ผู้ สัมภาษณ์ :
สวัสดีครับ คุณลุงชื่ออะไรครับ?
คุณลุงบุญถึง : ลุงชื่อ บุญถึง คำวัง
ผู้ สัมภาษณ์ : คุณลุงอยู่ที่นานกี้ปี่แล้วครับ
คุณลุงบุญถึง : ลุงอยู่ที่นี้ตั้งแต่เด็ก คงประมาณ 70 กว่าปีแล้ว
ผู้ สัมภาษณ์ : ตั้งแต่สมัยที่ลุงยังเด็ก หรือที่อาศัยอยู่ที่บริเวณ
แม่น้ำกวงน้ำกวงมีสภาพอย่างไรบ้างครับ ?
คุณลุงบุญถึง : น้ำในตอนนั้นมีสภาพที่ดีมากเลยทีเดียว มีทั้งเกาะทราย
น้ำใสจนเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่ใต้น้ำ
ผู้ สัมภาษณ์ : แล้วความคิดเห็นของลุงกับ แม่น้ำกวงในปัจจุบัน
หละครับ ?
คุณลุงบุญถึง : แย่มาก!! น้ำเน่าเสีย แทบจะใช้อะไรไม่ได้เลย
นอกจากนำไป ประกอบกิจกรรมทางการ เกษตร เท่านั้น
ผู้ สัมภาษณ์ : ปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่อย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
คับ มีอะไรบ้าง ?
คุณลุงบุญถึง : พูดถึงปัญหาก็มีอยู่คือเรื่องเกี่ยวกันสภาพของน้ำ
ที่เมื่อก่อน ใสสะอาดที่สามารถลงเล่นได้ใช้ประกอบกิจกรรมต่างๆได้ แต่มาเดียวนี้
การเจริญของอุตสาหกรรม และการเพิ่มจำนวนของคนในชุมชนทำให้น้ำเน่าเสียมากขึ้น
ทำให้จากเคยที่น้ำใส กล้ายเป็นน้ำที่มี สีเขียวขุ่นๆจำไม่สามารถใช้น้ำในกิจกรรมบ้างอย่างได้อีก
ผู้ สัมภาษณ์ : คุณลุงมีข้อเสนอแนะ หรือแนวทางในการแก้ไขและปรับปรุงในเรื่องของน้ำกวงนี้
ฝากบอกผ่านพวกผม ไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขหรือป่าวคับ
?
คุณลุงบุญถึง : อยากให้เทศบาลมาดูเล่นการปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำของทั้ง
อุตสาหกรรม และบ้านของคนในแต่ละชุมชน นอกจากนั้น ขอให้เทศบาลเปิดฝายน้ำล้นออก
เพราะว่าในตอนนี้ไม่ได้เปิดฝาดไว้ทำให้เศษขยะที่ลอยมากับน้ำไปหมักหมม ทำให้น้ำเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น
ไปรับกวนชาวบ้าน จึงควรเปิดเพื่อให้น้ำได้ระบายบ้าง
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ คุณลุง บุญถึง คำวัง ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้ สัมภาษณ์ : สวัสดีค่ะ
คุณป้าชื่ออะไรค่ะ
ป้า เสาวนีย์ : ป้าชื่อ เสาวนีย์ เยาวรัตน์
ผู้ สัมภาษณ์ : คุณป้าอยู่ที่นี้นานแล้งยังค่ะ
ป้า เสาวนีย์ : ป้าอยู่มาตั้งแต่เกิดแล้ว ประมาณ 42 ปี จ๊ะ
ผู้ สัมภาษณ์ : แม่น้ำกวงในสมัยก่อนนั้นเป็นอย่างไงบ้าง และ ใช้ประโยชน์อะไรบ้างค่ะ
ป้า เสาวนีย์ : เท่าที่ป้าจำได้ น้ำกวง ใสสะอาด คนสามารถเอาน้ำมาใช้กับกิจกรรมต่างได้
ถือว่าเป็น ปัจจัย หนึ่งในการที่จะใช้ชีวิตเราก็ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นการ อาบน้ำ
ใช้อุปโภค บริโภค หรือการคมนาคม ก็ใช้ แม่น้ำกวง ทั้งนั้น
ผู้ สัมภาษณ์ : แล้วในความคิดเห็นของ ป้า เกี่ยวกับ
น้ำกวงใน ปัจจุบัน ป้าเห็นว่าเป็นอย่างไงบ้างค่ะ
