เกษตรดิจิทัล – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ Wed, 11 Oct 2023 08:58:59 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nectec.or.th/wp-content/uploads/2022/06/cropped-favicon-nectec-32x32.png เกษตรดิจิทัล – NECTEC : National Electronics and Computer Technology Center https://www.nectec.or.th 32 32 Alternate Wet&Dry ระบบตรวจวัดในนาข้าวแบบเปียกสลับแห้ง https://www.nectec.or.th/innovation/innovation-hardware-electronics/alternate-wet-dry.html Wed, 06 Sep 2023 07:38:05 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=33947

เครื่องมือช่วยในการบริหารจัดการการปล่อยน้ำเข้าและออกจากแปลงนา

การปลูกข้าวเปียกสลับแห้ง   เป็นการทำนาโดยควบคุมระดับน้ำในแปลงนาให้มีช่วงน้ำขัง สลับกับช่วงน้ำแห้ง สลับกันไป ในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพและเพียงพอต่อความต้องการของข้าว การที่มีช่วงน้ำแห้ง ทำให้รากของต้นข้าวดูดซับอากาศและอาหารได้ดีขึ้น กระตุ้นให้รากและลำต้นของต้นข้าวแข็งแรงขึ้น สามารถดูดซับสารอาหารได้ดีขึ้น ทำให้ใช้ปุ๋ยลดลง ต้นข้าวที่แข็งแรงทนต่อการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช ทำให้ใช้สารเคมีเพื่อป้องกันและกำจัดศัตรูพืชลดลง ต้นข้าวที่แข็งแรงจะแตกกอได้มากขึ้น รวงข้าวสมบูรณ์ ผลผลิตที่ได้รับก็เพิ่มขึ้น

การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งนี้ เหมาะกับการปลูกข้าวในเขตชลประทาน ในบางพื้นที่ จะใช้ปริมาณน้ำในการปลูกน้อยกว่าวิธีปลูกข้าวนาน้ำขังแบบเดิมมากกว่า 50% โดยจะใช้ท่อดูน้ำ ซึ่งทำจากท่อ PVC ความสูง 25 cm ติดตั้งในแปลงนา โดยให้ปากท่ออยู่เหนือผิวดิน 5 ซม. (ดังรูป) เมื่อถึงช่วงต้องการขังน้ำ เกษตรกรจะสูบน้ำเข้าแปลงนาให้สูงจากผิวดินประมาณ 5 ซม ท่วมปากท่อ หรืออาจจะมากกว่านั้น และจะปล่อยให้น้ำแห้งจนต่ำกว่าผิวดิน 15 ซม. หลังจากนั้นจึงสูบน้ำเข้าไปแปลงสลับกันไปการปลูกข้าวในลักษณะนี้ ช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดจากการย่อยสลายอินทรียวัตถุแบบไร้อากาศเมื่อปลูกข้าวแบบขังน้ำเป็นเวลานาน

การทำงานของ Alternate Wet&Dry

  • Alternate Wet&Dry เป็นระบบช่วยในการบริหารจัดการการปล่อยน้ำเข้า และออกจากแปลงนา ประกอบไปด้วยสถานีวัดอากาศ และสถานีตรวจวัด โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์
  • ตรวจวัดสภาพแวดล้อมในแปลงนา โดยวัดระดับน้ำในแปลงนา ความชื้นดิน อุณหภูมิดิน และสภาพอากาศ ได้แก่ ปริมาณน้ำฝน, อุณหภูมิ/ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ความเข้มแสงอาทิตย์ความเร็วและทิศทางลม นอกจากนี้ยังช่วยประเมินสภาพอากาศได้
  • ระบบจะส่งข้อมูลตรวจวัดไปเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 

ปัจจุบันระบบนี้ได้ติดตั้งทดสอบที่ สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ จ.สุพรรณบุรี และประเทศบรูไน 

จุดเด่นของเทคโนโลยี

  • ช่วยเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อมในแปลงปลูก
  • ช่วยคำนวณการใช้น้ำของแปลงปลูกข้าว จากความสูงของระดับน้ำในแปลงนา
  • ช่วยคำนวณการปล่อยก๊าซมีเทนของแปลงปลูกข้าว จากการควบคุมระดับน้ำในแปลงนา

กลุ่มเป้าหมาย

  • กลุ่มชาวนาที่เน้นการปลูกข้าวที่เน้นการลดคาร์บอนเครดิต
  • กลุ่มผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการเกษตร

