มลพิษทางอากาศจากเมืองใหญ่และภาคอุตสาหกรรม สามารถจะหยุดการตกของฝนและหิมะ ทั้งนี้เป็นผลการศึกษาทางดาวเทียม โดยศาสตราจารย์ Daniel Rosenfeld แห่งมหาวิทยาลัย Hebrew เมืองเยรูซาเล็ม
เขาได้ทำการศึกษากระแสการไหลของ Smog ที่เกิดจากโรงไฟฟ้า โรงงานถลุงตะกั่ว และโรงกลั่นน้ำมันผ่านทางดาวเทียม และพบว่าอนุภาคของมลพิษจะไปจับตัวกับหยดน้ำที่จะตกลงมาเป็นฝน จากปรากฏการณ์นี้นับว่าเป็นผลกระทบโดยตรงของมลพิษที่มีต่อฝน
เหตุผลที่มลพิษหยุดการตกของฝนและหิมะนั้นเนื่องมาจากอนุภาคของมลพิษทำให้เมฆกลั่นตัวเป็นหยดน้ำในอนุภาคที่เล็กกว่าปกติ ซึ่งโดยปกติแล้วหยดน้ำที่เมฆกลั่นตัวให้ตกลงมาเป็นเม็ดฝน 1 เม็ด เกิดจากการรวมตัวกันของอนุภาคน้ำที่เกิดในเมฆในสภาพปกติ 1,000,000 เม็ด เมื่ออนุภาคน้ำเกิดในสภาพที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ โอกาสในการเกิดฝน 1 เม็ด จึงต่ำมาก และยิ่งอนุภาคเล็กมาก ยิ่งทำให้การจับตัวที่จุดเยือกแข็งเป็นผลึกน้ำแข็งช้าลง โอกาสที่จะเกิดหิมะก็น้อยลง
มลพิษทางอากาศจากเมืองใหญ่ และภาคอุตสาหกรรม เป็นปัญหาที่มีนัยสำคัญในหลาย ๆ พื้นที่ในโลก ดังนั้นการค้นพบของศาสตราจารย์ Rosenfeld จึงเป็นข้อแนะนำอันก่อให้เกิดปัญหาต่อโลกที่ตนอาศัยอยู่
ในอดีตนักวิทยาศาสตร์ต้องอาศัยการเก็บข้อมูลโดยการใช้เครื่องบิน บินไปศึกษาข้อมูลที่เมฆ เพราะไม่สามารถจำลองการเดินเมฆและฝนในห้องทดลองได้ แต่ในทุกวันนี้เครื่องมือทางดาวเทียมแบบใหม่ๆ สามารถที่จะวัดและศึกษาสภาพของเมฆฝนในพื้นที่กว้างขวางอย่างง่ายดาย
ตัวอย่างเช่น น้ำจะดูดซึมรังสีอินฟาเรดจากดวงอาทิตย์ ยิ่งอนุภาคใหญ่ยิ่งดูดซึมมากและทำให้รังสีดังกล่าวสะท้อนกลับไปสู่อวกาศน้อย ด้วยหลักการนี้ดาวเทียมจะวัดรังสี และเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับเมฆให้แก่นักวิทยาศาสตร์ได้. ( Damian carrington,bbc news Friday,march 10, 2000. )
มลพิษทางอากาศหยุฝน = Air pollution stops rain. วารสาร คพ. 1(5) : 48-49 ; 2544.
|