ป้า เสาวนีย์ : น้ำกวงในตอนนี้ แย่มากเลยทีเดียว
การที่จะใช้น้ำกวงทำอะไร ก็ใช้น้ำได้แค่กิจกรรมบ้างอย่างเท่านั้น การที่จะลงไปเล่น
หรือ อาบ ก็เสียงต่อการที่จะติดเชื้อโรคจากน้ำนั้น เพราะมีทั้งสารเคมีต่างที่มาจาก
โรงงานอุตสาหกรรม และบ้านเรือนประชาชน
ผู้ สัมภาษณ์ : แล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ปัญหาที่เกิดเรื่อยกับน้ำกวงและตัวคนในชุมชนมีอะไรบ้างค่ะ
ป้า เสาวนีย์ : ก็คงต้องเป็น ปัญหาของความสะอาดของน้ำ
บ้านเมืองมันเจริญขึ้นเรื่อยๆ บ้างก็ว่าก็ที่น้ำเสียนั้นก็มาจาก โรงงานอุตสาหกรรมบ้าง
มาจากบ้านเรือนของคน บ้าง ที่ทำให้น้ำเน่เสียขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นปัญหาที่ตากมาหลังจากที่น้ำเน่าเสียแล้วก็คือ
โรคต่างๆ หรืออาการต่างๆที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ที่จะตาม ได้แก่ โรคไข้เลือด การเกิดผื่น
ที่บริเวณร่างกายที่โดนน้ำเสียเหล่านั้น
ผู้ สัมภาษณ์ : คุณป้ามีข้อเสนอแนะ หรือ แนวทางการแก้ไขอะไรบ้าง
ค่ะ ที่จะบอกฝากพวกเราไป สู่หน่วยงานที่เกี่วข้องบ้างค่ะ
ผู้ สัมภาษณ์ : ก็อย่างที่จะให้เทศบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วย
ทั้งในเรื่องการ รณรงค์ ก็ รักษาสภาพน้ำ หรือ ช่วยในเรื่อง ก็ทำให้น้ำสะอาดมากขึ้น
อย่างเป็นการสร้างท่อบำบัด
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ คุณป้า เสาวนีย์ เยาวรัตน์ ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้ สัมภาษณ์ : สวัสดีครับ
คุณป้าชื่อ อะไรครับ
ป้า จันทร์สม : ป้าชื่อ จันทร์สม เทพศักดิ์
ผู้ สัมภาษณ์ : ป้าอยู่ที่นี้นานแล้วยังค่ะ
ป้า จันทร์สม : ป้าอยู่ที่นี้ตั้งแต่เกิดแล้ว ประมาณ 72 ปีได้
ผู้ สัมภาษณ์ : ตอนนั้นสภาพน้ำแม่กวงเป็นอย่างไงบ้างครับ
ป้า จันทร์สม : ตอนนั้นน้ำกวง เป็นที่ ใสสะอาด สามารถใช้ดื่มกิน
หรือทำกิจกรรมต่างๆในบ้าน พอถึงช่วงเดือน เมษายน น้ำจะแห้งจนเห็นเป็น เกาะทราย
ถ้าต้างการที่จะน้ำทานกวนมาทานก็ไปขุดที่เกาะทรายนั้นก็ได้จะได้น้ำออกมาสามารถใช้ดื่มได้เลยที่เดียว
ผู้ สัมภาษณ์ : แล้วในความคิดขอ ป้า เกี่ยวกันสภาพน้ำกวงในปัจจุบันป้าคิดว่าน้ำกวงเป็นอย่างไรบ้างคับ
ป้า จันทร์สม : น้ำในต่อนี้
สกปรกมาก น้ำมีสี เขียวขุ่น การที่ลงไปเล่นก็เป็นการเสี่ยงกับอะไรหลายๆอย่างเช่น
เสี่ยงต่อไม้ เพราะน้ำมันไม่ใส ไม่เห็นต่อไม่ที่อยู่ข้างล่าง เสี่ยงต่อการได้รับสารผิดที่มากับน้ำที่ปล่อยมาจากโรงงานอุตสาหกรรม
ผู้ สัมภาษณ์ : ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากที่น้ำเริ่ม เน่าเสีย
มีอะไรบ้างครับ
ป้า จันทร์สม : คงจะเป็น ปัญหา เกี่ยวกับการใช้น้ำ นั้นแหละ เพราะก่อนนี้น้ำจากแม่น้ำกวงจะเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ในชีวิตประจำวัน
