| การใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธี
 
 เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง  ประหยัดไฟ  และยืดอายุการใช้งาน  ควรศึกษาคู่มือก่อนการใช้งาน
 
 ข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยและการใช้งานที่ทนทาน
 
 1. ห้ามตั้งตู้เย็นใกล้แหล่งความร้อน   การตั้งตู้เย็นใกล้เตาไฟ หรือถูกแสงแดดส่องถึงจำทำให้ตู้เย็นต้องทำงานอย่างหนัก
 2. ควรตั้งตู้เย็นในที่ซึ่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก   ไม่ควรตั้งตู้เย็นในที่อับชื้น  ตำแหน่งที่ตั้งตู้เย็นควรมีระยะด้านบน  300  มม.  ด้านข้าง  20  มม.  ด้านหลัง  ห่างจากผนัง   100  มม.   เพื่อสะดวกในการปิดเปิดตู้  และระบายอากาศได้ดี
 3. ระมัดระวังอย่าให้สายไฟชำรุด   ในการติดตั้งตู้เย็นต้องระมัดระวังอย่าให้สายไฟชำรุด  อันเนื่องมาจากตัวตู้ทับสายไฟ  หรือสายไฟถูกปาด   ถ้าสายไฟเกิดชำรุด ต้องแจ้งให้ช่างเปลี่ยนโดยด่วน
 4. อย่าเสียบปลั๊กตู้เย็นร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ   ปลั๊กของตู้เย็นควรแยกออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ  และควรมีอุปกรณ์ตัดตอนป้องกันวงจรไว้ด้วย
 
 การควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมเพื่อประหยัดพลังงาน
 
 เมื่อเริ่มเสียบปลั๊กตู้เย็น  ให้หมุนลูกปิดปรับอุณหภูมิไปยังตำแหน่ง   COLD  หลัง จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ   30  นาที    จากนั้นให้หมุนลูกบิดไปยังระดับอุณหภูมิที่ต้องการ
 หมายเหตุ    ภาวะปกติให้บิดไปที่เลข    3 
 สภาวะที่ต้องการทำน้ำแข็งอย่างรวดเร็วให้บิดไปที่ตำแหน่ง   COLD 
 OFF ไม่ทำงาน , 1-2  เย็นเล็กน้อย ,  3 ปานกลาง , 4-5 เย็นมาก , COLD เย็นจัด
 การละลายน้ำแข็ง
 ถ้าน้ำแข็งหนาจนปกคลุมปุ่มสีแดงในช่องทำน้ำแข็ง  ท่านควรทำการละลายน้ำแข็งได้แล้ว
 1.การละลายน้ำแข็งให้ใช้นิ้วกดปุ่มตรงกลางของลูกบิดปรับอุณหภูมิความเย็น
 2.บางรุ่นให้ทำการปรับลูกบิดไปที่  OFF และเมื่อน้ำแข็งละลายหมดแล้ว  ระบบทำความเย็นจะทำงานเองโดยอัตโนมัติ    แต่มีบางรุ่นหลังจากละลายน้ำแข็งเสร็จแล้ว  ให้บิดลูกบิดกลับไปที่หมายเลขที่ท่านต้องการ  ควรนำถาดออกเทน้ำทิ้งและเช็ดให้แห้งก่อนใส่เข้าจุดเดิม   มีบางรุ่นน้ำที่เกิดจากการละลายน้ำแข็งจะไหลลงถาดน้ำด้านล่างและระเหยไปเองโดยอัตโนมัติ  เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการระเหยน้ำควรถอดออกมาล้างอย่างน้อยเดือนละครั้ง
 
