ไอซีทีตั้งกรรมการร่วมเอกชน สานความร่วมมือเอเชีย
ร่วมมือสิงคโปร์นำร่อง 2 โครงการ สร้างมาตรฐานแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจ-โอนย้ายแรงงานความรู้
กระทรวงไอซีที ตั้งคณะทำงานร่วมรัฐ-เอกชน
สานความร่วมมือระดับเอเชีย นำร่อง 2 โครงการร่วมสิงคโปร์ ด้านเอทีซีไอ
ดัน 3 ภารกิจหลักรัฐหนุนอุตสาหกรรม
นายมนู อรดีดลเชษฐ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีฝ่ายอี-อินดัสตรี
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และประธานสมาพันธ์อะโซซิโอ กล่าวว่า
ขณะนี้กระทรวงไอซีทีได้จัดตั้งคณะทำงานย่อย ที่มีกรรมการร่วมระหว่างเอกชนกับภาครัฐ
เพื่อประสานความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในภูมิภาคเอเชีย โดยมี พ.อ.ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท
ผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงานชุดนี้ โดยคณะทำงานจะเน้นการทำงานกับสมาพันธ์อะโซซิโอ
ซึ่งเป็นภาคเอกชนระดับภูมิภาคเอเชียโอเชียเนีย ที่มีโครงการความร่วมมือด้านไอซีทีระหว่างกัน
ภายใต้โครงการ "คอนเน็ค เอเชีย" แต่ในชั้นต้นรัฐบาลไทย จะสานความร่วมมือกับรัฐบาลสิงคโปร์
จัดทำโครงการนำร่อง 2 โครงการหลักก่อน ประกอบด้วย
1.สร้างมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อธุรกิจ
(ebXML) ซึ่งจะนำร่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก่อน
โดยอ้างอิงมาตรฐานข้อมูล จากองค์กรพันธมิตรของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Open
Travel Alliance : OTA) เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจวิสาหกิจขนาดเล็กและกลางในธุรกิจท่องเที่ยวใช้เทคโนโลยีสร้างโอกาสทางธุรกิจทั่วโลกได้ด้วยต้นทุนต่ำ
อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงบริการท่องเที่ยวจากการเชื่อมต่อในเวบไซต์เดียว
(วัน ซิงเกิล ลิงค์) โดยแลกเปลี่ยนบริการอิเล็กทรอนิกส์
(เวบ เซอร์วิส) และมาตรฐานข้อมูลท่องเที่ยว
(ebXML) ของแต่ละบริษัทที่เกี่ยวข้อง
2.การโอนย้ายแรงงานความรู้ (โนว์เลจ เวิร์คเกอร์) ด้านไอซีที โดยไม่ต้องใช้วีซ่าและใบอนุญาตทำงาน
ระหว่างไทยกับสิงคโปร์ ซึ่งเริ่มจาก 2 อาชีพหลัก
สาขาผู้บริหารโครงการด้านไอที (โปรเจค แมเนจเม้นท์) และสาขาผู้เชี่ยวชาญด้านมัลติมีเดีย โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์
อาร์ต, กราฟฟิกภาพเคลื่อนไหว และภาพแอนิเมชั่น 2 มิติ โดยอนาคตอาจขยายด้านภาพแอนิเมชั่น 3 มิติและเกม
โดยจะกำหนดคุณสมบัติร่วมกันของผู้อยู่ในสาขาอาชีพนี้ ส่วนการดำเนินงานด้านเอกสารของภาคราชการไทยนั้น
ต้องให้สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (ซิป้า) ที่กำลังจะจัดตั้งใน 2 เดือน ดำเนินการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ทั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
เอทีไอซี ดัน 3 ภารกิจหลัก
นายมนู ยังกล่าวในฐานะนายกกิตติมศักดิ์
สมาคมธุรกิจคอมพิวเตอร์ไทย (เอทีซีไอ) ว่า มี 3 ภารกิจหลักที่จะสานความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับรัฐบาลไทยในการผลักดันการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประกอบด้วย การสร้างมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและบริการ โดยใช้มาตรฐานของเอ็กซ์เอ็มแอล
และเทคโนโลยีเวบเซอร์วิส โดยจะนำร่องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก่อน
ซึ่งจะสอดคล้องกับความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยขั้นแรกได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
(สวทช.) เพื่อกำหนดมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ใช้เอ็กซ์เอ็มแอลในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
โดยจะอิงหลักมาตรฐานโลกที่มีอยู่แล้วของกลุ่มโอเพ่น ทราเวล อะไลแอนซ์ (โอทีเอ) มาเป็นแนวคิดอ้างอิงและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม
ภารกิจถัดไปจะมุ่งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาบุคลากรมืออาชีพด้านไอซีที
โดยต้องเป็นผู้มีความรู้ระดับสูงโดยเฉพาะวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ซึ่งจะสอดคล้องกับความต้องการของแนวโน้มเทคโนโลยีที่เน้นการประมวลผลแบบกระจาย (ดิสทิบิวเต็ด
คอมพิวติ้ง) นอกเหนือจากการสร้างบุคลากรระดับนักพัฒนาโปรแกรม
โดย สวทช.ได้งบประมาณ 100 ล้านบาท
ในการจัดตั้งศูนย์ไอซีที ที่มีบทบาทอบรมบุคลากรสาขาดังกล่าวด้วย ภารกิจสุดท้าย
เป็นการผลักดันเมืองที่ใช้ไอซีที หรือไอทีซี ซิตี้ โมเดล เป็นเมืองต้นแบบ
มีเชียงใหม่ และภูเก็ต เป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ที่กระทรวงไอซีทีเดินทางไปเยี่ยมชมความพร้อมแล้ว
และจะประสานงานการสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม การพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ บนอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่
รวมถึงการพัฒนาบุคลากรในระดับแรงงานไอซีทีระดับสูง เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายดังกล่าวด้วย
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 10 กรกฎาคม 2546
|