เมื่อน้ำเน่าลง คนก็ไม่สามารถที่จะใช้น้ำได้อีก บ้างบ้านที่น้ำปะปา ยังไม่เข้าถึง
หรือ ไม่ได้ใช้น้ำปะปา ก็เดือดร้อน เพราะน้ำกวงไม่สามารถใช้ได้อีก
ผู้ สัมภาษณ์ : ถ้าพวกผมเป็นตัวแทนของเทศบาลป้าจะมีขอเสนอแนะ หรือ
แนวทางในการแก้ไขอะไรบ้างบอกผ่านไป สู่ เทศบาลหรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ครับ
ป้า จันทร์สม : ก็จะเฝ้าในเรื่อง การรักษาสภาพน้ำให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธี
การรณรงค์ การบำบัดน้ำเสีย ป้าเห็นด้วยทั้งนั้นเพื่อเป็นการรักษาสภาพของน้ำกวงให้ดีขึ้น
นอกจากนั้นยังขอให้เทศบาลหมั่นมาตรวจสอบดูแล น้ำกวงให้มากขึ้น
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ คุณป้า จันทร์สม เทพศักดิ์ ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้ สัมภาษณ์ : สวัสดีครับ
คุณลุงชื่ออะไรคับ
ลุง เฉลิม : ลุงชื่อ เฉลิม ศรีสวัสดิ์ ครับ
ผู้ สัมภาษณ์ : ลุงอยู่ที่นี้นานแล้วยังครับ
ลุง เฉลิม : ที่จริงลุงเป็นคนสงขลา อยู่ที่นี้ได้ประมาณ
43 ปีแล้ว
ผู้ สัมภาษณ์ : ตอนที่ลุงผึ่งย้ายมา สภาพน้ำกวง เป็นไงมั่งคับ
ลุง เฉลิม : น้ำกวงตอนแรกนั้น ก็เป็นลำน้ำที่ ใสสะอาด
น่าเล่น เกาะทรายสามารถที่จะเดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้
เลย
ผู้ สัมภาษณ์ : แล้วในในปัจจุบัน ลุงมีมีความคิดเห็นอย่างไรกับน้ำกวงครับ
ลุง เฉลิม : น้ำกวงในปัจจุบันนี้ ดูแล้วก็รู้สึกว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมากเลยทีเดียว
น้ำจากเคยใสกับกลายเป็นน้ำ ขุ่นๆ น้ำที่เคย บริสุทธิ์ กับมีสารพิษเจื่อปน ที่มาจาก
1. โรงงานอุตสาหกรรม
2. บ้านเรือนประชาชน ที่ปล่อยสู่แม่น้ำ
ผู้ สัมภาษณ์ : ครับ แล้วถ้าผมเป็นตัวแทนของเทศบาล หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ลุงจะมีข้อเสนอแนะ หรือ แนวทางในการแก้ไขอย่างไรบอกผ่านพวกเรา ไปสู่หน่อยงานที่เกี่ยวข้องหรือเทศบาลบ้างครับ
ลุง เฉลิม : ก็อย่างฝากเรื่องเกี่ยวกับการจัดระบบถ่ายเท
น้ำจากชุมชน คนมีบ่อพักเป็นเป็นบำบัดน้ำก่อนลงสู่แม่น้ำจริง และแก้ไขให้สภาพน้ำดีขึ้น
ให้สามารถนำมาอุปโภคได้ สามารถลงเล่นได้
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ คุณลุง
เฉลิม ศรีสวัสดิ์ ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ขอขอบคุณไว้
ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้ สัมภาษณ์ : คุณลุงชื่อ
อะไร ค่ะ
ลุง สมควร : ลุงชื่อ สมควร วงศ์วาน ครับ
ผู้ สัมภาษณ์ : ระยะเวลาในการอยู่ที่นี้ นาน แล้วยังค่ะ
ลุง สมควร : อยู่ที่นี้ประมาณ 43 ปีแล้ว ครับ
ผู้ สัมภาษณ์ : เมื่อก่อน น้ำกวงที่ลุงเคยเห็น เป็นอย่างไงค่ะ
ลุง สมควร : น้ำกวงนั้นสมัยนั้น เป็นแม่น้ำที่ใสสะอาด มองเห็นอะไรทุกอย่างที่อยู่ใต้น้ำ