ผู้วิจัยและพัฒนา

ทีมวิจัยเทคโนโลยีเกษตรดิจิทัล (DAT)
ด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบและเครือข่ายอัจฉริยะ (ITSN)
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์และประเมินผล (SPE)
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
112 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถ.พหลโยธิน
ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
เบอร์โทรศัพท์:: 0 2564 6900
E-mail: business[at]nectec.or.th

]]>
HandySense จัดอบรมเพิ่มทักษะเสริมแกร่งเกษตรกรฉะเชิงเทรา https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/handysense-training2023.html Tue, 18 Jul 2023 03:25:52 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=33686

เนคเทค สวทช. ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา และสภาเกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดโครงการส่งเสริมอาชีพตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ “หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้เกษตรกรต้นแบบด้วยระบบ HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ” เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้เกษตรไทย ได้รับเกียรติจาก คุณธนพัฒน์ เจียรสถิตย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานเปิดงาน โดยมี คุณสุภัสสร รังสินธุ์ หัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นผู้กล่าวรายงาน ทั้งนี้มีคณะผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมพิธีเปิด ณ ห้องประชุมบางแก้ว องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566

โครงการดังกล่าวมีกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 55 คน เข้าร่วมอบรมระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โครงการมีวัตถุประสงค์เพื่ออบรมส่งเสริมพัฒนาเพิ่มทักษะให้กับเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ในการใช้เทคโนโลยีด้วยระบบ HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ ไปประยุกต์ใช้การทำการเกษตรให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ โดยใช้ระบบอัตโนมัติและเซ็นเซอร์อัจฉริยะติดตามการเปลี่ยนแปลงทั้งความชื้น แสง อุณหภูมิภายในฟาร์ม ทำให้ได้ผลผลิตตามความต้องการและสามารถวางแผนระบบการตลาดในอนาคตได้ พร้อมทั้งยังขยายขีดความสามารถให้กับเกษตรกรในการผลิตสินค้าทางการเกษตร โดยลดระยะเวลาและต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกิดเกษตรกรต้นแบบที่สามารถนำองค์ความรู้ความสามารถไปถ่ายทอดให้กับผู้สนใจได้ ก่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอดอาชีพเกษตรกรรมด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่แบบยั่งยืน

]]>
เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ ! HandySense PRO & PROMAX ระบบเกษตรแม่นยำฟาร์มอัจฉริยะ https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/handysens-new-version-pro.html Tue, 15 Nov 2022 17:59:45 +0000 https://nectec.or.th/?p=30817
จากการเปิดตัว HandySense Version 1 นักวิจัยเนคเทค สวทช.ได้เก็บรวบรวมฟีดแบ็คจากผู้ใช้งานจริงทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ นักพัฒนา และเจ้าหน้าที่ส่งเสริม นำมาพัฒนาเพิ่มเติมฟังก์ชันให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น นำมาสู่การเปิดตัว HandySense PRO & PROMAX ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานสาขาอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งสำหรับเกษตรอัจฉริยะเรียบร้อยแล้ว
.
เนคเทค สวทช. ยังคงสานต่อการเผยแพร่งานวิจัยสู่สาธารณะภายใต้แนวคิด Open Innovation หรือ นวัตกรรมแบบเปิด โดยเปิดเผยพิมพ์เขียวผลงานวิจัย HandySense ทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Schematic, PCB Design, Bill of Material และ Firmware ให้ทุกคนสามารถนำต่อยอดการพัฒนาได้อย่างอิสระ โดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ (License Fee) และค่าตอบแทนการใช้สิทธิรายปี (Royalty Fee) เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการใช้งานเทคโนโลยีเกษตรในสังคมไทย ตั้งเป้าหมายให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ หรือผู้สนใจทั่วไปนำไปผลิตเพื่อใช้หรือจำหน่ายได้ ให้เกษตรกรไทยได้มีเครื่องมือที่ทันสมัยใช้งานในราคาที่จับต้องได้ และเกิดอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือเทคโนโลยีเกษตรโดยผู้ประกอบการไทย

