เริ่มแรกมีล้อ


ปลายศตวรรษที่ 18 มีการประดิษฐ์จักรยานรุ่นแรกๆ ซึ่งเป็นต้นแบบของจักรยานในปัจจุบันขึ้นหลายคัน จักรยานเหล่านั้นดูเหมือนรถสกูตเตอร์ที่มีล้อขนาดใหญ่ 2 ล้อ ผู้ขี่จักรยานมักจะนั่งบนคานที่เชื่อมล้อทั้งสอง เป็นงานหนักทีเดียวที่จะทำให้จักรยานเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ เพราะผู้ขี่จะต้องใช้เท้าทั้งสองดันพื้นไป จักรยานรุ่นแรกๆ นี้เรียกว่า ฮ็อบบีฮอร์ส ( Hobbyhorse ) หรือเวโลซิพีด ( velocipede ) ซึ่งมาจากคำในภาษาละตินที่แปลว่า “เร็ว” และ “การเดิน”
ในค.ศ. 1818 คาร์ล ฟอน ดราอิส ชาวเยอรมันจัดการทำล้อหน้าให้ผู้ขี่สามารถบังคับทิศทางของจักรยานได้ จักรยานที่เขาประดิษฐ์ขึ้นนี้มีชื่อว่า ดราอิสซิเน (draisine) เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ประดิษฐ์



ถึงตอนนี้ จักรยานก็โลดแล่นไปบนถนนแห่งความสำเร็จแท้จริง ใน ค.ศ.1839 ชาวสก็อตชื่อ เคิร์กแพทริก แม็คมิลแลน เพิ่มบันไดถีบเข้าไปโดยมีก้านเชื่อมต่อกับล้อหลัง จักรยานแบบนี้แล่นได้เร็วกว่าจักรยานรุ่นที่เรียกว่า เวโลซิพีด จักรยานมีความเร็วสูงขึ้นโดยการทำล้อหน้าให้มีขนาดใหญ่มาก แต่จักรยานแบบนี้ก็อันตรายเวลาขี่
ก่อนจะถึงค.ศ. 1900 ได้มีการปรับปรุงส่วนประกอบส่วนใหญ่ของจักรยานที่เราใช้กันมาจนชินแล้ว เช่น ปรับขนาดของล้อให้เท่ากัน ปรับปรุงเบรค โซ่ที่ส่งกำลังจากบันไดถีบไปยังล้อหลัง ตลับลูกปืนในล้อและบันไดถีบ และการปรับปรุงให้มีความเร็วหลายระดับ การขี่จักรยานแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งเพื่อความสนุกสนาน เป็นการกีฬาที่จริงจัง และ เป็นการคมนาคมทางหนึ่งด้วย



โดย : นาย เก็ตกาญจน์ สกุลทัพ, โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย, วันที่ 14 พฤศจิกายน 2544