พอถึงหน้าแล้งเมื่อน้ำแห้งลง ก็จะเห็นเป็น เกาะทรายที่สามารถไปนั่ง พัก หรือเดินข้ามไปอีกฝ่ายหนึ่งได้
ผู้ สัมภาษณ์ : แล้วน้ำกวงในวันนี้ ลุงมีความคิดเห็นอย่างไงค่ะ
ลุง สมควร : น้ำกวงในตอนนี้เมื่อก่อนก็ดีแต่ตั้งมีการสร้างเขื่อน
วังทอง ขึ้นมา ก็ทำให้น้ำเริ่มเสีย แต่มาก็มีโรงงานอุตสาหกรรมขึ้นมา ยิ่งทำให้น้ำเน่าเสียไปใหญ่
เนื่องจากตอนนั้นการปล่อยน้ำทิ้งจากโรงงาน ยังไม่มีการบำบัด จึงทำให้เกิดปัญหาต่างๆตาม
เช่น ปัญหาทาง กลิ่มเหม็นจากน้ำที่เน่าเสีย ที่มักจะเกิดตอนช่วง ฤดูฝนที่น้ำมีมาก
ผู้ สัมภาษณ์ : ลุงมีข้อ เสนอ แนะ แนวทางการแก้ไขอะไรบ้างค่ะ เพื่อนำไปเสนอต่อผู้ที่รับผิดชอบหรือ
เทศบาล ค่ะ
ลุง สมควร : ก็อยากให้ เทศบาล หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลให้มากกว่านี้
เป็นในฤดูฝนเป็นต้น
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ คุณลุง
สมควร วงศ์วาน ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ขอขอบคุณไว้
ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้ สัมภาษณ์ : สวัสดีครับ
คุณป้าชื่ออะไร คับ
คุณป้า รำไพ : ป้าชื่อ รำไพ สุทธสุภา ค่ะ
ผู้ สัมภาษณ์ : ป้าอยู่ที่นี้นานแล้วยังครับ
คุณป้า รำไพ : ได้ประมาณ 20 กว่าปีแล้ว ค่ะ
ผู้ สัมภาษณ์ : ต่อที่ป้ามาอยู่น้ำกวงเป็นอย่างไงบางครับ
คุณป้า รำไพ : น้ำสมัยนั้น ใส หน้าเล่น สามารถใช้ทำกิจกรรมได้ทุกอย่าง
เวลาต้องการที่จะใช้น้ำก็ขุดบ่อทรายเพื่อเอาน้ำมาใช้
ผู้ สัมภาษณ์ : แล้วน้ำกวงในปัจจุบัน ป้ามีความคิดเห็นอย่างไรครับ
คุณป้า รำไพ : เปลี่ยนแปลงไปมาก มีกลิ่นเป็นบางครั้ง จากที่เคยใส ก็เปลี่ยนสีไปเปลี่ยน
สี เขียวๆ ไม่หน้าดู การที่จับปลาจากแม่น้ำกวงมากินก็ได้รับสารพิษไปด้วย
ผู้ สัมภาษณ์ : ปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีอะไรบ้างครับ
คุณป้า รำไพ : ก็เรื่อง ของ กลิ่น และความสะอาดของน้ำค่ะที่มันเกิดขึ้นมากเรื่อยก็อาจมาจาก
ร้านอาหารที่อยู่ริมน้ำ หรือโรงงานอุตสาหกรรม
ผู้ สัมภาษณ์ : ถ้าพวกเราเป็นตัวแทน ของ เทศบาล คุณป้าจะมีแนวทาง
หรือ ข้อเสนอแนะไปบอก ทางเทศบาลบ้างครับ
คุณป้า รำไพ : ก็อย่างให้เทศบาลมีบทบาทมากกว่านี้ อาจจะเป็นจัดกิจกรรม
รณรงค์ในเรื่องของแม่น้ำกวง และการทิ้งขยะ เพื่อให้สภาพของน้ำกวงดีขึ้น
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ คุณป้า รำไพ สุทธสุภาที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้ สัมภาษณ์ : คุณป้าชื่อ อะไรครับ
ป้า เกสร : ป้าชื่อ เกสร จรัตน์ จ๊ะ
ผู้ สัมภาษณ์ : ป้าอยู่ที่นี้นานแล้วยังครับ
ป้า เกสร : นานแล้วจ๊ะ ประมาณ 30 กว่า ปีได้
ผู้ สัมภาษณ์ : น้ำกวงในสมัยที่ป้ามาอยู่ใหม่ๆ เป็นอย่างไงบ้างครับ
ป้า เกสร : น้ำกวงเมื่อก่อนจะมีขนาด กว้างมาก ใสสะอาด มีเกาะทราย ดูแล้วสวยงามมาก