เปรียบเทียบคุณสมบัติ HandySense ทั้ง 3 เวอร์ชัน

HandySense PRO & PROMAX

]]>
HandySense เปิดเวทีอุตสาหกรรมรับฟังฟีดแบคผลงาน พัฒนาระบบนิเวศส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีเกษตร https://www.nectec.or.th/news/news-article/handysense-forum-2022.html Thu, 10 Nov 2022 14:01:59 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=32589
เนคเทค สวทช. จัดเวทีอุตสาหกรรม HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ การส่งเสริมพัฒนาระบบนิเวศและหุ้นส่วนความร่วมมือ ชวนผู้ใช้งาน 3 กลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มผู้ผลิต จำหน่าย ติดตั้ง และบำรุงรักษา กลุ่มหน่วยงานภาครัฐที่ส่งเสริมและผลักดันภาคการเกษตรแม่นยำ และกลุ่มผู้ประกอบการที่สนใจเทคโนโลยี ร่วมอภิปรายฟีดแบคผลงาน และแนวทางการส่งเสริมและพัฒนา Ecosystem ของการเป็นเกษตรแม่นยำ หวังเป็นตัวกลางสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคเกษตร และการวิจัยพัฒนา ส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่ ในการจัดการการเกษตรแบบแม่นยำ ณ SYNHUB Digi-Tech Community จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา
 
ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาปีหลายที่ผ่านมา เนคเทค ได้ทำการวิจัยและพัฒนาระบบเกษตรอัจฉริยะมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี HandySense เป็นหนึ่งในผลงานวิจัยและพัฒนาที่มีการนำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตสรรพสิ่ง (IoT) ร่วมกับระบบเกษตรอัจฉริยะ มาเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจวัดและควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมสำหรับการเติบโตของพืช และที่ผ่านมามีเกษตรกรให้ความสนใจและติดตั้งใช้งานจริงแล้วเป็นจำนวนมาก และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานที่สะดวกสำหรับเกษตรกร เนคเทค สวทช. จึงได้พัฒนาฟังก์ชันการควบคุมและสั่งการอุปกรณ์ของ HandySense อีก 2 รุ่น ได้แก่ HandySense Pro และ HandySense Pro Max เพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้มีความเหมาะสมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นฟาร์มขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และนอกจากนี้ ผลงาน HandySense รุ่นใหม่ ได้ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งสำหรับระบบเกษตรอัจฉริยะเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อที่จะเพิ่มให้ผลงานมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความทนทานของอุปกรณ์ให้ตอบโจทย์การใช้งานด้านการเกษตรและการจัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์มากยิ่งขึ้น
 
กิจกรรมเริ่มต้นด้วยเรื่องราวผลงานวิจัยด้านเกษตรอัจฉริยะของเนคเทค สวทช. โดย ดร.ธีระ ภัทราพรนันท์ หัวหน้าทีมวิจัยระบบเกษตรดิจิทัล เนคเทค สวทช. ได้เล่าถึงภาพรวมงานวิจัยและบริการด้านการเกษตร ภายใต้ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) ได้แก่
 
1. Low-Cost Irrigation Platforms เช่น HandySense ระบบเกษตรแม่นยำฟาร์มอัจฉริยะ กล่องควบคุมวาวล์ให้น้ำ เครื่องตรวจวัดเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เครื่องตรวจสอบคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว ชาวเกษตร – Mobile Application
 
2. บริการวิจัยพัฒนาตามความต้องการเฉพาะด้าน เช่น ระบบตรวจวัดและระบบควบคุมด้านการเกษตร ระบบตรวจวัดการเจริญเติบโตของพืช ระบบตรวจวัดการเจริญเติบโตของพืช
 
3.บริการเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ทดสอบ เช่น การอบสมุนไพรด้วยสเปกตรัมแสงเพื่อเพิ่มสารสำคัญ
 
4.บริการให้คำปรึกษา แหล่งทุน และสิทธิประโยชน์ในการใช้งานเทคโนโลยีเกษตร
 
5. บริการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร ที่เนคเทคและหน่วยงานพันธมิตรจัดการอบรมด้านนวัตกรรมเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง
ก่อนเข้าสู่การอภิปรายความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้ง 3 กลุ่ม คุณนริชพันธ์ เป็นผลดี ผู้ช่วยวิจัยอาวุโส ทีมวิจัยระบบเกษตรดิจิทัล เนคเทค สวทช. ได้เล่าถึงภาพรวมการพัฒนา HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น รวมถึงเวอร์ชันใหม่ HandySense Pro และ HandySense Pro Max โดยกล่าวถึงเป้าหมายในการพัฒนา HandSense ว่า “HandySense เป็นนวัตกรรมแบบเปิดเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึง และ ร่วมมือกัน พัฒนาเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะได้ โดยมุ่งเน้นให้เกิดความยั่งยืนของเทคโนโลยี โดยการขับเคลื่อน Ecosystem ให้เป็นส่วนหนึ่งเพื่อให้เกิดการยกระดับการใช้เทคโนโลยีด้านการเกษตรของประเทศไทย” สำหรับรายละเอียดเวอร์ชันใหม่ของ HandySense นั้นเตรียมติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พ.ย. นี้ ในรูปแบบออนไลน์
 
สำหรับความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถแบ่งได้เป็น 4 ส่วนได้แก่
 
ด้านการวิจัยและพัฒนา: ผลงานวิจัยควรมีการจัดทำ Knowlage Manatement ข้อมูลพื้นฐานจำเป็นเกี่ยวกับผลงานที่เกษตรกร หรือ ผู้ใช้งานสาามารถเข้าถึงได้โดยง่าย รวมถึงการสร้างกระบวนการจัดการข้อมูลที่อุปกรณ์จัดเก็บไปสู่ Big Data หรือ เชื่อมโยงกับฐานข้อมูล แอปพลิเคชันอื่น ๆ เพื่อวิเคราะห์การเพาะปลูกได้หลากหลายและละเอียดยิ่งขึ้น
 
ด้านการทดสอบผลิตภัณฑ์: คุณภาพของเทคโนโลยีด้านการเกษตรเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้งานเทคโนโลยี สำหรับ HandySense ได้ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสาขาอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งสำหรับเกษตรอัจฉริยะเรียบร้อยแล้ว โดย Depa ยังได้นำมาตรฐานดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติในการรับเครื่องหมายรับรองผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี dSURE (ดีชัวร์) อีกด้วย
 
การพัฒนาบุคลากร: การพัฒนาบุคคลากรต้องครอบคลุมทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเทคโนโลยีด้านการเกษตร เพราะนอกจากสิ่งสนันสนุนอื่น ๆ เช่น เงินทุน อุปกรณ์ เทคโนโลยี แล้ว องค์ความรู้ความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยี รวมถึงความรู้พื้นฐานด้านการเพาะปลูก ย่อมสำคัญต่อความยั่งยืนในการใช้งานเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ ซึ่งปัจจุบัน HandySense ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้จัดทำหลักสูตรในการถ่ายทอดองค์ความรู้พัฒนาบุคคลกรทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่ เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปมากกว่า 4,000 คน รวมถึงศูนยการเรียนรู้ของกรมส่งเสริมการเกษตร และ ธ.ก.ส. อีก 16 จุดทั่วประเทศ
 
การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ: ชุมชน HandySense Community ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการขยายตัวของความร่วมมือในการส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีการเกษตรระหว่างภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และภาคประชาชน
เมื่อระบบนิเวศ (Ecosystem) ในการขับเคลื่อน HandySense ครบวงจร ทั้งการวิจัยและพัฒนา การพัฒนามาตรฐานอุปกรณ์ไอโอทีด้านการเกษตร การสนับสนุนให้เกิดผู้ผลิต ผู้ให้บริการ ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่าย เกิดช่องทางการจัดจำหน่ายที่เกษตรกรเข้าถึงได้โดยง่าย การสนับสนุนแหล่งเงินทุนและสิทธิประโยชน์ในการใช้งานเทคโนโลยีเกษตร ประกอบกับการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ระบบนิเวศที่สมบูรณ์นี้จะทำให้เกิดความต้องการจริงของการใช้งานเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ และทำให้ระบบนิเวศการขับเคลื่อนนี้สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน
 
นอกจากนี้ในช่วงท้ายของกิจกรรมยังได้มีการนำเสนอบทบาทของภาครัฐในการสนับสนุนส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีด้านการเกษตรเพื่อขยายผลการใช้งานไปสู่แต่ละภูมิภาค โดย คุณนริชพันธ์ เป็นผลดี ผู้ช่วยวิจัยอาวุโส ทีมวิจัยเทคโนโลยีเกษตรดิจิทัล เนคเทค สวทช. และ ดร.พรพรหม อธีตนันท์ รองผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายกลยุทธ์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี เนคเทค สวทช. ร่วมดำเนินรายการ
 
