Rubidium
(Rb)
รูบิเดียม

เลขอะตอม 37 เป็นธาตุที่ 4 ของหมู่ I A (ไม่นับไฮโดรเจน) ในตารางธาตุ
จัดเป็นโลหะและโลหะอัลคาไล
น้ำหนักอะตอม 85.47 amu
จุดหลอมเหลว 39 ํc
จุดเดือด (โดยประมาณ) 688 ํc
ความหนาแน่น (จากการคำนวณ) 1.532 g/cc ที่ 20 ํc
เลขออกซิเดชันสามัญ +1

การค้นพบ

รูบิเดียมค้นพบโดย Kirknoff และ Bunsen ในปี ค.ศ. 1861 เมื่อเขาทั้งสองได้พบเส้นสเปกตรัมใหม่ ในแถบแดงเข้มของสเปกตรัมของแร่ lepidodite ที่มาจาก Saxony

ต่อมา Bunsen ได้พยายามเตรียมธาตุนี้ในรูปธาตุอิสระ โดยนำรูบิเดียวไฮโดรเจนทาร์เตรตมาเผากับคาร์บอน แต่เขาได้รูบิเดียมที่มีความบริสุทธิ์เพียง 18 % เท่านั้น

Hevesy เป็นคนแรกที่สามารถเตรียมธาตุ Rb ได้สำเร็จ โดยนำ RboH เหลวมาแยกสลายด้วยไฟฟ้า

ชื่อของธาตุนี้มาจากคำลาติน rubidus หมายถึงแดงเข้ม

การใช้ประโยชน์

เนื่องจากขาดแหล่งแร่หลักเป็นเหตุให้เกิดอุปสรรค์ในการผลิตธาตุนี้ในปริมาณมากและราคาถูก (เปรียบเทียบกับ Na, K, Li) การใช้ประโยชน์ของธาตุนี้จึงมีขีดจำกัด การใช้ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดได้แก่ การใช้ในหลอดสูญญากาศและ photocell ส่วนการใช้ประโยชน์อื่น ๆ ยังอยู่ในขั้นการทดลองและการวิจัย

ความเป็นพิษ

ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่ารูบิเดียมเป็นพิษต่อมนุษย์ แต่เนื่องจากธาตุนี้ไวต่ออากาศและน้ำมาก เวลาใช้จึงต้องใช้ความระมัดระวังให้มาก ต้องเก็บรักษาไว้ในเคโรซีนหรือน้ำมันที่คล้ายคลึงกันอย่างอื่น นอกจากนี้แล้วยังต้องหลีกเลี่ยงการให้โลหะนี้มาสัมผัสกับผิวหนัง เพราะทำให้ผิวหนังไหม้ เกิดอาการผื่นแดงและคันได้
ผู้เขียน : ดร.ชัยวัฒน์ เจนวาณิชย์
ที่มา : รวบรวมจาก หนังสือสารานุกรมธาตุ