ผู้ สัมภาษณ์ : แล้วในตอนนี้ละครับเป็นอย่างไง บ้าง น้ำกวง ในความคิดเห็นของป้า
ป้า เกสร : น้ำสกปรก ไม่เหมือนก่อน มีเศษขยะ ลอยมา และยังมีซากสัตว์ที่ตายแล้วลอยมาอีก
ทำให้เกิดกรเน่าเหม็น และมีกลิ่น
ผู้ สัมภาษณ์ : ก็อย่างที่ว่านะครับ น้ำกวงเปลี่ยนไปมากจริง นอกจากนั้น
ป้ายังมีข้อ เสนอแนะ หรือ แนวทางการแก้ไขอะไรบ้างครับ
ป้า เกสร : ก็อย่างให้เทศบาล หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรับสภาพให้น้ำกวงมีขนาดที่กว้างเท่าเดิม
เพื่อเป็นการ ระบาย น้ำให้ดีขึ้น และควรจะ มีถังขยะบริเวณริมแม่น้ำตรงนี้ เพราะบริเวณนี้เพราะบริเวณเป็นโรงเรียนกวดวิชา
พอเลิกเรียนเสร็จก็จะมานั่งทานขนม แล้ว ทิ้งถุงขนม ลงน้ำก็ทำให้น้ำยิง เสียขึ้นอีก
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ คุณป้า
เกสร จตุรัตน์ ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ขอขอบคุณไว้
ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้สัมภาษณ์
: คุณป้าชื่อ อะไรครับ
อาจารย์ คณิตดา : ชื่อ อาจารย์คณิตดา วงศ์จักร
ผู้สัมภาษณ์ :
อยากทราบว่าอาศัยอยู่ที่นี่มานานหรือยังครับ
อาจารย์ คณิตดา : อยู่ที่นี่มาประมาณ 53 ปีแล้วค่ะ
ผู้สัมภาษณ์ :
เมื่อตอนสมัยก่อนน้ำกวงมีสภาพโดยรวมเป็นยังไงบ้างครับ
อาจารย์ คณิตดา : เมื่อก่อนนี้น้ำกวงสะอาดกว่าตอนนี้มากตรงกลางแม่น้ำจะมีเกาะทรายสามารถ
ขุดทรายให้เป็นหลุมแล้วเอาน้ำมาดื่มได้
ผู้สัมภาษณ์ :
แล้วตอนนี้คิดว่าน้ำกวงเป็นอย่างไรบ้างครับ
อาจารย์ คณิตดา : ตอนนี้เหรอ...น้ำกวงมีน้ำขึ้นสูงไม่ค่อยสะอาดใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้นอกจาก
จะได้รดน้ำต้นไม้เพราะน้ำไม่สะอาดมีสีดำ แต่จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องกลิ่นแต่เมื่อ
3 ปีก่อนจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นค่ะ
ผู้สัมภาษณ์ :
แล้วมีข้อเสนอแนะหรือสิ่งที่อยากให้แก้ไขเกี่ยวกับปัญหาน้ำกวงไหมครับ
อาจารย์ คณิตดา : ก็อยากจะฝากเรื่องการปล่อยน้ำเสียหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำและทำอย่างไร
ก็ได้ให้น้ำกวงใสสะอาดแล้วอีกเรื่องคือการลุกล้ำเขตแม่น้ำกวงซึ่งตอนนี้น้ำ
กวงแคบลงจากสมัยก่อนที่น้ำกวงเคยกว้างมากๆ
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ
อาจารย์ คณิตดา จตุรัตน์ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ขอขอบคุณไว้
ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้สัมภาษณ์ :
ลุงชื่ออะไรครับ
คุณลุง บรรเลง : ลุงชื่อ บรรเลง ยะมณี
ผู้สัมภาษณ์ : ลุงอยู่ที่นี่มานานหรือยังครับ
คุณลุง บรรเลง : ลุงอยู่ที่นี่มา 30 กว่าปีแล้วหละ
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วเมื่อก่อนตอนที่ลุงมาอยู่แรกๆ
แม่น้ำกวงเป็นยังไงบ้างครับ
