เอทีเอสไอ สานต่อนโยบายพัฒนา อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย

 

เตรียมส่งแผนปฏิบัติการด้านซอฟต์แวร์ แก่นายกรัฐมนตรีภายในเดือนมีนาคมนี้ ชี้ "มัลติมีเดีย" จุดสร้างรายได้ซอฟต์แวร์ไทย ทั้งจะว่าจ้างบุคคลภายนอก มาดำเนินการตั้งศูนย์ข้อมูลอุตสาหกรรม (อินทิลิเจนท์ อินดัสตรี เซ็นเตอร์)

 

นายอาภรณ์ ศรีพิพัฒน์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (เอทีเอสไอ) กล่าวว่า เอทีเอสไอ กำหนดจะจัดส่งแผนปฏิบัติการด้านอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แก่ พ... ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยแผนจะลงลึกในรายละเอียดของขั้นตอนการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในแต่ละประเภทของซอฟต์แวร์ เช่น ระบบบริหารสำนักงานส่วนหลัง ระบบบริหารสำนักงานส่วนหน้า ระบบช่วยปฏิบัติงาน พร้อมกลุ่มตลาดเป้าหมายที่เห็นว่าควรส่งเสริม ซึ่งประกอบด้วยอุตสาหกรรมหลักๆ ของไทย เช่น อุตสาหกรรมการผลิต, ธุรกิจสิ่งทอ, ธุรกิจอัญมณี, ธุรกิจซื้อมาขายไป, ท่องเที่ยว, บันเทิง โดยมีระยะเวลาที่สามารถวัดผลได้ ทั้งนี้ เอทีเอสไอต้องการให้ประเทศไทย ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์มากกว่าที่ประเทศอินเดียได้รับอยู่ 2 มิติ คือ สร้างงานให้คน และการสร้างรายได้เข้าประเทศ ด้วยการสร้างอีกมิติหนึ่งคือ การพัฒนาซอฟต์แวร์เฉพาะด้านที่เก่ง และมีความเป็นเลิศในด้านที่ชำนาญ โดยเน้นไปที่ระบบหลายสื่อ (มัลติมีเดีย) และฐานข้อมูล (ดาต้าเบส) ซึ่งการพัฒนาซอฟต์แวร์ของไทยปัจจุบันราว 95% จะมุ่งมาด้านนี้ เพราะการเป็นเลิศด้านมัลติมีเดีย จะสร้างสื่อใหม่ๆ ได้อีกมาก หรือหลายมิติ

 

อย่างไรก็ตาม การจะพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นอุตสาหกรรมนั้น "มาตรฐาน" เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสมาคมกำหนดมาตรฐานคุณภาพซอฟต์แวร์ไทย (Thai Quality Software : TQS) ขึ้นเป็นบันไดเบื้องต้นของการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย เพราะการทำซอฟต์แวร์ต้องมีกระบวนการดูแลซอร์สโค้ดที่ดี มีพัฒนาเป็นขั้นๆ ไป โดยหลักการของทีคิวเอสเน้นกระบวนการที่จำเป็น และเป็นมาตรฐานอย่างง่าย เพื่อให้บริษัทซอฟต์แวร์ สามารถปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ (ซอฟต์แวร์ เอ็นจิเนียริ่ง โพรเซส) ให้มีคุณภาพเป็นที่เชื่อถือ และได้รับการยอมรับในตลาด ทั้งนี้เพราะการพัฒนาซอฟต์แวร์ออกจำหน่าย แตกต่างจากการพัฒนาใช้เอง ยิ่งกว่านั้นหากต้องการพัฒนาเพื่อส่งออกจะต้องมีมาตรฐานที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งจะต้องไปถึงมาตรฐานซีเอ็มเอ็ม (Capability Maturity Model) หรือมาตรฐานไอเอสโอ ซึ่งการทำงานของสมาคมจะเริ่มทำจากสิ่งที่พอทำได้ไปก่อน ระยะแรกค่อยๆ ไป เพื่อจะเติบโตต่อไปในอนาคต

 

ส่วนการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลอุตสาหกรรม (อินทิลิเจนท์ อินดัสตรี เซ็นเตอร์) มีความเป็นไปได้ที่จะว่าจ้างบุคคลภายนอกมาก่อตั้งให้ โดยใช้งบประมาณเบื้องต้นของเอทีเอสไอเอง และอาจมีภาครัฐให้เงินช่วยเหลือช่วง 2-3 ปีแรกบางส่วน ซึ่งศูนย์ดังกล่าวถือเป็นความจำเป็นต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อทำหน้าที่หามูลค่าตลาด ประมาณความต้องการตลาด แบ่งมูลค่าตลาดตามประเภทและอุตสาหกรรมได้ แต่ไม่เคยมีศูนย์ลักษณะดังกล่าวเอื้อการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยเลย

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 15 มีนาคม 2545

 

 
Home | About us | INET | ITE| PTEC | MTS | NTJ | Software Park
National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC)
Copyright ©2001 By Information System Service Section. All rights reserved.