พระอรหันต์ คือ
บุคคลที่สามารถดับกิเลสและกองทุกข์ได้อย่างต่อเนื่อง
โดยการละสังโยชน์เบื้องต่ำและเบื้องสูงทั้ง
10 ข้อได้หมด(ละกิเลสได้หมด) จึงทำให้จิตใจมีความบริสุทธิ์ผ่องใส
สังโยชน์เบื้องสูงที่พระอรหันต์ต้องละให้หมดมี
5 ข้อ ดังนี้
1. ความติดใจในรูปอันประณีต(รูปราคะหรือสังโยชน์ข้อที่
6) คือ มีความหลงใหลหรือมีความคิดที่ยึดมั่นถือมั่นในรูปอันประณีต
2. การติดใจในความไม่มีรูปอันประณีต(อรูปราคะหรือสังโยชน์ข้อที่
7) คือ การมีความหลงใหลหรือมีความคิดที่ยึดมั่นถือมั่นในความไม่มีรูปอันประณีต
3. ความถือตัว(มานะหรือสังโยชน์ข้อที่
8) คือ ความยึดมั่นถือมั่นด้วยความคิดที่เป็นกิเลส
(มีสังขารในปฏิจจสมุปบาท)ว่า เราเป็นนั่นเป็นนี่ที่มีความเหนือกว่า
หรือเท่าเทียมกว่า หรือต่ำกว่าผู้อื่น ซึ่งเป็นการคิดด้วยกิเลส
4. ความคิดฟุ้งซ่าน(อุทธัจจะหรือสังโยชน์ข้อที่
9) คือ ความคิดที่ปรุงแต่งขึ้นเองในเรื่องที่ไม่มีเจตนาคติ
เพราะขาดสติในการควบคุมความคิด ความฟุ้งซ่านในธรรมหรือเรื่องต่างๆเพียงเล็กน้อย
ที่ไม่มีข้อมูลด้านกิเลสเจือปน
5. ความหลง(อวิชชาหรือสังโยชน์ข้อที่10)
คือ ความไม่รู้แจ้งชัดตามความเป็นจริงในอริยสัจ
๔ ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ.
การดับความหลงได้น้อย(มีวิชชาน้อย)
จะสามารถดับความโลภ ความโกรธ และกองทุกข์ได้น้อย
ดับได้ชั่ว คราว ดับได้ช่วงสั้น ๆ และไม่ต่อเนื่อง.
การดับความหลงได้มาก(มีวิชชามาก) จะสามารถดับความโลภ
ความโกรธ และกองทุกข์ได้มากขึ้นตามสัดส่วนด้วย.
การดับความหลงได้หมดสิ้น(มีวิชชาครบถ้วน)
คือ การมีความรู้แจ้งชัดในอริยสัจ ๔ ทั้งภาคทฤษฎีและภาค
ปฏิบัติอย่างถูกต้อง ครบถ้วน จะสามารถดับความโลภ
ความโกรธ และกองทุกข์ได้อย่างต่อเนื่อง นั่นคือการบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์.
|