หูฉลามแค่อร่อยลิ้น คุ้มกันแล้ว

http://www.samukkee.org/magazine/
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีเรื่องราวเกี่ยวกับการล่าฉลามเพื่อตัดครีบมาทำอาหารค่อนข้างเป็นที่สนใจ ความเป็นจริงแล้วมีการเคลื่อนไหวเพื่องดบริโภคหูฉลามเป็นระยะเวลานานพอสมควร สายการบินหลายแห่งรวมทั้งสายการบินไทย งดบริการอาหารชนิดนี้บนเครื่องบินแล้ว แต่การบริโภคหูฉลามก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ในคนบางกลุ่ม และยังมีการโฆษณาส่งเสริมการขายของร้านอาหารบางแห่งด้วย บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่องดบริโภคหูฉลาม เพื่อยุติการล่าฉลามอย่างทารุณและทำลายสภาพแวดล้อม

ฉลามถูกมองว่าเป็นสัตว์อันตรายมาเป็นเวลานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะหลังมานี้มีภาพยนต์หลายเรื่องที่เสนอเรื่องราวความดุร้ายของฉลาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฉลามแทบไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์เลย ความเสี่ยงที่มนุษย์จะถูกฉลามทำร้ายนั้น น้อยกว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างเทียบไม่ได้ และน้อยกว่าโอกาสที่จะโดนฟ้าผ่าด้วย ฉลามจะไม่ทำร้ายคนแม้ว่าจะมีการเผชิญหน้าก็ตาม ยกเว้นในกรณีพิเศษที่ฉลามจะถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยอื่น

ฉลามเป็นปลาทะเลที่อยู่บนยอดสุดยอดหนึ่งของห่วงโซ่อาหาร เป็นสัตว์ที่เกิดมาเพื่อเป็นนักล่าที่สมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับที่เสือเป็นนักล่าบนพื้นดิน ต่างกันที่ฉลามจะเลือกโจมตีเหยื่อที่อ่อนแอหรือบาดเจ็บมากกว่าที่จะโจมตีเหยื่อที่แข็งแรงและคล่องแคล่ว มีผู้เปรียบฉลามไว้ว่า เหมือนถังขยะของท้องทะเล คอยกำจัดสัตว์ทะเลที่อ่อนแอไม่สมควรที่จะอยู่ได้ในธรรมชาติออกไป ฉลามจึงมีส่วนสำคัญในการรักษาสมดุลของธรรมชาติ

ฉลามอุบัติขึ้นมาในโลกเมื่อประมาณ 400 ล้านปี และได้วิวัฒน์เรื่อยมาจนมีรูปร่างอย่างในปัจจุบันเมื่อ 200 ล้านปีมาแล้ว ถือได้ว่าเป็นวิวัฒนาการที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดแบบหนึ่ง ที่สามารถดำรงเผ่าพันธุ์มาได้โดยแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย ฉลามเป็นปลาที่มีโครงสร้างเป็นกระดูกอ่อนทั้งหมดโดยมีส่วนที่แข็งเพียงสองอย่างคือฟันและเกล็ด ฟอสซิลของฉลามที่พบ จะเป็นเพียงส่วนฟันเท่านั้น

เกล็ดของฉลามเป็นเกล็ดชนิดที่เรียกว่า Placoid มีลักษณะเหมือนหนามแข็งที่ชี้เฉียงไปด้านท้ายลำตัวของฉลาม ผิวของฉลามจึงหยาบและคม ในสมัยหนึ่งมนุษย์เคยใช้หนังฉลามเป็นกระดาษทราย เกล็ดของฉลามจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามขนาดของตัวฉลาม นั่นคือเกล็ดจะไม่เพิ่มขนาดขึ้นเมื่อฉลามโตขึ้น แต่จะมีมากขึ้นแทน

ฟันของปลาฉลามก็มีลักษณะพิเศษคือ ไม่ได้เป็นฟันที่มีรากฟันลึกลงไป แต่เชื่อกันว่าเป็นลักษณะหนึ่งของเกล็ดที่ขยายใหญ่และตั้งขึ้น ฟันของปลาฉลามจะเรียงกัน 3-4 แถว ซึ่งเมื่อหักจากการล่า ฟันซี่หลังจะเลื่อนขึ้นมาทำหน้าที่แทน

ฉลามเป็นปลาที่ไม่มีถุงลม (กระเพาะปลา) สำหรับการลอยตัวในน้ำเหมือนปลาชนิดอื่น แต่ฉลามมีตับขนาดใหญ่ที่มีไขมันจำนวนมากที่ช่วยให้ความหนาแน่นเฉลี่ยของฉลามหนักกว่าน้ำเพียงเล็กน้อย

