ตำนานสงกรานต์

ตำนานของสงกรานต์นี้มี ปรากฎในศิลาจารึกที่วัดพระเชตุพนว่า...

เศรษฐีคนหนึ่งไม่มีบุตร บ้านอยู่ใกล้กับนักเลงสุรา นักเลงสุรามีบุตรสองคนมีผิวเนื้อเหมือนทอง วันหนึ่ง นักเลงสุรานั้นเข้าไปกล่าว หยาบช้าต่อเศรษฐี เศรษฐีจึง ถามว่าเหตุใดจึงมาหมิ่นประมาท ต่อเราผู้มีสมบัติมาก นักเลงสุรา จึงตอบว่า ถึงท่านมีสมบัติก็ไม่มีบุตร ตายแล้วสมบัติก็จะสูญเปล่า เรามีบุตรเห็นว่าประเสริฐกว่า ท่านเศรษฐีมีความละอายจึง บวงสรวงพระอาทิตย์ พระจันทร์ ตั้งอธิษฐานถึงสามีก็มิได้มีบุตร อยู่มาถึงวันนักขัตฤกษ์สงกรานต์ พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ เศรษฐีจึงพาบริวารไปยังต้นไทร อันเป็นที่อยู่แห่งฝูงนกทั้งปวงริมฝั่งน้ำ จึงเอาข้าวสารล้างน้ำเจ็ดครั้ง แล้วหุงขึ้นบูชาพระไทร ประโคม พิณพาทย์ตั้งอธิษฐานขอบุตร พระไทรมีความกรุณาจึงเหาะ ไปเฝ้าพระอินทร์ พระอินทร์จึงให้ ธรรมบาลเทวบุตรลงมาปฏิสนธิ ในครรภ์ภรรยาเศรษฐี เมื่อ คลอดแล้วจึงให้ชื่อธรรมบาลกุมาร ปลูกปราสาทเจ็ดชั้นให้อยู่ที่ใต้ ต้นไทรริมฝั่งน้ำนั้น กุมารเจริญขึ้น ก็รู้ภาษานกแล้วเรียนไตรเพทจบ เมื่ออายุได้เจ็ดขวบ ได้เป็น อาจารย์บอกมงคลการต่างๆแก่มนุษย์ทั้งปวง

ในขณะนั้นโลกทั้งหลายนับถือ ท้าวมหาพรหมและกบิลพรหม องค์หนึ่งว่า เป็นผู้แสดงมงคล แก่มนุษย์ทั้งปวง เมื่อกบิลพรหม ทราบจึงลงมาถามปัญหาธรรมบาลกุมาร สามข้อ สัญญาไว้ว่า ถ้าแก้ปัญหาได้ จะตัดศีรษะบูชา ถ้าแก้ไม่ได้จะ ตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย ปัญหานั้นว่า ข้อ๑ เช้าราศีอยู่ แห่งใด ข้อ๒ เที่ยงราศีอยู่แห่งใด ข้อ๓ ค่ำราศีอยู่แห่งใด ธรรมบาล ขอผลัดเจ็ดวัน

ครั้งล่วงไปได้หกวัน ธรรมบาลกุมารก็ยังคิดไม่ได้ จึงนึกว่าพรุ่งนี้จะตายด้วย อาญาท้าวกบลพรหม ไม่ต้องการหนีไปซุกซ่อน ตายเสียดีกว่า จึงลงจาก ปราสาทไปนอนอยู่ใต้ต้นตาลสองต้น มีนกอินทรีสองผัวตัวเมียทำรัง อาศัยอยู่บนต้นตาลนั้น ครั้งเวลา ค่ำนางนกอินทรีจึงถามสามี พรุ่งนี้จะได้อาหารแห่งใด สามีบอกว่า จะได้กินศพ ธรรมบาลกุมารซึ่งท้าวกบิลพรหม จะฆ่าเสียเพราะทายปัญหาไม่ออก นางนกถามว่า ปัญหานั้นอย่างไร สามีจึงบอกว่า ปัญหาว่าเช้าราศี อยู่แห่งใด เที่ยงราศีอยู่แห่งใด ค่ำราศีอยู่แห่งใด นางนกถามว่า จะแก้อย่างไร สามีบอกว่า เช้าราศีอยู่หน้ามนุษย์ทั้งหลาย จึงเอาน้ำล้างหน้า เวลาเที่ยง ราศีอยู่อก มนุษย์ทั้งหลายจึงเอา เครี่องหอมประพรหมที่อก เวลาค่ำราศีอยู่เท้า มนุษย์ ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างเท้า

ธรรมบาลกุมารได้ยินดังนั้น ก็กลับไปปราสาท ครั้งรุ่งขึ้น ท้าวกบิลพรหมมาถามปัญหา ธรรมบาลกุมารก็แก้ตามที่ได้ยินมา ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกเทพธิดา ทั้งเจ็ด อันเป็น บริจาริกาพระจันทร์ มาพร้อมกัน แล้วบอกว่า เราจะตัดศีรษะบูชาธรรมบาลกุมาร ศีรษะของเราถ้าจะตั้งไว้บนแผ่นดิน ไฟก็จะไหม้ทั่วโลก ถ้าจะทิ้งขึ้นบน อากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าจะทิ้งใน มหาสมุทรน้ำก็จะแห้ง จึงให้ธิดา ทั้งเจ็ดนั้นเอาพานมารับศีรษะ แล้วก็ตัดศีรษะส่งให้ธิดาผู้ใหญ่ นางจึงเอาพานมารับพระเศียร บิดาไว้แล้วแห่ทำประทักษิณ รอบเขาพระสุเมรุ ๖๐ นาที แล้วก็เชิญประดิษฐานไว้ในมณฑป ถ้ำคันธุลีเขาไกรลาศ บูชาด้วย เครื่องทิพย์ต่างๆ พระเวสสุกรรม ก็นฤมิตรแล้วด้วย แก้วเจ็ดประการ ชื่อ ภควดีให้เป็นที่ประชุมเทวดา เทวดาทั้งปวงก็นำเอาเถาฉมูลาด ลงมาล้างในสระอโนดาดเจ็ดครั้ง แล้วแจกกันสังเวยทุกๆพระองค์ ครั้งครบถึงกำหนด ๓๖๕ วัน โลกสมมติว่า ปีหนึ่งเป็นสงกรานต์ นางเทพธิดาเจ็ดองค์จึงผลัดเวร กันมาเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหม ออกแห่งประทักษิณเขาพระสุเมรุทุกปี แล้วกลับไปเทวโลก ที่จารึกใน วัดพระเชตุพนมีใจความดังกล่าวมานี้

 


ที่มา : http://www.jarp.com