คุณลุง บรรเลง : เมื่อก่อนน้ำกวง ยังไม่มีฝาย จำทำให้ น้ำระบาย ง่าย และน้ำจึงไม่เน่าเสีย
สภาพของ น้ำก็ใส สะอาด มีเกาะทรายที่ให้นั่งเล่น
ผู้ สัมภาษณ์ : แล้วในความคิดของ คุณลุง
แม่น้ำกวงมีลักษณะ อย่างไรบ้างครับ
คุณลุง บรรเลง : น้ำกวงในปัจจุบันนี้ ก็มีลักษณะที่คอยข้างที่จะย่มาก
แต่ก็ดี เพราะบริเวณนี้เป็นเขตที่ ทางวัดได้เลี้ยงปลาไว้จนไม่คนที่จะทิ้ง เศษขยะลงน้ำมากนัก
จึงทำให้บริเวณนี้สภาพ น้ำค่อยข้างดี แต่ถ้าไปตรงที่อื่นที่ลุง เคยเห็น น้ำมีเน่าเสีย
และไม่ใสเหมือนแต่เก่า
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วประโยชน์ที่ได้จากน้ำละครับ
ลุง คิดว่ามีอะไรบ้างที่ลุงช้ากน้ำกวงนี้
คุณลุง บรรเลง : ถ้าจะพูดถึงประโยชน์ที่ได้จากน้ำกวง มีมากเลยที่เดียว
แต่ถ้าในปัจจุบันนี้ก็คงจะใช้ อะไรไม่ได้นอกจาก นำไปใช้ในการเกษตร แต่เมื่อก่อนนั้นน้ำกวงสามารถนำมาใช้ได้
หลายอย่าง อย่างเช่น นำมาใช้ในกิจวัตรประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การอาบน้ำ ล้างหน้า
แปรงฟัน ทำธุรกิจส่วนตัวต่าง และยังนำมาใช้ทำกิจกรรมทั้งในบ้าน และนอกบ้านได้
ผู้สัมภาษณ์ : ถ้าพวกเราเป็นตัวแทนของเทศบาล
คุณลุงจะมีวิธีการที่จะแก้ไขปัญหาหรือ ข้อเสนอแนะในการช่วยรักษาแม่น้ำกวง อะไรบ้างครับ
คุณลุง บรรเลง : ก็อย่างให้ เทศบาล หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา รณรงค์ในเรื่องต่างที่เกี่ยวกับการ
อนุรักษ์น้ำกวงไว้ และช่วยดูแลสภาพน้ำให้ดีขึ้น
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ
คุณลุงบรรเลง ยะมณี ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ขอขอบคุณไว้
ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้สัมภาษณ์ :
สวัสดีค่ะ คุณป้าชื่ออะไรค่ะ
คุณป้า วงเดือน : ป้าชื่อ วงเดือน มโนสม จ๊ะ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณป้าค่ะ
คุณป้ามาตั้งร้านที่นี้นานหรือยังค่ะ
คุณป้า วงเดือน : อ๋อ... ป้ามาตั้งที่นี้ได้ประมาณ 2 ปีแล้วจ๊ะ
ผู้สัมภาษณ์ : เหรอค่ะ
ตอนช่วงแรกๆ ที่คุณป้ามาตั้งร้านนั้น สภาพของน้ำกวงเป็นอย่างไงบ้างค่ะ
คุณป้า วงเดือน : น้ำกวงในตอนนั้นนะค่ะ มีสภาพที่ดูสวยเลยทีเดียวค่ะ เพราะว่าน้ำใสสะอาดมากเลย
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วในความคิดของคุณป้า
คุณป้าคิดว่าน้ำกวงในตอนนี้มีสภาพเป็นยังไงบ้างค่ะ
คุณป้า วงเดือน : ป้าเห็นว่า ตอนนี้สภาพน้ำกวงสกปรก มากเลย แต่ที่มันสกปรกอยู่ทุกวันนี้
มันไม่ใช่ เพราะว่ากิจการร้านอาหารแถวนี้ทิ้งขยะลงให้แม่น้ำนะ ซึ่งตัวอย่าง อย่างร้านป้าเมื่อ
เศษอาหารเหลือ ป้าก็จะแยกน้ำและเศษอาหาร ซึ่งพวกเศษอาหารนั้นก็จะนำไปให้ สัตว์ที่บ้านป้าเลี้ยง
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วป้าคิดว่า
สาเหตุอะไรค่ะที่มีส่วนทำให้น้ำกวงเน่าเสีย?
