สารอินทรีย์แและสารอนินทรีย์


กฤษณา ชุติมา.สุญญากาศ.”รู้ไว้ใช่ว่า ประสาวิทยาศาสตร์ เล่ม 2”.กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2541.

สารจำพวกแร่ ธาตุโลหะและอโลหะ หิน ดิน ทราย เป็นต้น เมื่อบอกว่าเป็นสิ่งไม่มีชีวิตก็พอเข้าใจได้ไม่ยาก ส่วนพวกสารอินทรีย์นั้นมีอยู่ในสรรพสิ่งทีมีชีวิต ได้แก่ พืช สัตว์ รวมทั้งคน เราถือว่าสิ่งมีชีวิตเจริญเติบโตได้ มีการเปลี่ยนแปลงขยายพันธ์ทางธรรมชาติ ส่วนสิ่งไม่มีชีวิต เช่น โลหะ ทองแดง หรือก้อนหิน ไม่เติบโตไปจากเดิม พวกผลิตภัณฑ์ และส่วนของพืชและสัตว์ เช่น นม กิ่งไม่หัก มะม่วง น้ำตาล ซึ่งแกตัวออกมา จากวัว ต้นไม้ต้นมะม่วง ต้นอ้อย แล้ว ก็ยังจัดว่าเป็นสารอินทรีย์ด้วย สิ่งโสโครก ขยะอาหาร ของเสียจากบ้านเรือนล้วนเป็นสารอินทรีย์ กรดกำมะถันได้จัดเป็นสารอนินทรีย์ แต่กรดไขมันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไขมันสัตว์ไขมันพืชนับเป็นสารอินทรีย์ เมื่อประมาณ 200 ปีมาแล้ว นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่าสารอินทรีย์มีพลังชีวิตที่สารอนินทรีย์ไม่มี และคนสร้างพลังชีวิตไม่ได้ ดังนั้นจึงทำสารอินทรีย์ไม่ได้ จนกระทั่ง พ.ศ. 2371 นักเคมีเยอรมันชื่อ ฟรีดริช เวอร์เลอร์ ได้ทำลายความเชื่อนั้นโดยสิ้นเชิง เพราะเวอเลอร์สามารถทำยูเรีย ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่พบในปัสสาวะ ได้จากสารอนินทรีย์ คือ กรดไซยานิกกับแอมโมเนีย ต่อมาเมื่อนักวิทยาศาสตร์ศึกษาส่วนประกอบของสารอินทรีย์ซึ่งมีอยู่ใน หรือมาจากสิ่งมีชีวิต ล้วนประกอบด้วยธาตุสำคัญ 4 อย่าง คือ คาร์บอน โฮโดรเจน ออกซิเจน และไนโตรเจน โดยมีคาร์บอนเป็นธาตุหลัก



โดย : นางสาว chaowanee thammakhankaew, สถาบันราชเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2545