ฉลามมีหัวใจที่สูบฉีดเลือดที่ความดันค่อนข้างต่ำ การออกแรงว่ายน้ำจึงมีส่วนช่วยในการสูบฉีดโลหิตไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ประกอบกับฉลามมีเหงือกที่ไม่มีกล้ามเนื้อสำหรับพัดน้ำให้ไหลผ่านเหงือกแบบปลาทั่วไป การว่ายน้ำจึงเป็นการช่วยเพิ่มอัตราการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในกระแสเลือดด้วย ฉลามจึงเหมือนถูกสาปให้ต้องว่ายน้ำอยู่เกือบตลอดเวลาของชีวิตของมัน ฉลามที่ติดอวนจะจมน้ำตายในเวลาไม่นาน

แต่อย่างไรก็ตาม หลายครั้งที่มีผู้พบเห็นฉลามนอนอยู่นิ่งๆในที่ที่ไม่มีกระแสน้ำไหลผ่านได้ด้วยเช่นกัน

ฉลามมีประสาทสัมผัสเพื่อการล่าที่ดีมาก ทั้งสายตาที่แยกแยะความแตกต่างของสีได้และไวต่อวัตถุเคลื่อนไหว จมูกที่ไว และมีประสาทสัมผัสพิเศษสำหรับจับการสะเทือนในน้ำที่เกิดจากการดิ้นรนของเหยื่อที่บาดเจ็บ บางครั้งการกระตุ้นที่รุนแรง เช่นการเทเลือดปลาจำนวนมากลงในทะเลเพื่อล่อฉลาม อาจทำให้ฉลามสับสนจนเข้าโจมตีอย่างรุนแรงแม้กระทั่งฉลามด้วยกันเองได้

ฉลามมีช่วงชีวิตประมาณ 25 ปี จะมีบางพันธ์เท่านั้นที่อาจมีอายุยืนเกือบร้อยปี แต่ฉลามก็มีช่วงเจริญพันธุ์ที่ค่อนข้างสั้นและอยู่ในช่วงปลายของชีวิต ฉลามในช่วงเจริญพันธุ์จะพร้อมที่จะผสมพันธุ์ปีละครั้งหรืออาจนานกว่าหนึ่งปีต่อครั้ง และแต่ละครั้งกินเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ฉลามจะตกลูกครั้งละหนึ่งตัวหรือสองสามตัวเท่านั้น จึงเป็นสัตว์ที่มีอัตราการแพร่พันธุ์ที่ค่อนข้างต่ำชนิดหนึ่ง

ปัจจุบันมนุษย์บริโภคฉลามโดยตัดเฉพาะส่วนครีบหูของฉลาม แล้วปล่อยฉลามทั้งตัวลงทะเลให้ตายเอง มีบางส่วนที่นำเอากระดูกของฉลามซึ่งเป็นกระดูกอ่อนมาทำเป็นอาหารเสริมซึ่งมีสรรพคุณเช่นเดียวกับอาหารเสริมทั่วไปคือ ไม่ได้เป็นสารอาหารที่เป็นหลักสำคัญในการดำรงชีวิต และยังสามารถหาแหล่งอาหารอื่นมาทดแทนได้ง่ายด้วย อาหารที่ปรุงจากครีบหูของฉลามจะต้องผ่านกระบวนการต่างๆมากมายจนแทบไม่เหลือสารอาหารไดๆไว้ รสชาติที่ได้ก็ไม่ใช่รสชาติของครีบหูฉลาม แต่เป็นรสของเครื่องปรุงหลายอย่างที่ปรุงขึ้นมา

ยังมีเรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับฉลามที่มนุษย์ยังไม่ได้ศึกษา ฉลามจึงมีคุณค่าต่อธรรมชาติและมนุษย์มากกว่าเพียงรสชาติหรือคุณค่าทางโภชนาการที่ยังไม่เด่นชัด

ฉลามเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มนุษย์ไม่ได้เลี้ยงไว้เพื่อเป็นอาหาร และยังเป็นสัตว์ที่โดนคุกคามจากมนุษย์จนมีจำนวนน้อยลงจนอาจจะกระทบกระเทือนต่อสภาพแวดล้อม อีกทั้งการบริโภคฉลามเพียงเนื้อบริเวณครีบหูเท่านั้น แต่กลับต้องสูญเสียฉลามไปทั้งตัว

การบริโภคฉลามจึงเป็นการรบกวนธรรมชาติอย่างยิ่ง ขณะที่การงดบริโภคฉลามกลับไม่เกิดผลเสียไดๆต่อมนุษย์เลย




โดย : เด็กชาย รุ่งโรจน์ ดาพรม, ราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์, วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2545