การอนุรักษ์ปะการังมีการดำเนินการดังนี้คือ
1. ทำการกำหนดเขตการใช้ประโยชน์ในแนวปะการัง
พร้อมทั้งจัดทำแผนที่รายละเอียดแสดงบริเวณปะการัง
ซึ่งแบ่งเป็น 4 เขต ได้แก่
เขตการดูแลของท้องถิ่น เขตการใช้ประโยชน์เพื่อการท่องเที่ยวและนันทนาการ
เขตอนุรักษ์เพื่อความสมดุลของระบบนิเวศ
และการวิจัย โดยกำหนดมาตรการในการบริหารการจัดการปะการังในแต่ละเขต
เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์และควบคุมการดำเนินกิจกรรมให้สอดคล้องกับมาตรการที่กำหนดไว้
2. ติดตั้งทุ่นผูกเรือในเขตการใช้ประโยชน์ในแนวปะการังที่มีความสำคัญสูง
สำหรับให้จอดเรือ โดยไม่ให้ทิ้งสมอ
3. ห้ามการจับปลาทุกประเภทในบางบริเวณเพื่อให้มีปลาเข้ามาหลบในบริเวณนั้นมากขึ้น
4. นำเรือท้องกระจกเพื่อให้ดูปะการัง
5. ประชาสัมพันธ์ให้มีการตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรปะการัง
โดยให้มีการศึกษาและเผยแพร่ความรู้และคุณค่าของปะการังให้กับบุคคลทุกประเภท
ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
ในการป้องกันและฟื้นฟูปะการัง
6. ส่งเสริมให้กลุ่มชุมชน
องค์กรเอกชนสมาคมหรือชมรมการท่องเที่ยว
ร่วมกันจัดกิจกรรมในเรื่องการรักษาความสะอาด
เพื่อการคุ้มครองปะการัง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน
ทั้งในด้านการนำมาใช้ประโยชน์และการสงวนรักษา
ทรัพยากรธรรมชาติประกอบด้วยเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย
ซึ่งในแต่ละเรื่องก็มีปัญหาที่ยุ่งยาก
ซับซ้อน การพัฒนาประเทศในระยะที่ผ่านมาช่วง
30 ปี ประสบกับปัญหาการจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
อันเนื่องมาจากเหตุผลหลายประการ
ได้แก่ การเพิ่มจำนวนประชากรการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว
การเร่งรัดพัฒนาการเกษตรและอุตสาหกรรม
ตลอดจนการนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้ในการผลิต
ซึ่งส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติที่เคยอุดมสมบูรณ์กลับอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรม
จนกลายเป็นข้อจำกัดของการพัฒนาในระยะต่อไป
ดังปรากฎเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า
ทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ที่ใช้ประโยชน์อยู่ทุกวัน
นับวันจะร่อยหรอหมดสิ้นไปและอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมลงเรื่อย
ๆ รวมทั้งยังมีปัญหาข้อขัดแย้งในการใช้ประโยชน์อีกด้วย
สำหรับปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังทวีความรุนแรงอย่างยิ่ง
คือ ความเสื่อมโทรมของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ
อันเนื่องมาจากการใช้กันอย่างเกินขอบเขตและการใช้อย่างไม่เหมาะสมจนสภาพทางธรรมชาติไม่สามารถรองรับหรือปรับตัวให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้
ปัจจุบันเป็นที่เข้าใจอย่างชัดแจ้งแล้วว่า
การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฉลาดนั้น
จะต้องคำนึงถึงทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ
ในเวลาเดียวกันด้วย เพราะการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติชนิดหนึ่ง
อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งได้
และเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน
หรือเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน
จึงจำเป็นจะต้องมีการบริหารการจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และเนื่องจากการพัฒนาจะต้องพึ่งทรัพยากรและทรัพยากรก็เป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
จึงควรอยู่บนรากฐานของความถูกต้องและเหมาะสมตามหลักวิชาการ
โดยคำนึงถึงสภาพที่สมดุลหรือขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่
และโดยที่ปัจจุบัน ปัญหาอันเกิดจากการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ได้เป็นปัญหาที่สำคัญและเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง
ซึ่งจำเป็นจะต้องดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหา
ตลอดจนควบคุมและส่งเสริมให้การกระทำใด
ๆ มีผลกระทบในทางเสียหายน้อยที่สุด