 |
1.ปัดทำความสะอาดเครื่องปั้นดินเผาทั้งด้านในและด้านนอก |
|
|
 |
2.หากเครื่องปั้นดินเผาที่นำมาเขียนเป็นรูพรุนซึ่งเกิดจากฟองอากาศ ควรใช้ยาแนวยาตามรูหรือร่องนั้น
 |
|
|
 |
3.ทาสีพื้นหลังด้วยสีที่มีคุณสมบัติแห้งช้า
(โดยเพิ่มปริมาณทินเนอร์ที่ใช้ผสม) เพื่อเพิ่มความมันวาวแก่พื้นผิว |
|
|
 |
4.ผสมสีที่จะใช้ปัดสีให้พร้อมเพื่อรอให้สีพื้นผิวแห้ง (ประมาณ 30 นาที)
จากนั้นเริ่มปัดสีโดยเริ่มปัดจากลายที่อยู่ด้านหลังสุดก่อน
หากต้องการให้ดูสวยงามและละเอียดยิ่งขึ้น
ควรไล่ค่าน้ำหนักอ่อนแก่ของสีตามโทนต่างๆ
นอกจากนี้หากนำหลักการใช้สีมาใช้จะทำให้ดูงดงามยิ่งขึ้น
สีที่ใช้ในการปัดควรค่อนข้างข้น และขณะที่ปัดสีควรทำมือเบาๆ
ปัดไปตามแนวของเครื่องปั้นดินเผา
|
|
|
 |
5.หลังจากที่ปัดสีลงบนเครื่องปั้นดินเผาเรียบร้อยแล้ว
มาถึงขั้นตอนการตกแต่งตามขอบแลตามลวดลายนั้นๆ โดยการเขียนขอบด้วยสีทอง เป็นต้น |
|
|
 |
6.ขั้นตอนสุดท้าย คือการทาสีด้านในของเครื่องปั้นดินเผา
ทิ้งไว้ให้แห้งไม่นานก็สามารถนำไปจำหน่ายได้แล้ว |
|
|
|
เกร็ดน่ารู้ |

|
ในการปัดสีลงบนลวดลายนั้น ควรเลือกสีให้มีคุณสมบัติผลักกันกับพื้นผิว
สีพื้นผิวจะได้ช่วยขับให้สีของลวดลายนั้นเด่นยิ่งขึ้น
อีกประการระหว่างการปัดสีควรจะทำมือให้เบาที่สุด
เพื่อลายที่ปัดออกมานั้นจะได้ไม่เป็นปื้นๆ
นอกจากสีน้ำมันอะครีลิคแล้ว สีโปสเตอร์ก็สามารถเขียนลวดลายต่างๆ
ได้เช่นกัน แต่จะเป็นไปในลักษณะของการวาดลวดลายลงไปก่อนค่อยระบายสีลงไป
การเขียนโดยวิธีนี้จะค่อนข้างเสียเวลา งานที่ออกมาจะไม่เป็นไปในเชิงอุตสาหกรรม
แต่จะออกมาในรูปของงาน
Handmade มากกว่าค่ะ
ส่วนด้านราคาก็จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
การเขียนสีลงบนเครื่องปั้นดินเผานั้นนอกจากจะต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูงต่อความเหม็นของสีแล้ว
ยังต้องรู้จักนำหลักการใช้สีในเชิงศิลปะเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับผลงานของตน
ไม่ซ้ำซาก จำเจ กับผลงานของใครค่ะ
"งานใดๆ
หากไม่มีอุปสรรคและสิ่งที่พลาดพลั้งเกิดขึ้นแล้ว
นั่นแสดงว่าคุณไม่ได้ทำมันอย่างแท้จริง
ขอให้คิดว่าอุปสรรคและความพลาดพลั้งที่เกิดนั้น
เป็นจุดเริ่มต้นของก้าวใหม่ที่คุณจะต้องระวังยิ่งกว่าเดิม" |
|
|
|
|