ประเพณีกินเจ


ประเพณีกินเจ ซึ่งชาวภูเก็ตเรียกว่า งานกินผัก หรือ เจี๊ยะฉ่าย จัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ถึง วันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ของจีน ซึ่งตรงกับเดือน 10 ของไทย ประเพณีกินผักเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวภูเก็ตซึ่งได้รับอิทธิพลจากจีน ประเพณีกินผักมีจุดหมายเพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ผู้ร่วมพิธีจะสวมชุดขาว งดการบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่ตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังงดบริโภคผักที่มีกลิ่นฉุนด้วย
ผู้ที่จะกินผักนั้นจะเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดอุปกรณ์ที่จะใช้ประกอบอาหารจนสะอาดหมดกลิ่นคาว หรืออาจจะใช้อุปกรณ์ชุดใหม่ในการประกอบอาหาร ผู้ที่ประกอบพิธีจะไปรับประทานอาหารที่โรงครัวของศาลเจ้า โดยผู้ประกอบพิธีกรรมสมัครใจกิน 3 วัน , 5 วัน หรือทั้ง 9 วันก็ได้ ผู้ที่จะกินผักจะต้องตามไปสักการะเทพเจ้าที่ศาลเจ้า (อ๊าม)
ประเพณีกินผักจะเริ่มต้นด้วยการยกเสาโกเต๊ง (เป็นเสาธงสูง ปลายเสาเป็นไม้ไผ่แขวนตะเกียงน้ำมัน 9 ดวง อันหมายถึง ดวงวิญญาณของกิวอ๋องไตเต คำว่า กิวอ๋อง หมายถึง เทพเจ้า 9 องค์)
ในช่วง 9 วันนี้ จะมีพิธีย่อยๆหลายพิธี ดังนี้
-พิธีบูชาเจ้า มีการบูชาด้วยเครื่องเซ่นทั้งที่อ๊ามและที่บ้านของผู้กินผัก กระทำในวันแรกของพิธี
-พิธีโบกุ้น เป็นพิธีเลี้ยงทหาร จะกระทำในวันขึ้น 3 ค่ำ,6 ค่ำ และ 9ค่ำ หลังเที่ยง มีการเตรียมอาหาร
เหล้า สำหรับเซ่นสังเวยทหารและม้า
-พิธีซ้องเก็ง เป็นการสวดมนต์ จะสวดวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนค่ำ
-พิธีบูชาดาว จะกระทำในคืนวันขึ้น 7 ค่ำ มีการแจก ฮู้ (กระดาษยันต์สีเหลือง)เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้กินผัก
-พิธีแห่พระออกเที่ยว หรือ แห่พระ พระจะออกเดินไปตามท้องถนนเพื่อโปรดสัตว์มีเกี่ยว(เก่ว) หามพระบูชาต่างๆไปตามถนน ในขณะที่ขบวนผ่านชาวบ้านจะตั้งโต๊ะบูชา และจุดประทัดต้อนรับขบวนที่แห่ผ่านมา
-พิธีลุยไฟ (โก๊ยโห่ย) เป็นการแสดงความศักดิ์สิทธิ์ของพระ ที่สามารถบังคับไฟไม่ให้ร้อน และถือว่าไฟจะชำระความสกปรกของร่างกายได้
-พิธีสะเดาะเคราะห์ (โก๊ยห่าน) จะกระทำหลังพิธีลุยไฟ ผู้เข้าร่วมพิธีจะต้องเตรียมสิ่งของต่อไปนี้ คือ กระดาษตัดเป็นรูปตนเองเขียนชื่อกำกับไว้ , ผักกุ๊ยฉ่าย 1 ต้น และเงิน ผู้เข้าร่วมพิธีจะต้องนำสิ่งของเหล่านี้ผ่านผู้เข้าทรง ซึ่งยืนอยู่สองข้างทางเดิน เอาสิ่งของมอบให้ผู้เข้าทรง แล้วผู้เข้าทรงจะประทับตราสีแดง ด้านหลังเสื้อที่สวม ซึ่งเรียกว่า ค้ำยีน
-พิธีส่งพระ กระทำในวันสุดท้ายของการกินผัก โดยตอนกลางวันจะมีการส่งเทวดา หรือ เง็กเซียน ฮ่องเต้ ซึ่งจะส่งกันที่หลังเสาธง ส่วนกลางคืนจะส่งพระกิวอ๋องฮุดโจ้วกลับไปสู่สวรรค์ โดยส่งกลับทางทะเล เมื่อส่งพระออกนอกประตู ตะเกียงที่เสาโกเต๊งจะถูกดับลง และกำลังทหารและม้าจะถูกส่งกลับ เป็นอันเสร็จพิธี



โดย : นางสาว มลฤดี ณ ถลาง, โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย, วันที่ 22 พฤศจิกายน 2544