ดร.สุรางค์ศรี วาเพชร ผู้อำนวยการกลุ่มภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรมด้านการเกษตร กองวิจัยพัฒนางานส่งเสริมการการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล่าถึงนโยบายการสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะของกรมส่งเสริมการเกษตร รวมถึงแนวทางการพัฒนาต่อยอดการส่งเสริมประยุกต์ใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะ HandySense พร้อมกล่าวถึงข้อสังเกตเกี่ยวกับผลงานว่า “HandySense เป็นการส่งเสริมเทคโนโลยีต้นน้ำเท่านั้น ยังไม่ครบห่วงโซ่การผลิต และยังใช้งานไม่เต็มศักยภาพของผลงาน ที่สามารถเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลของการตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability Digital Platform) หากสามารถนำข้อมูลเรียลไทม์ที่ได้ถือเป็นชุด Big Data ที่สามารถนำ มาวิเคราะห์เพื่อหาปริมาณความต้องการน้ำ ที่ถูกต้องของพืชนั้น ๆ พร้อมกับการสร้างโมเดลการพยากรณ์การผลิตและผลผลิตต่อไปได้”
 
โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จในการขับเคลื่อนการส่งเสริมใช้ HandySense ของเกษตรกร คือ 1) ความร่วมมือของทุกหน่วยงานพันธมิตร ทำงานในบทบาทของตนเองอย่างเต็มที่ และทำทันที มีการบูรณาการแผนปฏิบัติงานร่วมกันทั้งในด้านบุคลากร งาน และงบประมาณ 2) เกษตรกรต้องสามารถเข้าถึงองค์ความรู้และคำปรึกษาการใช้งานได้ง่าย หลายช่องทาง ของทุกหน่วยงานพันธมิตรสามารถซื้อหาชุดอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานในราคาที่เอื้อมถึงและมีบริการหลังการขาย 3) มีผู้ใช้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีและงบประมาณการลงทุนเพื่อให้เกษตรกรกล้าลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่
 
คุณปิยะ บุญมาประเสริฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักพัฒนา SME และ Startup ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวถึงบทบาทของ ธ.ก.ส. ที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำสำหรับเกษตรกรเท่านั้น แต่ ธ.ก.ส. ยังสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านการเกษตร ค้นหาเกษตรกร New Gen ในพื้นที่ และเสริมสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายเพื่อสนับสนุนส่งเสริมการวิจัยพัฒนานวัตกรรมด้านการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผลการใช้งานเทคโนโลยีด้านการเกษตรไปในวงกว้าง
 
ด้าน คุณวิศิษฏ์ ไหมเพ็ชร หัวหน้างานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวถึง เสริมสร้างและยกระดับทักษะบุคลากรครูผู้สอนระดับอาชีวศึกษา ด้านเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตสรรพสิ่ง (IoT) โดยใช้นวัตกรรมแบบเปิด HandySense การสนับสนุนคูปองดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการเกษตร โดยต้องช่วยลดต้นทุน หรือ เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
 
ในช่วงท้ายของกิจกรรม คุณนิติ เมฆหมอก นายกสมาคมไทยไอโอที และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์ยี เทคโนโลยี จำกัด ได้นำชมพื้นที่ SYNHUB Digi-Tech Community ซึ่งเป็นชุมชนคนนวัตกรรมและแหล่งบ่มเพาะ Startups ผ่านความคิดสร้างสรรค์เพื่อดึงศักยภาพด้าน IoT ให้เกิดเป็นผลงานและออกสู่ตลาดพร้อมนำกลับมาสร้าง New Ecosystem สำหรับต้นแบบ Smart City เมืองอัจฉริยะแห่งอนาคตผ่าน Lifestyle และ Digital Solution ที่ง่าย สะดวก รวดเร็วและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการเรียนรู้และมุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
]]>
เนคเทค สวทช. จับมือเครือข่ายพันธมิตรเสริมแกร่งเกษตรกรรมไทย เปิดโลกเทคโนโลยีเกษตรดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงได้ในงาน NECTEC-ACE 2022 https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/press-nectec-ace2022.html Thu, 08 Sep 2022 14:14:47 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=28828

8 กันยายน 2565: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค สวทช. ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน (พด.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท. สวทช.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) พร้อมพันธมิตรภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เครือเบทาโกร สมาคมไทยไอโอที จัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทค ประจำปี 2565 หรือ NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2022 (NECTEC–ACE 2022) ภายใต้แนวคิด “ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” จัดแสดงผลงานและสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเกษตรยั่งยืน (Digital Technology for Sustainable Agriculture) ระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2565 ณ อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี และ รูปแบบสัมมนาออนไลน์

