คอมพิวเตอร์กับการเรียนการสอนคณิตศาสตร์

คอมพิวเตอร์ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของวิชาคณิตศาสตร์

บทเรียนที่ 1

ครูอาจจะเริ่มให้นักเรียนแก้โจทย์สมการเชิงเส้นที่อยู่ในรูป

ax   +   b   =   c
โดยให้    a,  b  และ  c   เป็นค่าคงที่เฉพาะกรณี
เช่น             3x   +   2   =   10                   

จากนั้นครูอาจเขียนผังงานและโปรแกรมภาษาเบสิกได้    ดังนี้

10    A   =  3

20    B   =  2

30    C   =  10

40    X = (C - B) / A

50    PRINT   X

60    END

จากนั้นครูควรจะอธิบายให้นักเรียนทราบถึงสัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียนผังงานและความสัมพันธ์ระหว่างผังงานและโปรแกรม ครูควรจะร่วมอภิปรายกับนักเรียนถึงวิธีการทำงานของคอมพิวเตอร์ตามคำสิ่งที่ป้อนเข้าไป โดยการให้นักเรียนพิจารณาการทำงานของโปรแกรมทีละบรรทัด แล้วให้คาดคะเนผลลัพธ์ (Output) ครูอาจจะให้ตัวอย่างโปรแกรมง่าย ๆ ที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนี้อีกสัก 2 - 3 ตัวอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่านกัเรียนมีความเข้าใจถึง วิธีการทำงานของโปรแกรม


บทเรียนที่ 2

จากลักษณะของโปรแกรมที่เสอนมาแล้วในบทเรียนที่ 1 จะเห็นว่าหากเราต้องการจะเปลี่ยนต่าของ a,b, และ c เราจำเป็นจำต้องพิมพ์เปลี่ยนค่าในโปรแกรมใหม่ทุกครั้ง นักเรียนอาจจะปรับปรุงโปรแกรมให้สามารถใช้กับโจทย์ทำนองเดียวกันได้หลายๆ ครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องพิมพ์โปรแกรมซ้ำ ๆ ได้โดยใช้คำสั่ง INPUT ในการป้อนข้อมูลผังงานและโปรแกรมที่ปรับปรุงแล้วก็จะมีลักษณะดังนี้

10    INPUT A, B, C

20    X = (C - B) / A

30    PRINT   X

40    END

(ปรับปรุงครั้งที่ 1)

และครูควรจะร่วมกับนักเรียนพิจารณาการทำงานและคาดคะเนผลลัพธ์ของโปรแกรมที่ใช้คำสั่ง INPUT นี้ ในทำนองเดียวกับที่ทำในบทเรียนที่ 1


บทเรียนที่ 3

แทนที่เราจะให้โปรแกรมจบลงที่คำสั่ง END ทุกครั้ง นักเรียนอาจจะให้โปรแกรมเริ่มต้นใหม่โดยไม่ต้องคอยสั่งให้คอมพิวเตอร์ รัน (RUN) ใหม่ทุกครั้งที่จบโปรแกรม โดยการใช้คำวั่ง GOTO ดังนี้

10    INPUT A, B, C

20    X = (C - B) / A

30    PRINT   X

40    GOTO    10

50    END

(ปรับปรุงครั้งที่ 2)


บทเรียนที่ 4

ครูอาจจะตั้งคำถามว่า ในกรณีที่ A = O อะไรจะเกิดขึ้น (นักเรียนควรจะทราบมาก่อนแล้วว่า   และ   )   ถ้า A = 0 คอมพิวเตอร์ก็จะแสดงผลบนจอภาพว่า มีข้อบกพร่อง (error) เกิดขึ้น ถึงขั้นตอนนี้ครูก็จะแนะนำให้นักเรียนรู้จักกับคำสั่ง IF-THEN เพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง  เมื่อ A = 0  ได้ดังนี้

10    INPUT A, B, C

20    IF A = 0   THEN PRINT "BAD DATA" : GOTO 10

30    X = (C - B) / A

40    PRINT   X

50    GOTO    10

60    END

(ปรับปรุงครั้งที่ 3)

ครูควรจะชี้แนะให้นักเรียนร่วมกันพิจารณา การทำงานของโปรแกรมที่ปรับปรุงแล้วนี้อีก โดยพิจารณาทีละบรรทัดดังที่ได้ปฏิบัติในบทเรียนที่ 1 แต่ในที่นี้มีจุดประสงค์ที่จะให้นักเรียนมีความเข้าใจถึงการทำงานของประโยคคำสั่ง IF-THEN


บทเรียนที่ 5

สำหรับการสอนถึงการทำงานของประโยคคำสั่ง FOR-NEXT นั้น ครูอาาจะยกตัวอย่างโปรแกรมง่าย ๆ เพื่อเปรียบเทียบถึงกระบวนการทำงานและผลลัพธ์ของโปรแกรมที่ใช้คำสั่ง IF - THEN และ FOR-NEXT เช่น

IF-THENFOR-NEXT
10    N = 1

20    PRINT N

30    IF N = 13   THEN   60

40    N = N + 1

50    GOTO 20

60    END

10    FOR   N = 1   TO   13

20    PRINT N

30    NEXT N

40    END

ซึ่งครูอาจจะให้นักเรียนอภิปรายถึงข้อแตกต่างของการทำงานของคำสั่งจากโปรแกรมทั้งสอง ตลอดจนผบลัพธ์ (output) และความกระทัดรัดของการเขียนโปรแกรม เป็นต้น


ที่มา : สมชาย ชูชาติ, วารสาร สสวม. ปีที่ 14 ฉ.2 กพ. - พค. 2529