Boron
(B)
โบรอน
เลขอะตอม
5 ธาตุแรกของหมู่ IIIA ในตารางธาตุ จัดเป็นกึ่งโลหะ
น้ำหนักอะตอม
10.811 amu
จุดหลอมเหลว
2300 ํc
จุดเดือด (โดยประมาณ)
2550 ํc
ความหนาแน่น
2.34 g/cc
เลขออกซิเดชันสามัญ
+3
การค้นพบ
สารประกอบของโบรอนเป็นที่รู้จักเป็นเวลาประมาณ 6000 ปีแล้ว มีการบันทึกไว้ว่า ชาวบาบิโลน (Babylonians) ชาวอียิปต์ ชาวจีน และชาวอาหรับได้เคยใช้สารประกอบของโบรอน ชาวอาหรับเรียกแร่หลายชนิดของโบรอนว่า "baurach" ซึ่งรวมถึงโบเรกซ์ (borax) ซึ่งเป็นแร่สามัญของโบรอนในปัจจุบัน
โบรอนในรูปของธาตุอิสระไม่เป็นที่รู้จักจนกระทั่งต้นศตวรรษที่ 19 Sir Humphrey Davy, Gay-Lussac และ Thernard ได้เตรียมธาตุโบรอนขึ้นโดยนำโบรอนไตรออกไซด์ (B
2
o
3
) มารีดิวซ์ด้วยโพแทสเซียม (K) และโดยการนำกรดโบริกที่ขึ้นมาแยกสลายด้วยไฟฟ้า (electrolysis) โบรอนอิสระที่เขาเหล่านั้นเตรียมได้มีความบริสุทธิ์ร้อยละ 50 เท่านั้น
หลังจากนั้นประมาณ 50 ปี ได้มีการผลิตผลิตภัณฑ์โบรอนที่คล้ายคลึงกับเพชรและแกรไฟต์ ผลิตภัณฑ์โบรอนที่มีสมบัติแข็งแกร่งคล้ายเพชรมี อะลูมินัมโบไรด์ (AlB
12
) เป็นองค์ประกอบหลัก ส่วนที่คล้ายแกรไฟต์เป็นของผสมของ boron-aluminum-carbide
ต่อจากนั้นได้มีการเตรียมโบรอนที่มีความบริสุทธิ์สูงประมาณ 90 % โดยการนำ B
2
O
3
มารีดิวซ์ด้วยโลหะ Mg โบรอนที่ได้มีสีน้ำตาลอ่อนและมีโครงสร้างอสัญฐาน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการศึกษาสมบัติและเคมีของโบรอนอย่างจริงจัง และพบว่าธาตุนี้มีสมบัติพิเศษหลายประการ เช่น สามารถเกิดสารประกอบและสารเชิงซ้อนที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันนี้โบรอนที่มีความบริสุทธิ์สูงเตรียมได้โดยการแยกสลายด้วยไฟฟ้าและวิธี vapor deposition
การใช้ประโยชน์
1. ใช้ทำโลหะเจือสำหรับการใช้งานพิเศษ
2. เป็นตัวดูดนิวตรอนในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เพื่อควบคุมปฏิกิริยานิวเคลียร์
3. เส้นใยของโบรอนใช้ผสมกับโลหะ ทำให้โลหะมีความเหนียวขึ้น
4. ใช้เป็นกึ่งตัวนำ (semiconductors)
5. ใช้ผสมในเชื้อเพลิงขับจรวด
6. ผสมในโลหะเจือที่ใช้งาน ณ อุณหภูมิสูงมาก ๆ
ความเป็นพิษ
โบรอนในรูปของโลหะไม่เป็นพิษ ในรูปผงหรือฝุ่นแข็งและคนมาก อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังได้เมื่อสัมผัส นอกจากนี้ผงหรือฝุ่นของโบรอนติดไฟได้เองในอากาศ จึงอาจเกิด อัคคีภัยและการระเบิดได้
โบรอนในปริมาณเล็กน้อยดูเหมือนจะจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืชและเป็นพิษถ้ามีปริมาณมากเกินไป
สารประกอบของโบรอนเป็นพิษต่อระบบประสาทกลางของคนเรา และความเป็นพิษในแบบสะสมทำให้เกิดอาเจียน ท้องร่วง ช๊อค และผื่นคันที่ผิวหนังได้ อาการพิษจะร้ายแรงเพียงใดขึ้นกับปริมาณที่ร่างกายรับเข้าไปหรือมีสะสมอยู่
การรับโบริกครั้งละ 15-20 g สำหรับผู้ใหญ่ และ 5-6 g สำหรับเด็กทำให้ถึงตายได้
ผู้เขียน :
ดร.ชัยวัฒน์ เจนวาณิชย์
ที่มา :
รวบรวมจาก หนังสือสารานุกรมธาตุ