ดร.ชัย  วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่างานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทคประจำปี 2565 หรือ (NECTEC–ACE 2022) ยังคงได้รับการสนับสนุน และความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ที่เล็งเห็นประโยชน์และความสำคัญจึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงาน รวมไปถึงทุกท่านที่ให้ความสนใจเนื้อหาของงาน ซึ่งได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง ณ สถานที่จัดงาน และระบบสัมมนาออนไลน์ รวม 2 วันของการจัดงาน มากกว่า 3,000 คน

เนคเทค มีภารกิจหลักในการดำเนินงานวิจัยพัฒนา นำองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญของทีมนักวิจัย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประเทศทางด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ ปีนี้เนคเทคครบ 3 รอบ หรือ 36 ปีแห่งการก่อตั้ง ซึ่งเรายังคงเดินหน้าต่ออย่างมุ่งมั่นกับการทำหน้าที่วิจัยและพัฒนาเปรียบเสมือนเป็น “เครื่องจักรสำคัญเพื่อสร้างฐานรากทางเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับประเทศ” รวมถึงการเตรียมความพร้อมงานวิจัยเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยร่วมกับพันธมิตรผลักดันให้เกิดระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ของการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่วิจัยพัฒนาขึ้นไปสู่การใช้งานได้จริง เกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มาก ให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน เสมือนกับการเป็นสาธารณูปโภคที่ส่งให้ประชาชนทุกคนในบ้าน เพื่อช่วยให้ประชาชนคนไทยมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยแต่ละปีมีโครงการวิจัยพัฒนาที่ได้ดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน ไม่ต่ำกว่า 200 โครงการ

การจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทค หรือ NECTEC Annual Conference & Exhibitions ที่เรียกย่อๆ ว่า NECTEC-ACE จึงถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งมอบผลงานให้กับประเทศ เป็นเวทีนำเสนอผลงานวิชาการ ผลงานวิจัยที่ใช้งานได้จริง ตลอดจนการได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือ และสนับสนุนภารกิจของเครือข่ายพันธมิตรที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานวิจัยให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ โดยปีนี้นับเป็นครั้งที่ 15 ของการจัดงาน ที่ผ่านมามีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงาน มากกว่า 1,000 คน และความพิเศษในแต่ละปีจะมีการนำเสนอแนวคิดหลักที่แตกต่างกันออกไป

งานในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2565  ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จังหวัดปทุมธานี และรูปแบบสัมมนาออนไลน์ ให้แก่กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย ทั้งผู้บริหารองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนด้านการเกษตร ผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจเอกชน นักวิจัย นักวิชาการ เกษตรกร นิสิต นักศึกษา และผู้ที่สนใจในด้านเทคโนโลยีเกษตรดิจิทัล ซึ่งเนคเทคได้ให้ความสำคัญ มีความพยายามพัฒนางานวิจัยเทคโนโลยีด้านการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทาย และเนคเทคไม่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้เพียงลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการสนับสนุนส่งเสริมภาคเกษตรกรรมภายในประเทศมาร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ

จึงเป็นที่มาของการจัดงาน ภายใต้แนวคิด “ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” โดยมุ่งเน้นทางด้าน “Digital Technology for Sustainable Agricuture” ที่ทุกหน่วยงานจะได้มาร่วมสร้างและเติมเต็ม Ecosystem ในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้เติบโต เพื่อสร้างภาคเกษตรกรรมไทยให้ยั่งยืน จึงได้จับมือร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ และภาคเอกชน อันได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร, กรมพัฒนาที่ดิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร สวทช. เป็นเจ้าภาพร่วมจัดงาน พร้อมด้วยพันธมิตรผู้สนับสนุน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน), บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด,  สมาคมไทยไอโอที และเครือเบทาโกร เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงาน

ความน่าสนใจภายในงานประกอบด้วย

  • สัมมนาวิชาการ จำนวน 11 หัวข้อ จากผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิจัย นักวิชาการ กว่า 30 ท่าน ที่จะมาร่วมนำเสนอความก้าวหน้าทางวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเกษตรยั่งยืน
  • 6 โซนนิทรรศการผลงานวิจัย จากภาครัฐและเอกชน เพื่อแสดงศักยภาพ และเทคโนโลยีพร้อมใช้ ช่วยขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยสู่เกษตร 4.0

และอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษในปีนี้ กับ Open House เปิดบ้าน ให้เยี่ยมชมตัวอย่างแปลงเกษตรสาธิตที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในการดำเนินงานจริง ในพื้นที่สวทช. และบริเวณใกล้เคียง กับ 4 สถานีเพื่อการเรียนรู้ ได้แก่

  • Plant Factory: โรงงานปลูกพืชระบบปิด โดย BIOTEC สวทช.
  • AGRITEC: สวนเกษตรอัจฉริยะ โดย สท. สวทช.
  • NECTEC Smart Garden: ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ โดย เนคเทค สวทช.
  • สวนเกษตรในเมือง: อาคารเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
]]>
อัปสกิลเกษตรดิจิทัล ปั้น HandySense Avenger Team กรมส่งเสริมการเกษตร จับมือ ธกส. เนคเทค จัดอบรม “ระบบบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ (HandySense) https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/handysense-avenger.html Tue, 14 Jun 2022 14:18:38 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=27155
14 มิ.ย. 65: เนคเทค สวทช. กรมส่งเสริมการเกษตร และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “ระบบบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ (HandySense)” ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ กิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ โดยร่วมกันขยายผลองค์ความรู้การเกษตรอัจฉริยะของเนคเทค สวทช สู่สาธารณะ ภายใต้หลักการ Smart Farming Open Innovation เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร และพันธมิตรการพัฒนาด้านการเกษตร สามารถเข้าถึงการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่เพื่อพัฒนาการเกษตร ระหว่างวันที่ 14 – 16 มิ.ย. 65 ณ ศูนย์ส่งเสริมส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านวิศวกรรมเกษตรจังหวัดชัยนาท และผ่านระบบออนไลน์ Zoom
สำหรับพิธีเปิดการอบรมในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. ผู้บริหารกรมส่งเสริมการเกษตร นำโดย คุณปาลลิน พวงมี ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร ดร.สุรางค์ศรี วาเพชร ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยด้านส่งเสริมการเกษตร คุณบุญยืน ตันไถน ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนวัตกรรม ธ.ก.ส. พร้อมด้วยดร.พรพรหม อธีตนันท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี เนคเทค สวทช. และคณะนักวิจัยทีมเทคโนโลยีเกษตรดิจิทัล เนคเทค สวทช. นำโดย คุณนริชพันธ์ เป็นผลดี คุณปิยะ ชาติไทยเจริญ และคุณพุฒิพงษ์ สุขรัตน์ ร่วมเป็นวิทยากร
การอบรมเชิงปฏิบัติการ “ระบบบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ (HandySense) เป็นการอบรมระดับที่ 3 เนื้อหาเข้มข้นด้านการเขียนโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์เกษตรอัจฉริยะ (HandySense) เพื่อให้เกษตรกรและเจ้าหน้าที่มีความรู้และทักษะในการพัฒนาซอฟต์แวร์เกษตรอัจฉริยะ (HandySense Avenger Team) สามารถประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการแปลงเกษตรให้มีความเหมาะสมกับสภาพการปลูกพืชเศรษฐกิจแต่ละพื้นที่ เกิดประสิทธิภาพในการผลิตและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตลอดจนสามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้เรื่องการบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะได้อย่างครบวงจร
 
ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวเปิดการอบรม ความว่า การอบรมในโครงการนี้เป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญสำหรับทีม เนคเทค สวทช. ในการทำงานเพื่อสนับสนุนภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เนคเทค สวทช. ยังคงมุ่งมั่นวิจัยพัฒนา ระบบและเครื่องมือ ด้านนวัตกรรมเกษตร เพื่อใช้เดินหน้าขับเคลื่อน Smart Farm สู่สังคมไทย สร้างระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการเกษตร สนับสนุนการเกษตรสมัยใหม่ โดยนำเทคโนโลยีเซนเซอร์ ร่วมกับ IoT และ AI เข้ามาช่วยในกระบวนการเพาะปลูก ช่วยให้เกษตรกรสามารถควบคุมสภาวะแวดล้อมในการเพาะปลูกได้ตั้งแต่ต้น ส่งผลต่อการควบคุมคุณภาพและประเมินปริมาณผลผลิตด้วย

ในระยะต่อไป กรมส่งเสริมการเกษตร ธ.ก.ส. และ เนคเทค วางแผนเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผลผลิต/เกษตรกร และข้อมูลความต้องการผลผลิตจากโรงเรียนหรือโรงพยาบาล หรือหน่วยงานบริการของรัฐอื่นๆ ด้วยระบบเชื่อมโยงผลผลิตเพื่ออาหารกลางวัน (Farm to School) เพื่อสร้างระบบนิเวศเกษตรดิจิทัลอีกด้วย
 
