติบโตจะพบว่ามีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น ซึ่งแบ่งออกได้ย่อยๆ คือ 1.1 การเคลื่อนไหวอัตโนวัติ (autonomic movement) การเคลื่อนไหวแบบนี้เกิดขึ้นจากสิ่งเร้าภายใน คือ ฮอร์โมนออกซิน โดยทิศทางของการเคลื่อนไหวไม่เป็นผลเกี่ยวข้องมาจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น การเคลื่อนไหวที่เกิดเฉพาะส่วนยอดของพืชบางชนิดเห็นได้ชัดในต้นถั่วขณะเจริญเติบโตบริเวณยอดจะแกว่งวนเป็นวง หรือโยกไปมา ซึ่งเรียกว่า "นิวเตชัน" (nutation)ในพืชบางชนิดขณะเจริญเติบโต ลำต้นจะบิดเป็นเกลียวไปช้าๆ และเกิดเป็นเกลียวถาวร เรียกว่าการเคลื่อนไหวแบบสไบรอล (spiral movement) หรือ เซอร์คัมนิวเตชั่น (circumnutaion) พบในลำต้นของพืชพวกเถาวัลย์,ตำลึง,บวบ,ฟักทอง เป็นต้น

1.2 การเคลื่อนไหวพาราโซนิก (paratonic movement) การเคลื่อนไหวของพืชแบนี้เกิดจากสิ่งเร้าภายนอกมากระทำให้มีการเจริญเติบโตไม่เท่ากัน จึงเกิดการเคลื่อนไหวขึ้น ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้มีทั้งแบบที่มีทิศทางไม่สัมพันธ์กับทิศของสิ่งเร้า เรียกว่า การเคลื่อนไหวแบบนาสติก (nastic movement)และแบบที่มีทิศสัมพันธ์กับทิศของสิ่งเร้า เรียกว่า ทรอปิซึม (tropicism movement) - การเคลื่อนไหวแบบนาสติก (nastic movement) ได้แก่ การบานของดอกไม้ การคลี่บานของใบหุ้มตาอ่อน เนื่องจากสิ่งเร้าภายนอกมากระตุ้น ได้แก่ แสง เรียกว่า โพโตนาสตี้ และอุณหภูมิเรียกว่า เทอร์โมาสตี้ ในกรณีที่ดอกไม้หุบ เนื่องมาจากกลุ่มเซลล์ด้านนอกขยายมากกว่าด้านในจะทำให้ดอกไม้หุบ (hyponasty)

-การเคลื่อนไหวแบบทรอปิซึม (tropicism movement) เป็นการเคลื่อนไหวที่มีทิศทาง ตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกอย่างมีทิศทางสัมพันธ์กับทิศของสิ่งเร้าแน่นอน ได้แก่ ก. โพโตทรอปิซึม (phototropism) เป็นการเคลื่อนไหวโดยพืชโค้งเข้าหาแสง โดยเฉพาะพืช ที่ได้รับความเข้มของแสงไม่เท่ากันทุกด้าน พืชจะโค้งไปทางด้านที่มีความเข้มของแสงมากกว่า ข. จีโอทรอปิซึม (geotropism) เป็นการตอบสนองของพืชต่อความโน้มถ่วงของโลกโดยที่รากจะเจริญไปในทิศทางเดียวกับความโน้มถ่วงของโลก แต่ลำต้นจะเจริญในทิศทางตรงกันข้ามกับความโน้มถ่วงของโลกเสมอ www.rb.ac.th/student/movingoflive/l11.htm

โดย : นาย rangsun sodsaithong, 4/3 Klonglaung Prathumtanee 13180, วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2545