คุณป้า วงเดือน : ก็คงมีส่วนมาจาก โรงงานอุตสาหกรรมละจ๊ะ ซึ่งไม่กี่ปี่ที่ผ่านมานั้น
พวกป้าๆ ก็ได้พา กันไปร้องเรียน ต่อศาลากลางจังหวัดลำพูน เกี่ยวกับมลภาวะทั้งทางกลิ่น
และสภาพ ของน้ำที่เน่าเสีย เพราะในตอนนั้น โรงงานอุตสาหกรรมได้ปล่อยน้ำโดยไม่ผ่านการ
กรองน้ำก่อนที่ปล่อยลงสู่ น้ำกวง
ผู้สัมภาษณ์ : แล้ว
คุณป้ามีข้อ เสนอแนะ หรือ แนวทางในการแก้ไข อย่างไร บ้างค่ะที่จะฝากพวก หนูที่บอกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
คุณป้า วงเดือน : ถ้าพูดถึง ข้อเสนอแนะ ป้าอยากจะฝากบอกไปว่า ควรที่จะมาช่วยในเรื่องของการ
บำบัดน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม และควรที่จะส่งรถเก็บขยะมาเก็บขยะบ้าง เพื่อ
ป้องกันการทิ้งขยะลงในแม่น้ำของชาวบ้านจ๊ะ
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ คุณป้า
วงเดือน มโนสม ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ขอขอบคุณไว้
ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ขอกราบ
นมัสการ ท่านพระครูสิริปุญญากร
ท่านพระครู : เจริญพร นักเรียนทุกคน
ผู้สัมภาษณ์ : ท่านพระครู อยู่ที่วันนี้กี่ พรรษา แล้วค่ะ
ท่านพระครู : อัตมา อยู่ที่นี้อยู่วัดศรีบุญยืน มาตั้งแต่ปี 2499 ก็คง
47 แล้ว
ผู้สัมภาษณ์ : ในสมัยก่อน ท่านพระครู เห็นน้ำแม่กวงเป็นอย่างไงบ้างค่ะ
ท่านพระครู : อือ.. ในตอนนั้น น้ำแม่กวง สะอาดจนสามารรถดื่มได้เลยที เดียว
แต่ในช่วง ปี 2532 ถึง 2536มีปัญหาอย่างหนักเพราะโรงงานอุตสาหกรรมที่เริ่มตั้งขึ้นได้ปล่อยน้ำเสียลง
ในแม่น้ำโดยที่ไม่ได้ผ่านการบำบัดน้ำก่อนการระบาย น้ำ เพราะในช่วงนั้นยังไม่มีการ
ตรวจสอบ และการดูแลอย่างเข้มงวด จึงทำให้สภาพน้ำย่ำแย่
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วในความคิดของท่านพระครู น้ำในแม่น้ำกวง
ในปัจจุบัน เป็นอย่างไรบ้างค่ะ
ท่านพระครู : ในปัจจุบันนี้ ปัญหาน้ำเริ่มลดลง อย่างเช่น ปัญหาทางกลิ่นก็ลดลง
และ ในเรื่องของ ปัญหาน้ำเสีย ก็มีการนำเครื่องบำบัดมาใช้ ที่โรงงานอุตสาหกรรม
ทำให้น้ำดีขึ้น กว่าเดิม
ผู้สัมภาษณ์ : ในฐานะที่ ท่านพระครู เป็น เจ้าอาวาส ของวัด
ท่านพระครู มีบทบาทอะไรบ้างค่ะ ใน เรื่อง แม่น้ำกวงค่ะ
ท่านพระครู : อัตมา ก็มีการเรียกร่วม คนในชุมชนมาที่วัดแล้วก็ได้พากันไปพัฒนาแม่น้ำกวงบริเวณ
ต่างๆ เพื่อในคนในชุมชนมีส่วนรวมในการอนุรักษ์ แม่น้ำกวง
ผู้สัมภาษณ์ : ท่านพระครูยังมีข้อเสนอแนะหรือ แนวทางในการแก้ไข
ปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับ แม่น้ำกวง ที่จะฝากพวกเรา ไปบอกกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ไหมค่ะ
ท่านพระครู : ก็ต้องการให้เทศบาล หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหดมั่นตัวตามดูแล
บริเวณ บ้านเรือนที่อยู่ในแม่น้ำกวง มากกว่านี้ แล้วคนให้ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมให้ห่างจาก
เขตชุมชนเป็นการที่ดีมากเพื่อสุขภาพของประชาชน และลำน้ำใกล้เขตชุมชน
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ ท่านพระครูสิริปุญญากร เจ้าอาวาสวัดศรีบุญยืน ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้สัมภาษณ์ :
สวัสดีครับ คุณลุงชื่ออะไรครับ?