HS-Avengers-Quote (1)
คุณบุญยืน ตันไถน ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนวัตกรรม ธ.ก.ส. เผยว่า “เกษตรกกรรมและเทคโนโลยีต้องมาคู่กัน การผลิตแบบดั้งเดิมอาจไม่ตอบโจทย์การพัฒนาในอนาคตที่ต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การจัดการ และการลดต้นทุน สิ่งสำคัญที่สุด คือ เทคโนโลยีที่จะนำมาช่วยให้เกิดความสะดวก ตอบโจทย์เกษตรกรรุ่นใหม่ ซึ่ง HandySense เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการจัดการด้านการเกษตร ทั้ง น้ำ ดิน และการบำรุง โดยเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม ตัวกลางที่จะขับเคลื่อนการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่เกษตรกรก็เป็นเรื่องสำคัญ หลักสูตรการอบรมในโครงการนี้จะช่วยให้การขับเคลื่อนเทคโนโลยีไปได้อย่างยั่งยืน”
HS-Avengers-Quote (2)
ด้านคุณปาลลิน พวงมี ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ระบบบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ (HandySense) เป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาวิทยากรด้านการเกษตรอัจฉริยะของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งหลักสูตรระดับที่ 3 นี้ เป็นหลักสูตรที่เกี่ยวกับการใช้โปรแกรม Firmware และหลักการออกแบบโปรแกรม เพื่อให้สามารถ พัฒนา ปรับปรุงแก้ไข และต่อยอดให้เหมาะสมกับความต้องการแบบเฉพาะเจาะจงทางด้านการเกษตร ให้กับนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรที่ได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาคประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด ระดับอำเภอและเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการในสังกัดของกรมส่งเสริมการเกษตร และเกษตรกร เพื่อยกระดับเป็นวิทยากรเกษตรอัจฉริยะ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เกษตรกรรายอื่นๆ ให้นำไปประยุกต์ใช้ในการผลิตสินค้าเกษตรได้อย่างเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของชุมชนต่อไป
HS-Avengers-Quote (4)
โครงการฯ มีเป้าหมายการสร้างแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะในชุมชนและศูนย์ปฏิบัติการในสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร ตลอดจนการสร้างวิทยากรทั้งที่เป็นเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร เพื่อสร้างความพร้อมสาหรับการเรียนรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้ระบบเกษตรอัจฉริยะ (HandySense)” สู่สาธารณะและสังคมการเกษตรอย่างแพร่หลายต่อไป
]]>
ชี้เป้าคอร์สออนไลน์ฟรี ! อัปสกิล Smart Farm สอนใช้งาน HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ https://www.nectec.or.th/news/news-article/hds-course.html Tue, 13 Jul 2021 07:57:35 +0000 https://www.nectec.or.th/?p=16800

HandySense ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจวัดและควบคุมสภาพแวดล้อมในแปลงปลูกได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ในราคาที่จับต้องได้ พิสูจน์แล้วว่าช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างน้อย 20%

hds-course

ล่าสุด HandySense ได้ประกาศตัวเปิดตัวเป็น Open Innovation เปิดพิมพ์เขียวการผลิตสู่สาธารณะ ทั้ง Schematic, PCB Design, Bill of Material และ Firmware เพื่อนำไปผลิต หรือ ต่อยอดการพัฒนาได้อย่างอิสระ ส่งเสริมและสนับสนุนการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลแบบเปิดไปประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรไทยได้เข้าถึงและสามารถใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีด้านเกษตรสมัยใหม่ได้อย่างง่ายดาย ในราคาที่ประหยัด และเหมาะสมต่อการใช้งาน

สำหรับท่านที่ลงทะเบียนได้รับพิมพ์เขียว HandySense มาแล้วไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เรามีคลิปวิดีโอสอนใช้งานมาฝาก ตั้งแต่ วิธีการติดตั้งระบบ การดาวน์โหลดพิมพ์เขียว กระบวนการสั่งทำบอร์ด การเชื่อมต่อเซนเซอร์ และ Dashboard และการทดสอบและอ่านค่าเซนเซอร์

รับชม ! ทุกเนื้อหาการสอนฟรี ที่ Playlist นี้ > https://bit.ly/hds-course-playlists
Cinque Terre
]]>