 คำเตือน
 
 1. เมื่อกระแสไฟฟ้าเกิดขัดข้อง  เช่นไฟตก  หรือไฟดับให้รีบถอดปลั๊กตู้เย็นทันที  เมื่อกระแสไฟฟ้าเป็นปกติแล้ว จึงจะเสียบปลั๊กตู้เย็น  การเสียบปลั๊กตู้เย็นอีกครั้งหลังจากที่ถอดปลั๊กแล้ว  ควรทิ้งช่วงระยะเวลาให้ห่างอย่าง น้อย  5  นาที
 2. ห้ามเก็บสี , ยา , สารเคมีและสารไวไฟ  ไว้ในตู้เย็นอย่างเด็ดขาด    เพราะพวกสารเคมีและสารไวไฟมีจุดวาบไฟต่ำ  อาจทำให้เกิดการระเบิดได้  นอกจากนี้สารระเหยจากยาบางชนิดยังทำให้อาหารที่เก็บไว้มีคุณสมบัติเปลี่ยนไป
 3. ห้ามใช้น้ำมันหรือยาฉีด เช็ดตู้เย็น   การใช้น้ำยาฉีดหรือสารเคมีอื่น ๆ ฉีดเช็ดตู้เย็นอาจทำให้ตู้เย็น เกิดรอยด่าง
 4. อย่าแช่ขวดเบียร์, ขวดน้ำอัดลมลงในช่องแช่แข็ง เพราะความเย็นจะทำให้น้ำในขวดแข็งตัว  และจะทำให้ขวดแตกได้
 5. ห้ามใช้มีดหรือของมีคม  งัดแซะน้ำแข็งออกจากช่องแช่แข็งโดยเด็ดขาด  เพราะจะทำให้แผงความเย็นชำรุดได้  หากเกิดความเสียหายดังกล่าว  ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบ เพราะเกิดจากผู้ใช้เอง
 6. ห้ามใช้น้ำราดช่องแช่แข็ง  เพราะจะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วจากระบบไฟฟ้าได้
 7. การเติมน้ำทำน้ำแข็งไม่ควรเติมเกิด 3/4 หรือ 4/5  ของถาด   การเอาน้ำแข็งออกให้บิดถาดที่ปลายทั้งสอง น้ำแข็งจะหลุดออกอย่างง่ายดาย    อย่าโค้งงอที่ตัวถาดอันจะทำให้ถาดแตกได้
 
 วิธีการทำความสะอาดตู้เย็น   ( อย่างน้อยเดือนละ  1  ครั้ง )
 1.ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำสบู่บิดพอหมาด ๆ  แล้วเช็ดตัวตู้ , และที่วางของบนหลังตู้
 2.ใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาด ๆ เช็ดให้หมดคราบสบู่
 3.ใช้ผ้าแห้งเช็ดตัวตู้ให้แห้งอีกครั้ง
 
 เมื่อตู้เย็นขัดข้องก่อนเรียกใช้บริการควรตรวจสภาพความเรียบร้อยด้วยตนเองก่อนดังนี้
 
 ปัญหา					การตรวจเช็ค
 ตู้เย็นไม่ทำงาน			-   ตรวจดูว่ามีไฟที่เต้าเสียบหรือไม่
 -   เสียบปลั๊กแน่นหรือไม่
 -   ฟิวส์หรือเบรคเกอร์ตัดตอนหรือไม่
 เย็นไม่ดี				-   ตรวจดูว่าปรับอุณหภูมิภายในตู้อยู่ในตำแหน่ง
 ต่ำไปหรือไม่
 -   ใส่ของร้อน ๆ ไว้ในตู้เย็นหรือไม่
 -  ใส่ของมากเกินไปหรือไม่
 -  ขอบประตูมีช่องว่างทำให้ความเย็นออกหรือไม่
 -  เปิดประตูตู้เย็นบ่อยและนานเกินไปหรือไม่
 อาหารที่แช่ในห้องล่างเป็นน้ำแข็ง                                     -  ตรวจดูปุ่มปรับอุณหภูมิว่าอยู่ในตำแหน่งสูงสุด
 หรือไม่
 ในตู้เย็นเกิดหยดน้ำเกาะ		                      -  ท่อน้ำทิ้งตันหรือไม่
 -  ใส่ของที่มีความร้อนมากหรือมีไอน้ำมากในตู้เย็น
 หรือไม่
 ตู้เย็นมีเสียงดัง			 -  พื้นที่ที่ตั้งตู้เย็นแข็งแรงเพียงพอหรือไม่
 -   ตั้งตู้เย็นได้ระดับหรือไม่
 -   หลังตู้เย็นแตะโดนกำแพงหรือไม่
 
 
 
 ที่มา.   คู่มือแนะนำการใช้ตู้เย็นฮิตาชิ
 
 
 
 |