กว่าจะรู้ก็สายเสียแล้ว

กว่าจะรู้ก็สายเสียแล้ว ..!!

ลลิตา อายุ 42 ปี ก่อนหน้านี้สุขภาพแข็งแรงดีแต่มาระยะหลังเริ่มปวดศรีษะบ่อยครั้งขึ้นโดยหาสาเหตุไม่
ได้ คิดว่าคงคร่ำเคร่งกับงานมากเกินไป เลยทำให้เครียดจนปวดศรีษะ จึงกินยาแก้ปวดบรรเทาอาการ ครั้งสุดท้ายมีอาการมึนงง มีอาการเดินโซเซจนหกล้มเมื่อไปพบแพทย์จึงรู้ว่าตนเองเป็นโรคหลอดเลือดในสมองหรืออัมพาต
สัญญาณอันตรายของโรคในระบบไหลเวียนเลือด
อาการของโรคความดันโลหิตสูง
สัญญาณอันตรายในระยะสุดท้าย
ภาวะความดันโลหิตสูงที่เป็นน้อยหรือปานกลาง มักไม่มีอาการบ่งชี้ชัดเจน แต่เมื่อเป็นมากความดันโลหิตสูงจะไปทำลายอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่นระบบประสาท ตา ไต และหัวใจ จนมีอาการที่สังเกตุได้คือ
* ปวดศรีษะอย่างรุนแรง ตามัว หายใจลำบาก สับสน ปัสสาวะเป็นเลือด
สาเหตุการตาย
* เจ็บหน้าอกร้าวไปถึงคอ ขากรรไกร หลังจนนอนราบไม่ได้
* กระสับกระส่าย คลื่นไส้อาเจียน ชัก เป็นต้น
อาการของโรคหลอดเลือดสมอง ( อัมพาต )
สัญญาณอันตรายสุดท้าย
 ใบหน้า แขน ขา ข้างใดข้างหนึ่ง ชา หรืออ่อนแรงทันที
 ตาข้างใดข้างหนึ่งมัวหรือมองไม่เห็น
 ปวดศรีษะรุนแรงทันทีทันใด โดยหาสาเหตุไม่ได้
 มึนงงโดยไม่สามารถอธิบายได้ โซเซหรือหกล้มทันที
อาการของโรคหัวใจขาดเลือด
สัญญาณอันตรายสุดท้าย
 รู้สึกอึดอัดเหมือนถูกบีบรัด บริเวณกลางหน้าอกประมาน 2-3 นาที
 ปวดร้าวที่หัวไหล่ คอ และแขน
 เวียนศรีษะ เป็นลม เหงื่อออก คลื่นไส้หรือหายใจขัด
ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
สัญญาณอันตรายแรก
สัญญาณอันตรายสุดท้ายของโรคต่างๆที่ได้กล่าวข้างต้น เป็นอาการเจ็บป่วยที่เมื่อรู้ก็สายเสียแล้ว ซึ่งถึงแม้จะได้รับการรักษาอย่างดี ก็ยากที่จะกลับมาปกติสมบูรณ์ จึงเป็นการดีกว่าหากท่านได้รู้จัก
สัญญาณอันตรายแรกของการเกิดโรคระบบหลอดเลือด ซึ่งได้แก่ปัจจัยเสี่ยงต่างๆดังต่อไปนี้
 การมีภาวะความดันโลหิตสูง
 การมีภาวะเบาหวาน
 การมีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน
 การมีญาติสายตรงเป็นโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง ( อัมพาต ) ก่อนวัยอันสมควร ( อายุน้อยกว่า 55 ปี ในผู้หญิงและ 45 ปีในผู้ชาย )











โดย : นางสาว ประพิศ ศักดิ์แก้ว, โรงพยาบาลปลายพระยา, วันที่ 19 พฤศจิกายน 2544