ทำไม ATP และ USPTA จึงไม่ก่อตั้งก่อน ค.ศ.1968? ทำไมเทนนิสจึงเป็นเกมสมัครเล่น จนกระทั่ง ค.ศ.1968? และทำไมเทนนิสจึงต้อง เติบโตควบคู่ไปกับ ATP และ USPTA ราวกับแฟชั่น? หากศึกษาประวัติของกีฬาเทนนิสอย่างละเอียด  โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ก็จะช่วยให้เราเข้าใจและรู้คำตอบบางส่วนของคำถามเหล่านี้และคำถามอื่นๆได้ แม้ว่าจุดกำเนิดของกีฬาเทนนิสจะมีการเล่าขานในแนวนิยาย ต่างๆ ที่น่าตื่นเต้นก็ตาม แต่เรื่องราวส่วนใหญ่จะเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นต้นฉบับของกีฬาเทนนิส ชื่อและเกมนี้มีรากฐานมาจากกีฬาตาข่ายและ แร็กเก็ต โบราณที่ชื่อว่า"Le Jeu du Paume"ซึ่งปรากฏในศตวรรษที่ 13 ที่ประเทศฝรั่งเศส และถูกกำจัดอยู่ในวงของพวกขุนนางเท่านั้น Le Jeu du Paume หรือ เกมใช้ฝ่ามือ เล่นด้วยลูกกลมๆ อย่างผลส้มในสนามในร่ม แต่เดิมใช้วิธีตีลูกด้วยมือ ต่อมาไม่นานจึงใช้แร็กเก็ตเกมนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนกระทั่งช่วงต้นของศตวรรษที่17 จำกัดให้มีการเล่นแต่ในกลุ่มพวกผู้ดีเท่านั้น Le Jeu du Paume จึงเปรียบเสมือนเป็นต้นกำเนิดของกีฬาเทนนิส ในปลายศตวรรษที่16เกมเทนนิสได้แพร่ขยายไปถึงประเทศอังกฤษ เนื่องจากราชวงศ์อังกฤษ และราชวงศ์ฝรั่งเศสได้มีการอภิเษกสมรสกันบ่อยๆ ราชวงศ์ฝรั่งเศสในขณะนั้นมีวัฒนธรรมที่สูงกว่าในช่วงศตวรรษที่ 13-15 จึงเป็นสิ่งที่ประเทศอังกฤษหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องรับเกมเทนนิสมาเล่นด้วย กษัตริย์ Edward III ( ค.ศ. 1327-1377 ) ได้ทรงสร้างสนามเทนนิสไว้ในพระราชวังวินเซอร์ และใน ค.ศ.1414 เจ้าชาย Dauphin แห่งฝรั่งเศสได้ทรงส่ง ลูกเทนนิส เพื่อใช้เล่นเกมมาถวายแด่กษัตริย์ Henry V ของขวัญชิ้นนี้ได้ถูกบันทึกไว้โดยเช็คสเปียในบทละครเรื่อง กษัตริย์เฮนรี่ที่ 5 หลังจาก การปฏิวัตในฝรั่งเศส Le Jue du Paume ได้หายไปจากสังคมฝรั่งเศสเพราะเหล่าขุนนางถูกขับไล่ออกจากประเทศ แต่ยังคงมีเล่นกันในประเทศ อังกฤษ โดยการฝึกสอนของผู้เชี่ยวชาญการเล่นจากประเทศฝรั่งเศสได้เข้าไปในอังกฤษเพื่อสนับสนุนเกมนี้ให้แผ่ขยายกว้างออกไป ประเทศอังกฤษ ในขณะนั้นมีเกมที่เล่นด้วยแร็กเก็ต และลูกบอลอีก 2 ชนิด คือ แบดมินตัน และเกมแร็กเก็ต การเล่นแบดมินตันได้เริ่มเกิดขึ้นที่หมู่บ้านแบดมินตัน ในเมืองกลูเชลสเตอร์ไชร์ ประเทศอังกฤษใน ค.ศ.1873 และแพร่ขยายในเวลาต่อมาเป็นเกมบนสนามหญ้า (lawn game) ซึ่งเป็นที่นิยมเล่นกัน ใน หมู่ชายหญิงทั่วไป โดยใช้ลูกขนไก่ หรือขนนกตีโต้กันไป-มาข้ามตาข่าย ด้วยไม้แร็กเก็ตด้ามยาว ส่วนเกมแร็กเก็ตซึ่งต่อมาได้ประยุกต์มาเป็น เกม สควอช เป็นเกมในร่มซึ่งเล่นด้วยลูกบอลแข็งๆเล็กๆตีโต้กับกำแพงสลับกัน ใช้ไม้แร็กเก็ตด้ามยาวและหัวไม้แร็กเก็ตเล็กเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้เล่น  แต่ละเกมมี 15 คะแนน นอกจากกีฬาที่ใช้ไม้แร็กเก็ต ดังเช่น แบดมินตัน เกมแร็กเก็ต และคอร์ตเทนนิสแล้ว ยังมีกีฬาที่เป็นที่นิยมในประเทศ อังกฤษ ในเวลานั้นอีก 2 ชนิด คือ โครเก็ต ซึ่งเป็นกีฬาสำรวย เล่นบนสนามหญ้าที่ถูกตบแต่งขึ้น ใช้ตะลุมพุกตีลูกและคริกเก็ต ซึ่งเป็นกีฬาชนิดหนึ่ง ที่ต้องใช้ความเร็วเล่นคล้ายกับเบสบอลเล่นบนสนามหญ้าชนิดพิเศษ