คุณลุง ประสงค์ : สวัสดีคับ ลุงชื่อ ประสงค์ ธรรมป๊อก จ๊ะ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณลุงตั้งร้านที่นี้มากี่ปีแล้วคับ
คุณลุง ประสงค์ : ลุงตั้งร้านมาอยู่ ประมาณ 2 ปี แล้วจ๊ะ
ผู้สัมภาษณ์ : ตั้งแรกที่มาตั้งร้านลุงเห็นว่าน้ำกวงเป็นอย่างไรบ้างครับ
คุณลุง ประสงค์ : ที่จริงแล้วลุงเป็นคนกรุงเทพ มาเที่ยวลำพูนหลายครั้ง
ซึ้งเมื่อก่อนเห็นน้ำกวง ที่สภาพ ที่ดูแล้ว สะอาด ไม่มีสิ่งปฏิกูลเลย น่าอยู่มาก
ลุงก็เลยคิดที่จะมาตั้งร้านทีนี้
ผู้สัมภาษณ์ : อ้อ...แล้วสภาพน้ำกวงในตอนนี้
ลุงคิดว่าเป็นอย่างไง บ้างครับ?
คุณลุง ประสงค์ : ตอนแรกที่เริ่มมีปัญหานั้น ลุงคิดว่ามันสุดยอดที่สุดเลย
เป็นมีปัญหาต่างมากๆ เพราะ มีทั้งปัญหากลิ่น ปัญหา น้ำมีคราบน้ำมันหรือ สิ่งปฏิกูล
น้ำจากที่เคยใส ก็เปลี่ยนสีเป็น สีเขียวๆขุ่นๆ ทำให้ไม่หน้าดูเลย แต่ในตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว
ปัญหาเรื่องกลิ่นก็หายไป
ผู้สัมภาษณ์ : จากที่ลุงอยู่ที่นี้มาปัญหาอะไรบ้าง
ครับที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ครับ
คุณลุง ประสงค์ : ก็คงจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับสภาพน้ำที่เคยน่าดู น่าอยู่
ก็กลับมาเป็นสภาพที่ไม่น่าดูก็คือ อย่างที่พูดน้ำกลายสี จากที่เคยใสก็เป็นสีเขียวขุ่นๆ
บ้างครั้งก็มีกลิ่น
ผู้สัมภาษณ์ : ถ้าพวกเราเป็นตัวแทน
ของเทศบาล หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุณลุงจะมีแนวทาง หรือข้อเสนอแนะอะไรบ้างครับ
คุณลุง ประสงค์ : ก็อยากให้ทาง อบต. ให้มาเก็บขยะของชาวบ้านบ้าง เพราะในปัจจุบันนี้ทาง
อบต. จะ เก็บขยะที่อยู่ในถุงดำที่มีตราของ อบต. ที่ขายถุงละ 15 บาท เท่านั้น
ชาวบ้านที่ไม่ได้ ซื้อเมื่อมีขยะอยู่มากก็ ทิ้งขยะลงในแม่น้ำ จึงขอให้ทาง อบต.
ช่วยมาเก็บขยะของ ชาวบ้าน เพื่อป้องกันการทิ้งขยะลงให้แม่น้ำ
[จบการสัมภาษณ์]ขอขอบคุณ คุณลุง ประสงค์ ธรรมป๊อก ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
"กลุ่มของโครงการ [The River Of life] โรงเรียนมงคลวิทยา จึงขอขอบพระคุณ ลุงๆป้าๆที่ให้ความกรุณา การให้สัมภาษณ์ จึงทำให้การสัมภาษณ์ในครั้งนี้สำเร็จลุล่วง ไปด้วยดี จึงขอกราบขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย ขอขอบคุณครับ"